วิธีปฏิบัติเรื่องการบริหารยาผู้ป่วยใน
การรับคำสั่งการรักษา
1 แพทย์เขียนคำสั่งการรักษาในdoctor order ด้วยลายมือชัดเจน
2พยาบาลหัวหน้าเวรเป็นผู้รับคำสั่งการรักษาโดย
2.1คัดลอกชื่อยา ขนาด วิธีการให้ยา เวลาให้ยาลงใน medical sheet1 ด้วยหมึกสีน้ำเงินสำหรับยากิน และ medical sheet 2 ด้วยหมึกสีแดงสำหรับยาฉีด
2.2เซ็นชื่อผู้รับคำสั่งการรักษาโดยใช้หมึกสีแดงด้วยลายมือชัดเจนอ่านง่ายบริเวณมุมขวาล่างติดกับสำสั่งการรักษาของแพทย์
2.3 ฉีกใบก๊อบปี้ doctor order รวบรวมส่งฝ่ายเภสัชกรรม (ไม่ควรลอกลงกระดาษโน้ตใด ๆ ส่งเพราะไม่ได้ช่วยการประหยัดกลับทำให้เกิดความคลาดเคลื่อนทางยาได้ง่าย)
2.4 การรับคำสั่งทางโทรศัพท์ ให้ผู้รับคำสั่งระบุท้ายorder ด้วยหมึกสีน้ำเงินโดยเขียนชื่อผู้รับคำสั่ง เวลา ชื่อแพทย์ผู้สั่งการรักษา เช่น ดาริกา RN 5 รคส.นพ.ธิติพงศ์ ทางโทรศัพท์ แล้วให้ปฏิบัติการรับคำสั่งตามข้อ 2.1 – 2.3 ตามปกติ
2.5 หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกำคำสั่งการรักษา เช่นอ่านลายมือไม่ชัดเจน มีข้อสงสัยเกี่ยวกับชื่อยาหรือขนาดการให้ยาให้พยาบาลถามแพทย์โดยตรง แล้วบันทึกผลการซักถามด้วยดินสอใน doctor order
การตรวจสอบยา
ครั้งที่ 1 พยาบาลผู้รับคำสั่งการรักษาตรวจสอบ ชื่อผู้ป่วย ชื่อยา ขนาด วิธีการให้ เวลาให้ยา จากลายมือแพทย์ใน doctor order และใน medical sheet อีกครั้งหลังการคัดลอก
ครั้งที่2 พยาบาลหัวหน้าเวรตรวจสอบ ชื่อผู้ป่วย ชื่อยา ขนาด วิธีการให้ เวลาให้ยา จากลายมือแพทย์ใน doctor order และใน medical sheet1 และ medical sheet 2 ทุกเวร
ครั้งที่ 3 พยาบาล member ในเวรเช้า ตรวจสอบทั้งยากิน ยาฉีด และยารูปแบบอื่น ๆ โดยตรวจสอบ ชื่อผู้ป่วย ชื่อยา ขนาด วิธีการให้ เวลาให้ยาใน medical sheet และยาในรถ unit dose ในช่วงเวลา 14.oo น. (หลังจากเจ้าหน้าที่นำรถกลับจากห้องยา) หากพบความคลาดเคลื่อนให้บันทึกในแบบฟอร์ม ….และแจ้งงานเภสัชทางโทรศัพท์
ครั้งที่ 4 พยาบาลผู้ให้ยาเตรียมยาฉีดตามรายการใน medical sheet โดยใช้หลัก 6R (พร้อมลง
บันทึกการให้ยาโดยระบุเวลาให้ยาซึ่งยอมรับความคลาดเคลื่อนจากเวลามาตรฐานเท่ากับ บวกลบ 30 นาที)
พยาบาลแจกยากินแก่ผู้ป่วยจากรถตามรายการใน Medical sheet โดยใช้หลัก 6R
พร้อมลงบันทึกการให้ยาโดยระบุเวลาให้ยา(ซึ่งยอมรับความคลาดเคลื่อนของการให้ยาจากเวลามาตรฐานเท่ากับ บวกลบ 30 นาที)
การให้ยากิน
1. การให้ยากิน ใช้หลัก 6R โดยยอมรับความคลาดเคลื่อนของการให้ยาจากเวลามาตรฐานเท่ากับ บวกลบ 30 นาที (หากเกินถือเป็น Medical error เรื่องการให้ยาผิดเวลา)
2.มอบยาแก่ผู้ป่วย(ที่รู้สึกตัวดี) หรือญาติผู้ดูแล โดยแจ้งชื่อยา เวลารับประทานยา ผลข้างเคียงที่ควรทราบ (ไม่แนะนำให้วางยาไว้บริเวณเตียงหรือบริเวณใด ๆ โดยไม่แจ้งผู้ป่วยทราบ)
3.ควรป้อนยาแก้ผู้ป่วยหากไม่มีญาติอยู่เผ้าและผู้ป่วยช่วยเหลือตนเองได้น้อย
4.ควรตระหนักถึงการได้รับยาอย่างครบถ้วนของผู้ป่วยเสมอ
การให้ยาฉีด
1.เตรียมยาด้วยหลัก ปราศจากเชื้ออย่างเคร่งครัดในบริเวณที่จัดสำหรับการเตรียมยาโดยเฉพาะ
2.เตรียมยาโดยใช้หลัก 6R
3.ล้างมือสะอาดก่อนการเตรียมและให้ยา
4. ทำ skin test ก่อนการให้ยา anti biotic ครั้งแรกในผู้ป่วยทุกราย
5.ให้ยาฉีดตามหลัก 6R
6. ควรให้ยาฉีดที่อุณหภูมิห้อง ( ยาที่แช่ตู้เย็นควรปล่อยให้อุ่นระดับอุณหภูมิห้องก่อนฉีด )
7.ยาที่หยดทางหลอดเลือดควรให้ ให้หมดตามเวลาที่กำหนด ( หากให้นานเกินกำหนดถือเป็นความคลาดเคลื่อนในการบริหารยา )
8.ติดตามอาการที่อาจเกิดขึ้นหลังให้ยา
การบริหารยาตามช่วงเวลา
1.ยา ATB ที่แพทย์สั่งการรักษาว่าstat dose ให้ทำการ skin test อ่านผลแล้วให้ยาได้ทันที
2. ยา ATB ที่แพทย์สั่งการรักษาไว้โดยไม่ได้ระบุว่า stat dose ให้ทำการ skin test และให้ยาตามช่วงเวลาเวลามาตรฐานการให้ยาฉีดผู้ป่วยใน เช่น
PGS 2 mU IV q 4 hr สั่งการรักษาเวลา 9.00 น. จะต้องทำการ skin test และให้ยาก่อนเวลา 10.00 น. แล้วให้ถือว่ายาที่ได้รับครั้งแรกนี้เป็น dose 10.00 น. จากนั้นให้ยาตามเวลาปกติคือ dose 14.00 น, 18.00 น. 22.00น.00.00 น. และ dose 06.00 น. ตามลำดับ
Cloxacillin 1 g IV q 6 hr สั่งการรักษาเวลา 9.00 น. จะต้องทำการ skin test และให้ยาก่อนเวลา 12.00 น. แล้วให้ถือว่ายาที่ได้รับครั้งแรกนี้เป็น dose 12.00 น. จากนั้นให้ยาตามเวลาปกติคือ dose 18.00 น, 24.00น. และ dose 06.00 น. ตามลำดับ
Methronidazole 500 mg IV q 8 hr สั่งการรักษาเวลา 9.00 น. จะต้องทำการ ให้ยาก่อนเวลา 14.00 น. แล้วให้ถือว่ายาที่ได้รับครั้งแรกนี้เป็น dose 14.00 น. จากนั้นให้ยาตามเวลาปกติคือ dose 22.00 และ dose 06.00 น. ตามลำดับ
Ceftriazone 1 g IV q 12 hr สั่งการรักษาเวลา 9.00 น. จะต้องทำการ ให้ยาก่อนเวลา 12.00 น. แล้วให้ถือว่ายาที่ได้รับครั้งแรกนี้เป็น dose 06.00 น. จากนั้นให้ยาตามเวลาปกติคือ dose 18.00 และ dose 06.00 น. ตามลำดับ
Ceftriazone 2 g IV OD กรณีที่ 1หากสั่งการรักษาในช่วงเวลา 00.01 น. ถึง 12.00 ให้ทำการ ให้ยาทันทีแล้วให้ถือว่ายาที่ได้รับครั้งแรกนี้เป็น dose 06.00 น. จากนั้นให้ยาตามเวลาปกติคือ dose 06.00 ของวันรุ่งขึ้น
Ceftriazone 2 g IV OD กรณีที่ 2หากสั่งการรักษาในช่วงเวลา 12.00 น. ถึง 24.00 ให้ทำการ ให้ยาทันทีแล้วให้ถือว่ายาที่ได้รับครั้งแรกนี้เป็น dose 18.00 น. จากนั้นให้ยาตามเวลาปกติคือ dose 18.00 ของวันรุ่งขึ้น
ตารางแสดงมาตรฐานเวลาการให้ยาฉีดผู้ป่วยใน
คำสั่งการรักษา |
เงื่อนไข |
เวลาให้ยามาตรฐาน(นาฬิกา) |
หมายเหตุ |
PGS 2 mU IV q 4 hr
|
|
|
|
Cloxacillin 1 g IV q 6 hr
|
|
|
|
Methronidazole 500 mg IV q 8 hr |
|
|
|
Ceftriazone 1 g IV q 12 hr |
เป็นแนวปฏิบัติที่ดีมากเลย จะขอนำไปใช้ในงานดูนะคะ
สวัสดีค่ะ
- เห็นการเปลี่ยนแปลงบ้างแล้วนะค่ะ
ตารางอาจต้องปรับหน่อยนะค่ะ เพราะล้นจอเลยจ้า
- น่าจะให้เภสัชกร มาในตึกบ้างนะ
เห็นการพัฒนาหลายอย่างที่เกิดขึ้นในโรงพยาบาลท่าคันโท ในฐานะที่เป็นคนท่าคันโทรูสึกภูมิใจเช่นกัน แต่มีสิ่งที่อย่างฝาก เช่นแผนกทันตกรรมที่การให้บริการเปิดปิดทำตามใจมาก เช่นปิดไปทอดกระถิน ซึ่งพอผมไปรับบริการแล้วเจ้าหน้าที่บอกว่าไปทอดกระถินทำให้อึ่งไปเหมือนกัน นี้เค้าไม่ทำงานกันเลยเหรอ ยังงัยก็ฝากผู้บริหารดูด้วยน่ะครับ