ความรู้ระหว่างทาง
ตั้งแต่ 1 เดือนกระทั่ง 1 ปี (พค. 46 – เม.ย.47
)ของการเรียนรู้เรื่องดิน เกิดความรู้งอกเงยขึ้นเป็นลำดับ
พวกเขารู้ว่าดินเสียเพราะอะไร ทำอย่างไรให้ดินดี
และจะปลูกอะไรให้เอื้อประโยชน์แก่ดิน
ความรู้เหล่านี้เปรียบเสมือนขุมทรัพย์อันมีค่าของเกษตรกร อาทิ
ชุดความรู้เรื่องการพัฒนาดิน
ในแบบต่างซึ่งแต่ละฐานการเรียนรู้ได้ลองผิดลองถูกมาหลายครั้งกระทั่งเป็นคลังความรู้
เช่น
1.ชุดความรู้เรื่องการปลูกพืชคลุมดิน การปลูกไม้ยืนต้นเพื่อให้ล่มเงา
และเพื่ออาศัยใบไม้กิ่งไม้ที่ร่างหล่นทับถมลงดินเป็นการคืนธาตุอาหารให้กับดิน
2.ชุดความรู้เรื่องการสร้างหน้าดินโดยใช้ใบไม้กั่งไม้
และมูลสัตว์กองเป็นชั้นแล้วทดลองปลูกพืช
3.ชุดความรู้เรื่องการปรับปรุงดินโดยใช้ต้นไม้ที่ทนแล้งเป็นตัวเบิกนำ
แล้วไถกลบคืนคุณค่าให้กับกิน
4.ชุดความรู้เรื่องการขุดหลุมรองหลุมด้วยอินทรีย์ก่อนปลูกพืช
5.ชุดความรู้เรื่องการปรับหน้าดินก่อนปลูกพืชโดยรองอินทรีย์วัตถุไว้ใต้ดินเพื่อเป็นคลังอาหารให้กับต้นไม้
6.ชุดความรู้เรื่องการปลูกไม้ใหญ่และไม้ล้มลุกไว้คู่กันเพื่ออาศัยร่มเงาซึ่งกันและกัน
7.ชุดความรู้เรื่องปลูกพืชอะไรก็ได้ แต่ให้ปลูกหลายๆ ชนิด
และอย่าปลูกซ้ำๆ กันบนผืนดินเดิม
8.ชุดความรู้เรื่องคุณลักษณะของดินดี และดินไม่ดี
ซึ่งมีวิธีการพิสูจน์ที่แตกต่างกัน
9.ชุดความรู้เรื่องเทคนิคการทำการเกษตรเช่น
เทคนิคการทำให้กล้วยผลใหญ่โดยการตัดหัวปลี
หรือเทคนิคการทำให้ผักหวานแตกยอดได้ดีเป็นต้น
10. ชุดความรู้เรื่องกระสัง
ที่ชาวบ้านค้นพบว่าเป็นไม้ยืนต้นตระกูลมะนาว
ที่อดทนต่อความแห้งแล้งและมีรากลึกชอนไชหาอาหารเก่ง จึงทดลองนำมะนาว
และพืชในตระกูลเดียวกันมาทาบกิ่ง
จนพบว่ามะนาวบนต้นกระสังสามารถออกผลให้เก็บได้ทั้งปี
ระบบการปูนบำเหน็จความดีความชอบ
สำหรับเทคนิคในการสร้างกำลังใจซึ่งกันและกันในการเรียนรู้ของ
สมาชิกฟ้าสู่ดิน ก็คือ การปูนบำเหน็ดความดีความชอบ
ซึ่งมิใช่ทรัพย์ที่ประเมินค่า หากแต่เป็นการได้รับการยอมรับจากเพื่อนๆ
การมีบทบาทในองค์กรมากขึ้น และการได้ปรากฎภาพในสื่อต่างๆ
ถือได้ว่าเป็นการยกย่องทางอ้อมที่เจ้าตัวภูมิใจ
สิ่งเหล่านี้เป็นแรงกระตุ้นศักยภาพที่ซ่อนเร้นให้เผยโฉมออกมา
สังเกตเห็นได้จากความแข็งขัน และความเชื่อมั่นทั้งตนเอง
และเพื่อนสมาชิกที่เพิ่มขึ้นมาตามลำดับ
เวทีปันผลความรู้
เป็นกิจกรรมหนึ่งของโครงการ ที่เปิดโอกาสให้แต่ละฐานการเรียนรู้
ที่อยู่กันอย่างกระจัดกระจาย เพราะแยกย้ายไปทดลองทำจริง เรียนรู้จริง
ในท้องถิ่น ได้นำความรู้ที่ได้มาแลกเปลี่ยนเรียนรู้กัน
เกิดเป็นความรู้ใหมที่ไหลเวียนงอกเงิอยเพิ่มพูน
ให้กับสมาชิกได้นำไปปรับใช้ให้เหมาะสมกับพื้นที่ดินของตนเอง
โครงการนี้จึงเป็นการวิจัยและพัฒนาเชิงบูรณาการ
ที่เป็นรูปธรรมในลักษณะย้อนศร ชาวชนบท ที่ต้องการความรู้เป็นของตนเอง
เพื่อใช้สำหรับพัฒนาวิถีชีวิตและอาชีพให้ทันต่อสถานการณ์และการเปลี่ยนแปลง
การจัดการความรู้เรื่องดินของสมาชิกโครงการ ฟ้าสู่ดิน
ทำให้ได้ชุดความรู้เรื่องดินชุดใหม่ที่เป็นความต้องการของชาวบ้านอย่างแท้จริง
ทั้งเป็นการประสานความรู้จากทุกส่วน
คือจากชาวบ้านและนักวิชาการก่อเกิดเป็นวัฒนธรรมการเรียนรู้
ของการแบ่งปันและแลกเปลี่ยนเรียนรู้
ฉะนั้นผลของการจัดการความรู้ที่ถูกต้องที่สุดสำหรับชาวบ้านก็คือ
อยู่ดีกินดี มีความสุข ด้วยความคิดไม่ติดกรอบ
การเรียนรู้ของชาวฟ้าสู่ดินจึงเลื่อนไหลและหมุนเวียนไปอย่างไม่หยุดนิ่ง
และกำลังย่างก้าวเข้าสู่การจัดการความรู้ที่ยกระดับขั้นไปอีก 1 ขั้น
โดยเน้นความรู้ที่นำไปขยายต่อเชื่อมกับองค์กรเครือข่ายให้มากยิ่งขึ้น
พร้อมทั้งพยายามสร้างคุณอำนวยใหม่ๆ
ภายใต้ฐานการเรียนรู้ที่เพิ่มมากขึ้นเป็น 10 ฐาน
เพื่อขยายกิจกรรมการจัดการความรู้ที่สร้างพลังในการพัฒนาชุมชนยั่งยืนต่อไป
ครูบาสุทธินันท์ ปรัชญพฤทธิ์
34 ปากช่อง ต.สนามชัย อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ กรุงเทพฯ 31150
โทร.044-782-313
มือถือ 01-7601337
แฟกซ์ 044-681-220
E-mail : [email protected]
ชุดความรู้ต่างๆมีรวบรวมเป็นเล่มเพื่อจำหน่ายหรือไม่ เช่น ชุดความรู้การจัดการดิน