อันเนื่องมาจาก งานที่เป็นพันธนาการ vs งานที่เป็นเนื้อแท้ของชีวิต


     อันเนื่องจาก การอ่านบล็อกของอาจารย์ประพนธ์ ในเรื่อง งานที่เป็น "พันธนาการ" vs. งานที่เป็น "เนื้อแท้" ของชีวิต ก็เลยขอหยิบมาต่อยอดต่อ
     ผมยอมรับในหลักการนะครับว่าเราเดินมาถึงทางสองแพร่งของคำว่างาน ที่จะต้องเลือกว่า ทำงานเพื่อหาเงิน หรือทำงานเพื่อความสุข แต่บนทางสองแพร่งนี้ ไม่ใช่ว่าทุกคนสามารถเลือกได้ตามใจที่ตัวเองปรารถนา ภาระความรับผิดชอบต่างๆนานา ที่อยู่ข้างหลัง จะเป็นตัวผลักดันให้เราต้องเลือก บางครั้งอาจต้องลืมเสียด้วยซ้ำว่าตัวเราชอบอะไร ระหว่างทางสองแพร่งที่ว่า ความมีอิสระในการเลือกต่างหากเป็นสิ่งที่แตกต่างกัน บางคนที่มีความพร้อมในปัจจัยสี่แล้ว ก็ถือว่ามีอิสระที่จะเลือกทางที่ตัวเองปรารถนา ซึ่งก็ถือว่าเป็นโชคอันมหาศาลที่ได้ทำในสิ่งที่ตัวเองรัก ในขณะที่คนส่วนใหญ่ อาจไม่มีความพร้อมที่จะต้องเลือก แต่ถูกภาระรับผิดชอบบุคคลที่อยู่ข้างหลัง บังคับให้ต้องเลือกการถูกพันธนาการด้วยงาน สิ่งที่ตามมาของการเลือกทางเดินสายหลังนี้ต่างหากที่ผมมองว่ามีความแตกต่างระหว่างบุคคลครับ
    การถูกพันธนาการด้วยงาน มิใช่ข้อเสียหายเหมือนดังเช่นคุณ NidNoi กล่าวไว้ และเมื่อจำต้องเลือกทางสายนี้ การสร้างความสุขบนงานที่ตัวเองทำ เป็นอีกทางหนึ่งที่ทำให้เรามีความสุขและเข้าถึงจุดศูนย์กลางของชีวิตตามที่อาจารย์กล่าวถึงได้ วิธีการที่ทำให้ตัวเองสนุกและมีความสุขกับงานมีอีกเป็นร้อยเป็นพันวิธี ในความเห็นส่วนตัวของผม ผมไม่คิดว่าบุคคลเหล่านี้เป็นผู้ถูกพันธนาการด้วยภาระแห่งงาน เขาเหล่านั้นน่าจะเป็นผู้ที่หลุดพ้นจากโซ่ตรวนแห่งพันธนาการมาแล้ว แม้อาจจะยังไม่ถึงพร้อมของการเข้าถึงจุดศูนย์กลางของแก่นแท้ชีวิตได้ ผู้ที่ไม่สามารถปรับความรู้สึกของตัวเองให้มีความชอบและรักงานที่ตัวเองทำต่างหากถึงจะเป็นผู้ที่ถูกพันธนาการอย่างแท้จริง
     ตรวจสอบดูได้ง่ายๆ ครับว่าคุณรักงานที่คุณเองทำอยู่หรือเปล่า ถ้าไม่โกหกตัวเองเสียก่อน คืนนี้นอนหลับให้เต็มที่ พรุ่งนี้ตื่นขึ้นมาด้วยความสดชื่น ลองถามตัวเองดูซิว่า อยากไปทำงานหรือเปล่า ถ้าคุณตอบด้วยความกระตือรือร้นว่าอยากไปทำงาน คุณก็น่าจะเข้าข่ายของผู้หลุดพ้นพันธนาการแห่งงานแล้ว แต่ถ้าคุณตอบว่าขอนอนต่อดีกว่า คำตอบของคุณก็น่าจะชัดเจนอยู่แล้วว่าคุณอยู่ในสถานะใด
คำสำคัญ (Tags): #uncategorized
หมายเลขบันทึก: 20394เขียนเมื่อ 23 มีนาคม 2006 08:40 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 14:36 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (4)
...งดงาม และได้ใจความที่ครอบคลุมดีจังเลย  เขียนดีๆ อย่างนี้ต้องเขียนบ่อยๆ นะครับ ผมจะคอยตามอ่าน
ขอบคุณอาจารย์ประพนธ์มากครับ ผมเองก็ติดตามงานบันทึกของอาจารย์อย่างสม่ำเสมอ รู้สึกสะดวกขึ้นเมื่ออาจารย์ได้เข้ามาร่วมในชุมชน smart path แต่อย่างไรก็ตามผมเองไม่ค่อยมีพื้นด้านปรัชญา บางครั้งอ่านงานเขียนของอาจารย์แล้วไม่ค่อยเข้าใจ เพียงแต่แสดงความคิดเห็นตามที่ตัวเองคิด
สำหรับตนเอง คิดว่าชีวิตเกิดมาพร้อมกับ "พันธนาการ" หรือจะเรียกว่าเป็น ภาระความรับผิดชอบก็ได้ ตั้งแต่เกิด เราก็อยู่ใน พันธะของการเป็น "ลูก" ในครอบครัว เป็น "เด็กนักเรียนในรร." .... จนเป็น "คนหนึ่ง" ในที่ทำงาน  เพียงแต่เราสร้างคุณค่าของตัวเองอย่างไรในแต่ละพันธะ เหล่านั้นแล้ว แล้วเราก็จะได้ทั้ง ความสุข และ ความสำเร็จ ในพันธนาการนั้นๆ

ฝากประเด็นมาเพิ่มเติมครับว่า "พันธนาการ" กับ "ความรับผิดชอบ" ...ผมว่าน่าจะเป็นคนละอย่างกัน ...ในหนังสือ "หลุด" osho อธิบายว่า "เป็นการหลุดจากพันธนาการ ไปสู่บางสิ่งบางอย่าง" และท่านยังได้เน้นอีกด้วยว่า "อิสรภาพนี้ต้องมาพร้อมกับความรับผิดชอบ" ...ตกลง "หลุด" จากพันธนาการ แต่ไม่ "หลุด" จากความรับผิดชอบครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท