KM ของวลัยลักษณ์ เดินหน้าอย่างต่อเนื่อง


ต้องไม่หลงทางว่า การพัฒนาคนต้องไม่ใช่เพื่อคน การพัฒนาคนต้องเพื่องาน และองค์กร จึงจะเป็นทิศทางที่ถูกต้องของเป้าหมายการพัฒนา

เช้านี้ผมได้รับเชิญให้ทำหน้าที่บรรยายพิเศษให้หัวข้อ รักวลัยลักษณ์ทำงานเพื่อวลัยลักษณ์ ให้พนักงานสายวิชาการและสายปฏิบัติการที่เข้าร่วมโครงการแลกเปลี่ยนรู้เพื่อการปฏิบัติงานที่ดีเพื่อวลัยลักษณ์ หรือ โครงการ KM รุ่นที่ 3 ซึ่งมีผู้ผ่านการคัดเลือกให้เข้าโครงการประมาณ 50 คนครับ ดูแล้วน่าประทับใจมากครับ เพราะพนักงานทุกคนไม่ว่าจะสายไหนก็มีความรักในวลัยลักษณ์ และมีความภูมิใจมากที่ได้ทำงานที่นี่ และทุกคนก็พร้อมที่จะทำงานเพื่อวลัยลักษณ์อย่างเต็มที่ วันนี้เป็น วันแรกของหลักสูตรซึ่งมีทั้งหมด 4 วัน ครับ วันแรกนี้เรามีการสัมมนาบรรยายที่ห้องประชุมของวลัยลักษณ์ และมี อ.จิรัชฌา วิเชียรปัญญา ให้เกีรยติมาบรรยายประสบการณ์ การเรียนรู้เรื่อง KM มาเหล่าให้พวกเราฟัง  ในประเด็นที่ผมฝากไว้เป็นข้อคิดหลักก็คือ  KM เปรียบเสมือนเครื่องมือที่ใช้ในการพัฒนาคน พัฒนางาน และพัฒนาองค์กร ที่เน้นในส่วนของรากฐานและโครงสร้างขององค์กร ซึ่งนั่นหมายถึงความมั่นคง และความยั่งยืนในการพัฒนาทุกๆ ด้านขององค์กรนั่นเอง เพราะการพัฒนาคน ถือเป็นปัจจัยที่จะทำให้องค์กรของเราไปสู่ความเป็นองค์กรคุณภาพและองค์กรชั้นนำในที่สุด แต่ต้องไม่หลงทางว่า การพัฒนาคนต้องไม่ใช่เพื่อคน การพัฒนาคนต้องเพื่องาน และองค์กร จึงจะเป็นทิศทางที่ถูกต้องของเป้าหมายการพัฒนา นอกจากนี้ในการพัฒนาคนต้องทำไปพร้อม ๆ กันทั้ง 2 ด้าน คือ ด้านจิตวิญญาณ และด้านทักษะความสามารถ จึงจะถือว่าเป็นการพัฒนาที่สมบูรณ์ ที่จะทำให้ได้คนดีและคนเก่ง เพราะคนดี แต่ไม่เก่งองค์กรก็จะไม่พัฒนา คนเก่งแต่ไม่ดี เอาเปรียบองค์กรและเพื่อนร่วมงาน ก็จะทำให้องค์กรไปไม่รอด พูดง่ายๆ คนที่มีทั้ง 2 อย่างนี้ดีมากน้อยแค่ไหน นั่นก็คือ Competency ของเขานั่นเอง ผมเชิญชวนพวกเราที่เข้าร่วมโครงการ KM ได้ร่วมกันสร้างพลังของการสร้างค่านิยมร่วมที่จะช่วยนำพาวลัยลักษณ์ ไปสู่ความสำเร็จตามวิสัยทัศน์ของวลัยลักษณ์ของพวกเรา โดยค่านิยมร่วม 6 ประการ ก็คือ คนวลัยลักษณ์ต้องมีนิสัย 1.ทุ่มเทการทำงานอย่างเสียสละเพื่อวลัยลักษณ์ 2.รักการเรียนรู้และการพัฒนาตนเอง 3. ชอบการทำงานเป็นทีม 4.มีความคิดเชิงนวัตกรรม 5. รักความซื่อสัตย์ สุจริต 6.รู้จักใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ หากค่านิยมร่วมทั้งหมดนี้ได้ถูกปลูกฝังเป็นนิสัยที่ยั่งรากลึกในคนวลัยลักษณ์ทุกคนแล้ว วิธีคิดของคนวลัยลักษณ์คงจะได้เปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่ถูกต้องที่จะช่วยให้เกิดการพัฒนาวลัยลักษณ์ของเราอย่างมั่นคงยั่งยืน เพราะฉะนั้นพวกเราต้องคิดเป็นผู้ให้ แทนที่จะ คิดเป็นผู้ขอ จริงไหมครับ

สำหรับวันนี้ที่เราได้มีการจัด KM รุ่น 3 ให้กับพนักงานที่เข้าโครงการใหม่แล้ว วันนี้เรายังได้จัดหลักสูตรพัฒนาคุณอำนวย หรือทีมวิทยากร KM อีกกลุ่มหนึ่งด้วย ซึ่งมีผู้เข้าร่วมอบรมที่เคยทำหน้าที่เป็นคุณอำนวย และผู้ที่เคยผ่านหลักสูตร KM ของเราและอยากนำไปขยายผลและทำหน้าที่คุณอำนวยในหน่วยงานของแต่ละคน ก็ได้สมัครเข้าร่วมอบรม อีกประมาณ 30 คนครับ ซึ่งผมคิดว่าเป็นมิติเชิงการพัฒนาที่ดีมาก เพราะการเข้าร่วมกิจกรรมแบบนี้ไม่ได้เกิดการบังคับ แต่เกิดจากความใฝ่รู้ใฝ่พัฒนาของตัวพนักงานเอง ซึ่งถือเป็นทิศทางที่ดีมากในการพัฒนาองค์กรอันเป็นที่รักของพวกเราทุกคน.....วลัยลักษณ์

หมายเลขบันทึก: 19909เขียนเมื่อ 20 มีนาคม 2006 11:52 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 14:35 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (3)

เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่งกับคำกล่าว "การพัฒนาคนต้องทำไป

พร้อม ๆ กันทั้ง 2 ด้าน คือ ด้านจิตวิญญาณ และด้านทักษะ

ความสามารถ จึงจะถือว่าเป็นการพัฒนาที่สมบูรณ์" รวมถึง

ค่านิยมร่วมของคนวลัยลักษณ์ ทั้ง 6 ประการ

และคิดว่า ถ้าคนวลัยลักษณ์สามารถคิดและนำไปเป็นแนวปฏิบัติ

จะส่งผลให้ มวล. แข็งแกร่งและสามารถพัฒนาองค์กรไปได้

อย่างรวดเร็ว .......ทั้งนี้ จะต้องขึ้นอยู่กับศักยภาพของ Team Leader ด้วย

เสน่ห์ของวลัยลักษณ์ ก็คือความเป็น "วลัยลักษณ์" ทั้งตัวนักศึกษาเอง ตลอดจน บุคคลากร 

เมื่อสมัยเรียน เวลามีคนถามน.ศ.วลัยลักษณ์ว่า

เรียนอยู่ที่ไหน? จะได้คำตอบเดียวกันก็คือ เรียนที่ ม.วลัยลักษณ์

แต่ถ้าถามเด็กที่อื่น อาจตอบว่า เรียน ม.....วิทยาเขต..... หรือแม้กระทั้งถ้าถามผมตอนนี้ว่าผมทำงานที่ไหน ผมก็จะตอบว่า คณะวิทยาการสื่อสาร ม.อ.ปัตตานี ทำให้รู้สึกถึงความแปลกแยก....

 ถ้าทุกคนมีจุดหมายเดียวกัน ว่าทำงานเพื่อใคร "ทำงานเพื่อวลัยลักษณ์" ไม่ใช่ทำงานเพื่อคณะหรือหน่วยงานใดๆ องค์กรก็จะพัฒนาไปได้เร็ว และทิศทางเดียวกัน.....การบริหารก็จะคล่องตัว และประหยัดทรัพยากรในด้านต่างๆไปได้มาก.....

คำอีกคำหนึ่งที่วลัยลักษณ์ใช้บ่อยๆก็คือ "รวมบริการ ประสานภารกิจ"

อยากให้วลัยลักษณ์ คงเสน่ห์และความเป็นตัวของตัวเองแบบนี้ต่อไป.....

 

ศิริมาศ เลือดกาญจนา

เป็นคนหนึ่งที่ชอบคำว่า "รวมบริการ ประสานภารกิจ" ของวลัยลักษณ์ และพยายามจะเข้าใจความหมายเท่าที่จะเข้าใจได้ จึงขอเสนอว่า วลัยลักษณ์น่าจะมีการทำความเข้าใจคำคำนี้ให้ทุกคนในวลัยลักษณ์ เข้าใจเหมือนกัน รู้สึกถึงความหมายเดียวกัน และปฏิบัติงานด้วยกันแบบ "รวมบริการ ประสานภารกิจ"

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท