การพัฒนาทักษะการอ่านจับใจความด้วยเทคนิค เค ดับเบิ้ลยู แอล (K.W.L.)
ผู้นำเสนอ นางฐิติกมณฑ์ จันทโกศล ครูชำนาญการพิเศษ (ภาษาไทย)
ผู้สอนวิชาภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ โรงเรียนบ้านคลองหวะ(ทวีรัตน์ราษฎร์บำรุง) อำเภอหาดใหญ่
ความเป็นมา
การอ่านเป็นทักษะที่จำเป็นสำหรับผู้เรียนที่จะช่วยให้เกิดทักษะในการแสวงหาความรู้ด้วยตนเอง เกิดนิสัยรักการอ่าน ผลการวิจัยของสำนักงานกองทุนสนับสนุนงานวิจัย(สกว.) ระบุว่าโรงเรียนทุกสังกัดทั่วประเทศยอมรับว่า มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนต่ำ โดยเฉพาะภาษาไทย เด็กอ่านและเขียนไม่ได้ในระดับที่น่าพอใจ นอกจากนี้จากผลการประเมินความรู้พื้นฐานด้านการอ่านจับใจความของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ ปีการศึกษา ๒๕๕๐ ของโรงเรียนบ้านคลองหวะ(ทวีรัตน์ราษฎร์บำรุง) พบว่า นักเรียนร้อยละ ๓๕.๖๔ มีทักษะการอ่านจับใจความอยู่ในระดับปรับปรุง และขาดการฝึกกระบวนการอ่าน ผู้สอนจึงหาทางพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนอ่าน โดยเลือกใช้วิธีการสอนอ่านโดยใช้เทคนิค K.W.L.
วิธีดำเนินการ/ขั้นตอนที่สำคัญ
การสอนอ่านโดยใช้เทคนิค K.W.L. ได้รับการพัฒนาโดย คาร์และโอเกิล (Carr and Ogle) ซึ่งเป็นรูปแบบการจัดกิจกรรมการอ่านที่ทำให้นักเรียนใช้ความรู้ทักษะ ทัศนคติที่มีอยู่ไปช่วยตีความเนื้อเรื่องที่อ่าน ใช้ทักษะการคาดคะเน การตั้งคำถาม การใช้ความรู้ประสบการณ์เดิมของนักเรียน และเป็นการบูรณาการทักษะต่างๆ เช่น การอ่าน การคิด การพูด การเขียนและแสดงออกไปพร้อมกัน
รูปแบบของกิจกรรมการสอนอ่านด้วยเทคนิค K.W.L.
กิจกรรมสอนอ่าน
ขั้นก่อนการอ่าน : Pre Reading
-กระตุ้นความรู้เดิมให้นักเรียนอภิปราย
-คาดคะเนสิ่งที่จะมีในเนื้อเรื่องแล้วเขียนข้อความลงใน ช่อง K
- บันทึกสิ่งที่อยากรู้จากบทอ่าน ลงในช่อง W
ขั้นกิจกรรมระหว่างอ่าน :During – Reading
ค้นหาข้อความที่เกี่ยวข้องหรือตอบคำถามที่อยู่ในบทอ่าน
- กระตุ้นให้นักเรียนคิดจับประเด็น หาใจความสำคัญ รายละเอียดของ
เรื่อง(นักเรียนตีความและตรวจสอบความถูกต้อง) – เชื่อมโยงความรู้ใหม่กับความรู้เดิม
ขั้นกิจกรรมหลังการอ่าน : Post – Reading
- ย่อบทอ่านทั้งหมด
- ตรวจสอบจุดประสงค์การอ่าน
- กล่าวสรุปสิ่งที่ได้จากการอ่าน/ แสดงความรู้สึกต่อสิ่งที่อ่าน
หลังสอนอ่าน
- ประเมินผลการอ่าน
- สะท้อนผลการอ่านของนักเรียนเป็นรายบุคคล
ขั้นกิจกรรมหลังอ่าน : Post – Reading - ย่อบทอ่านทั้งหมด บันทึกลงในช่อง L - ตรวจสอบจุดประสงค์การอ่าน - ซักถามถึงสิ่งที่อ่านทั้งหมด - ให้นักเรียนสรุปความคิด หรือความรู้สึกต่อสิ่งที่อ่าน |
ปัจจัยที่ส่งผลต่อความสำเร็จ
๑. การสร้างบทอ่านที่น่าสนใจ โดยนำเรื่องราวที่นักเรียนสนใจ และสอดคล้องกับบทเรียน
๒. การตั้งคำถามของครู ที่กระตุ้นให้นักเรียนคิด อภิปราย ตีความ ตรวจสอบเนื้อเรื่อง และเชื่อมโยงความรู้ใหม่กับความรู้เดิม
ผลสำเร็จของการดำเนินงาน
พบว่า การสอนอ่านจับใจความโดยใช้เทคนิค K.W.L. ในกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ เป็นวิธีการหนึ่งที่ทำให้นักเรียนสามารถพัฒนาการอ่านจับใจความได้ดียิ่งขึ้นเนื่องจาก
นักเรียนได้ลงมือปฏิบัติด้วยตนเอง ตั้งแต่การกำหนดจุดประสงค์ของการอ่าน การตีความสิ่งที่อ่าน การคิดอภิปรายร่วมกับกลุ่ม ฝึกการคิดอย่างมีเหตุผล นำเสนอสิ่งที่อ่านในรูปของแผนภูมิโครงสร้างความเรียง หรือการสรุปบันทึกย่อ ซึ่งทำให้นักเรียนได้รับการพัฒนาทักษะการพูดและฝึกทักษะการเขียนสรุปใจความสำคัญไปพร้อม ๆกัน
นอกจากนี้ จากประสบการณ์ตรงในการจัดการเรียนรู้ ยังพบว่า การใช้เทคนิค K.W.L ในการสอนอ่านนั้นมีประโยชน์ ดังนี้
๑. เป็นการสอนที่นักเรียนได้มีโอกาสร่วมกิจกรรมกลุ่ม เป็นการฝึกการยอมรับความคิดเห็นของผู้อื่น
๒. เป็นการสอนการอ่านที่ทำให้นักเรียนไม่เบื่อหน่าย เพราะได้ทำกิจกรรมเองโดยตลอด
๓. เป็นการสอนอ่านที่นักเรียนสามารถประเมินความเข้าใจในการอ่านได้ด้วยตนเอง
๔. นักเรียนได้ฝึกการคิด วินิจฉัย ตัดสินใจเกี่ยวกับข้อเท็จจริงในสถานการณ์ที่พบ
๕. เป็นการสอนอ่านที่นักเรียนสามารถตั้งจุดมุ่งหมายในการอ่าน และสามารถคิดคาดการณ์ล่วงหน้าจากเรื่องที่อ่านด้วยตนเอง
๖. เป็นการฝึกให้นักเรียนเกิดทักษะการคิดวิเคราะห์ เขียนสรุป และนำเสนอด้วยตนเอง
๗. สามารถนำเทคนิค K.W.L. มาใช้สอนการอ่านได้ทุกวิชา
ยินดีกับความสำเร็จค่ะ ขอนำไปใช้ด้วยนะคะ
ขอบคุณค่ะ
แอ่น..แอ้น...
เยี่ยมมากค่ะ คุณครูฐิติกมณฑ์ พวกเราชาวศูนย์ICT ยินดี และดีใจเป็นอย่างยิ่งคะ
ขอให้เสริมแรง และนำสาระความรู้ดี ๆ มาลงให้เป็นประจำนะคะ แลกเปลี่ยนเรียนรู้
ระหว่างครูที่เข้มแข็ง เต็มไปด้วยไฟแรงอย่านี้พวกเราตบมือให้...
เป็นกำลังใจในสิ่ง ดี ๆ ในครั้งนี้นะคะ
ขอบคุณคะกับขัอมูลดี
เยี่ยมมาก เป็นเทคนิคที่ดี น่าจะให้ตัวอย่างแผนการจัดกิจกรรมซัก 1 แผนนะ
ขอบคุณมากค่ะ สำหรับความรู้ที่ได้รับเพิ่มเติม