การเลี้ยงปลานิลในกระชัง
สัมภาษณ์เมื่อ วัน พฤหัสบดี ที่ 22 พฤษภาคม 2551
ผู้ให้สัมภาษณ์ ชื่อ นางเยี่ยม สถิตย์
(เกษตรกรผู้เลี้ยงปลากระชัง)
สถานที่สัมภาษณ์ 22 หมู่ 4 ตำบลนาอ้อ อำเภอเมือง จังหวัดเลย
การเลือกสถานที่ในการเลี้ยงปลาควรเป็นอย่างไรบ้าง
จะต้องเลือกบริเวณที่น้ำถ่ายเทได้สะดวกเพื่อพัดเอาน้ำดีเข้ามาและไล่เอาของเสียออกไปนอกกระชัง
เสมือนมีการเปลี่ยนน้ำใหม่เพื่อให้น้ำมีคุณภาพตลอดเวลาน้ำ
แหล่งน้ำควรมีความลึกพอประมาณ
เมื่อกางกระชังแล้วระดับพื้นกระชังควรสูงจากพื้นก้นบ่อหรือพื้นน้ำไม่น้อยกว่า
50 เซนติเมตร
เพื่อให้น้ำถ่ายเทได้ดีตลอดบริเวณที่ลอยกระชังควรห่างจากแหล่งชุมชน
เพื่อป้องกันการรบกวนจากการพลุกพล่าน
ซึ่งจะทำให้เกิดความเครียดกระวนกระวาย
ได้รับบาดเจ็บจากการว่ายชนกระชังทำให้ปลาไม่กินอาหาร
ทั้งหมดนี้จะเป็นอุปสรรคต่อการเจริญเติบโตตามปกติของปลาที่เลี้ยงหรือเป็นโรคติดเชื้อจากบาดแผลที่เกิดขึ้นได้
ชนิดปลาที่จะเลี้ยงควรมีลักษณะอย่างไร
ควรเป็นปลาเพศผู้เพราะจะทำให้ได้ผลผลิตมากกว่าตัวเมีย
เพราะปลานิลเพศผู้จะมีขนาดใหญ่กว่าเพศเมีย และควรเลือกปลาที่ไม่พิการ
หรือตาบอดเพราะจะทำให้ปลาเจริญเติบโตได้ไม่ดี
เวลาในการให้อาหารควรให้เวลาได้บ้าง
ในแต่ละวันจะให้สามครั้งคือเช้า กลางวัน เย็น
ส่วนใหญ่จะให้อาหารในช่วงเวลากลางวันในปริมาณที่มากกว่าช่วงเช้าและเย็น
ปัญหาและอุปสรรคการเลี้ยงปลาในกระชังมีอะไรบ้าง
1. อาจจะมีการรบกวนจากปลาธรรมชาติ และศัตรูปลาในธรรมชาติ
2. ปลาขนาดเล็กหลุดเข้าไปในกระชัง และแย่งอาหารปลาได้
4. ปัญหาการลักขโมย ค่อนข้างง่าย
5.
ลักษณะการเลี้ยงในกระชังเป็นรูปแบบที่ต้องใช้อาหารเลี้ยงเป็นหลักซึ่งต้องสิ้นเปลืองค่าใช้จ่ายมาก
อาหารส่วนหนึ่งสูญเสียโดยลอดตากระชังออกไปข้างนอก
6. น้ำต้องดีตลอด ถ้าสิ่งแวดล้อมไม่ดี น้ำเสีย
จะทำให้ปลาตายหมดกระชังได้
7. ปลาจะเป็นโรคติดต่อกันได้ง่าย
8. ถ้ามีการเลี้ยงกันมากๆ
มูลปลาและเศษอาหารที่เหลือจะตกไปที่พื้นเกิดหมักหมม ทำให้น้ำเน่า
สิ่งแวดล้อมเสียได้ โดยเฉพาะที่น้ำนิ่ง
สรุปผลการสัมภาษณ์
การเลี้ยงปลาควรที่จะมีความรู้และความเข้าใจเสียก่อนถึงจะเลี้ยงออกมาได้ผลผลิตในระดับที่พอใจ
ต้องหมั่นตรวจดูแลกระชังเป็นประจำ
และต้องมีความรอบคอบเป็นอย่างมาก
นางสาวจินตนา พุทธมาตย์ ผู้สัมภาษณ์
ผมกำลังศึกษาเรื่องนี้อยู่ครับ ไม่ทราบว่าจะหาข้อมูลได้จากไหนครับ