แม่ลูกสองตอนที่ 2


ลูกคนโตเป็นpositive คนเล็กเป็น negative

ลูกชายคนโตอยู่ในท้องครบ9เดือนพอดีไม่ขาดไม่เกินเกิดวันที่ 12 สิงหาคม 2524 ที่โรงพยาบาลพระมงกุฏเกล้า นำหนักแลกเกิด4100กรัม! ชื่อวุฒิพล (ตุ้ม) พ่อตั้งให้ตั้งแต่อยู่ในท้องเพราะมั่นใจว่าต้องเป็นลูกชาย ซึ่งเป็นที่รักของทุกคนเพราะเป็นหลานคนแรกไกวเปลกันตลอดเวลาหยุดเมื่อไรเป็น(แหกปาก)ร้องทุกที อ้วนท้วนสมบูรณ์น่ารักน่าชัง จนคุณหมอขอให้เปลี่ยนนมที่มีไขมันน้อย หนอ่ยมิฉะนั้นจะเป็นโรคอ้วน เรียนอนุบาลที่โรงเรียนไผทอุดมศึกษาได้เป็นหัวหน้าห้องแทบทุกปีครูทุกคนรัก ส่งงานครบผลการเรียนอยู่ในเกณฑ์ดี ตลอดเวลาที่เรียนชั้นประถมไม่เคยต้องเตือนเรื่องทำการบ้านหรือเปลี่ยนชุดนักเรียนเขาจะรู้หน้าที่ ไปห้างCentral ไม่เคยร้องให้ซื้อของเล่นเพียงแค่แม่บอกว่า แม่ไม่ได้เอาสตางค์มา เขาก็จะแค่ไปดูหรือเล่นเฉพาะที่ห้างเอาออกมาให้เด็กเล่นจนเบื่อก็ขอกลับบ้าน แต่ก็มีเรื่องแปลกถ้านั่งอยู่ในรถแล้วเกิดฝนตกเป็นร้องกลับบ้านแม้ว่าจะอยู่กับพ่อ-แม่ก็ตาม ประสพอุบัติเหตุเกี่ยวกับน้ำ3 ครั้ง  ตกโอ่งขนาดใหญ่ , ตกแพที่ห้วยขมิ้น , จมน้ำทะเลที่บ้านฉาง ส่วนใหญ่คุณพ่อจะเป็นคนช่วยชีวิตทั้งสิ้น และทุกครั้งแม่ไม่เคยเห็นเลยสักครั้งเดียว ซึ่งโชคดีแล้วเพราะแม่ว่ายน้ำไม่เป็น จนจบป.6สอบเข้าเรียนต่อม.1ที่โรงเรียนสารวิทยาจนจบม.6สอบตรงเข้าคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ได้เพียงคนเดียวในปีนั้น เรียนจนจบ4ปี ไม่ยอมสมัครงานขอบวชให้พ่อแม่ก่อน จึงเข้าอุปสมบทที่วัดพระศรีมหาธาตุบางเขน 1 เดือนแล้วจึงสมัครงาน ขณะนี้ทำงานที่บริษัท Leo transport ซึ่งเป็นบริษัทนำเข้าส่งออก และที่สำคัญตอนนี้ยังไม่คิดหาแฟน ขอเรียนต่อปริญญาโทก่อน อ่านแล้วเป็นอย่างไรคะเขาเป็น Positive จริงๆ

คนที่สองเกิดวันที่ 27 ตุลาคม 2526 รวมอยู่ในท้องแม่แค่7 เดือนกว่าต้องรีบออกเพราะถุงน้ำคล่ำเกิดรั่ว เกิดการติดเชื้อเป็นปอดบวม น้ำหนักแรกคลอด 2800กรัม แรกเกิดหมอไม่ให้ความหวังเลยว่าจะมีชีวิตรอดขอให้อยู่ครบ3วันจึงจะบอกได้ว่าจะรอดหรือไม่ ตลอดเวลาพ่อแม่ร้องไห้ทุกวันสงสารลูกตัวแค่นี้ต้องต่อสู้กับโรคร้ายแล้วขนาดเด็กโตยังตาย แล้วนี่เพิ่งเกิดจะรอดหรือ คิดมากขนาดจะซื้อโรงศพขนาดไหนมาใส่ลูก พอวันที่3 เขาไม่หายใจตัวเขียวคุณหมอต้องมาช่วยกันปั๊มหัวใจ ตั้งแต่นั้นมาเขาก็ดีขึ้นเหมือนตายแล้วเกิดใหม่ ลิ้นหัวใจก็รั่วอายุ10ขวบถึงจะผ่าตัดได้ ดูแลกันตลอดตัวก็นิดเดียวแถมยังต้องอยู่โรงพยาบาลต่ออีก1 เดือนจนหายปกติ คนนี้กว่าจะตั้งชื่อได้ต้องรอให้แน่ใจว่ารอดแน่นอน เลยชื่อ อรรคพล (ตั๋ม) คุณหมอขอรูปเอาไว้ดูว่าเด็กคนนี้แข็งแรงมากรอดจากโรคปอดบวมได้  พอกลับบ้านกลางวันนอนน่ารักมากแต่พอกลางคืน(แหกปาก)ร้องตลอด จนคุณหมอต้องให้กินยานอนหลับ กินได้ 1 สัปดาห์ก็ลืมว่าจะต้องร้อง ซึ่งยาขวดนี้ใช้กันเป็นทอดๆ ลูกน้องคนใดร้องเก่งในเวลากลางคืนก็มาขอไปกินจนหมดขวด พออายุ3เดือนลิ้นหัวใจก็เป็นปกติไม่ต้องผ่าตัด โล่งอกไปได้ เข้าเรียนอนุบาลที่โรงเรียนไผทอุดมศึกษาชอบเล่นไม่ชอบเรียนโดนครูตีประจำเป็นคนถนัดมือซ้าย ครูก็บังคับให้ใช้มือขวาจนสำเร็จ เป็นเพราะเหตุนี้หรือเปล่าที่ทำให้ไม่ชอบเรียนเพราะโดนบังคับให้ใช้มือขวา เลยเล่นอย่างเดียวครูอยากตีก็เชิญ ไม่ชอบทำการบ้าน ไม่ส่งงาน สอบที่ไรมีตกกับเกือบตกทุกครั้งไป เคยประสพอุบัติเหตุวิ่งตัดหน้ารถจักรยานต้องเย็บที่ดั้งจมูกซึ่งเป็นแผลเป็นจนทุกวันนี้ จนจบป.6เข้าม.1ที่โรงเรียนสารวิทยาอีกคน พอมาเรียนที่สาระ เขาบอกว่าดีเกินกว่าที่เขาคิด ทำให้มีความสุขในการเรียนหนังสือบ้างเพราะครูที่นี่ไม่มีใครบังคับ จึงทำการบ้านทำงานส่ง เริ่มเป็น Positive บ้างแล้ว แต่คะแนนรวมก็ยังไม่ดีเพราะได้2 กว่านิดหน่อย อาจารย์ธิติพร ซึ่งสอนศิลปเห็นแววว่าชอบวาดรูปได้แนะนำแม่ว่าให้ลูกไปสอบเรียนต่อทางด้านศิลปะที่วิทยาลัยช่างศิลป์ ซึ่งก็สอบเข้าเรียนต่อได้ จนจบปวช.เห็นว่าเรียน Fine Art ไม่ไหวไม่ถนัด จึงมาสอบเข้าเรียนต่อที่สถาบันเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี คณะศิลปกรรม สาขานิเทศศิลป์ เป็น Applied Art ซึ่งเขาก็ชอบ ตอนอยู่ปี1 เกิดอุบัติเหตุเล่นงัดข้อกับรุ่นพี่กล้ามเนื้อไปบีบกระดูกจนกระดูกแตกไม่ใช่หัก ต้องผ่าตัดเอาเหล็กดามกระดูก ทำให้การเรียนในปี1 มีปัญหาเรื่องการใช้มือและแขนต้องDrop หลายวิชา ทำให้จบช้าไป1ปี ขณะนี้เรียนจบแล้วทั้งพ่อแม่ต่างโล่งใจถึงวันนี้เสียที่  เขาก็ทำตามพี่ชายคือจบเมื่อไรจะบวชให้พ่อแม่ทันที่ แต่เกิดได้งานก่อนที่ Modern Form ทางบริษัทก็ดีเหลือเกินอนุญาตให้ลาบวชได้ 1 เดือน วันที่9เมษายน2549จะอุปสมบทที่วัดพระศรีมหาธาตุบางเขน แต่ลูกคนนี้มีแฟนแล้วนะ เขาหายจาก Negative เป็น Positive เสียที แสดงว่าพ่อกับแม่ยังพอมีบุญอยู่บ้าง ก็เลยได้ข้อคิดว่าเด็กถ้าเขาได้ทำในสิ่งที่เขาชอบหรือถนัดเขาจะมีความสุขและมีความรับผิดชอบ แต่ถ้าเขาต้องฝืนใจทำในสิ่งที่เขาไม่ชอบหรือไม่ถนัดเขาจะต่อต้านสังคมรอบตัวแม้แต่ตัวของเขาเองจนคนรอบตัวกลุ้มใจซึ่งเขาคงแอบสะใจว่าอยากบังคับเขาดีนักแล้วเป็นยังไงล่ะ

เป็นอย่างไรบ้างคะอ่านจบแล้วได้ข้อคิดอะไรบ้างถ้าเป็นประโยชน์บ้างดิฉันจะดีใจมาก แสดงความคิดเห็นมาให้อ่านบ้างนะคะ หรือมีปัญหาจะให้ช่วยแก้ปัญหาอะไรก็ถามมาได้ยินดีช่วยเหลือเต็มที่  ขอขอบคุณที่ยอมเสียเวลาอ่าน ขอให้ท่านโชคดี  สวัสดีค่ะ

คำสำคัญ (Tags): #uncategorized
หมายเลขบันทึก: 20293เขียนเมื่อ 22 มีนาคม 2006 14:16 น. ()แก้ไขเมื่อ 5 มิถุนายน 2012 15:35 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท