ขบวน KM สัญจร ครั้งที่ 3 ที่ประกอบด้วยฝ่ายวิชาการ ของ สกว. ศ.ดร.วิชัย บุญแสง ได้ชักชวนเมธีวิจัยอาวุโส ผู้ทรงคุณวุฒิ และที่สำคัญคือนักวิจัยรุ่นใหม่ ได้มาเห็นความเป็นจริงของวิถีชีวิตและองค์ความรู้ที่ชาวบ้าน/ชุมชนสร้างขึ้นในการดำเนินชีวิต เพื่อเปิดโลกทัศน์ให้กับนักวิจัยรุ่นใหม่ โดยมีฐานของการดูงานอยู่ที่เรื่องของการจัดการความรู้ระดับชุมชนอยู่ที่สวนป่าครูบาสุทธินันท์ ปรัชญพฤทธิ์ และเครือข่ายการเรียนรู้ถึง 8 พื้นที่ ซึ่ง สคส.กำลังสนับสนุนให้เกิดการพัฒนากลไกการจัดการความรู้ระดับชุมชนอย่างเป็นรูปธรรมและหวังสร้างคน(ชาวบ้าน)ที่จะไปขยายผลต่อ
ในบทบาทของคนที่ไม่ได้เป็นนักวิจัย และไม่ใช่นักวิชาการ ถามว่า ดิฉันเห็นอะไรจากกิจกรรมครั้งนี้ ก็ขอบอกว่าได้เกินคุ้ม จากจุดประสงค์เมื่อเริ่มเดินทาง คือ ตั้งได้เพียง 2 ข้อ คือ ข้อ 1. เป็นวัตถุประสงค์ส่วนตัว จะไปดูต้นแบบการทำเกษตรพอเพียงหรือเกษตรปราณีต ที่ได้ยินและรับรู้มามากว่าส่วนใหญ่มาเรียนรู้จากภาคอีสาน ซึ่งรวมถึง สวนป่าครูบาสุทธินันท์ ครั้งนี้ก็จะได้ไปดูของจริงอีกครั้ง ข้อ 2. เป็นวัตถุประสงค์ในหน้าที่ที่รับผิดชอบคือการเป็นฝ่ายเผยแพร่งานของ สคส. จึงอยากเห็นการต่อยอดองค์ความรู้ชาวบ้านของนักวิจัยรุ่นใหม่ และความเข้าใจเรื่องจัดการความรู้ (ส่วนตัวรู้สึกว่านักวิจัยใหม่ ๆ ที่สนใจอะไรก็จะทำเฉพาะเรื่องที่ตัวเองสนใจโดยขอทุนจากแหล่งทุนต่าง ๆ และก็ได้ผลประโยชน์ win win กันไปทั้งตัวเอง มหา’ลัยที่สังกัด และแหล่งทุน แต่ไม่รู้ว่าความรู้ที่ทำมานั้นใช้ได้จริงแค่ไหนในระดับวิถีชีวิต จึงหวังลึก ๆ ว่านักวิจัย เหล่านี้จะเปิดโลกทัศน์และมองเห็นสิ่งที่เป็นชีวิตคนจริง ๆ และตระหนักในบทบาทของเขาว่าจะช่วยได้อย่างไร)
วัตถุประสงค์ข้อแรกก็ไม่ผิดหวัง เพราะสวนป่าครูบาสุทธินันท์มีการจัดการทุกอย่างอย่างเป็นระบบเป็นต้นแบบการทดลอง เรียนรู้ และถ่ายทอด ทั้งด้านการทำเกษตรพอปราณีต การปลูกพืช ผัก รวมทั้งการเลี้ยงสัตว์ชนิดต่าง ๆ ที่คาดว่าจะสร้างทางเลือกอาชีพให้กับเกษตรกรได้ ทั้ง การเลี้ยงหมู ไก่ ปลา วัว หรือแม้แต่นกกระจอกเทศ เป็นต้น รวมทั้งการพัฒนาและสร้างช่องทางการตลาดสำหรับผลิตผลหรือผลผลิตที่เกิดขึ้น เป็นการเรียนรู้ที่ไม่หยุดนิ่งซึ่งเป็นลักษณะพิเศษเฉพาะของครูบาสุทธินันท์ ปราชญ์ชาวบ้านแห่งบุรีรัมย์ เราจึงเห็นความพร้อมในด้านต่าง ๆ ที่จะทำให้บรรลุผลได้ไม่ยาก แล้วก็คิดต่อไปว่าในระดับชาวบ้านจริง ๆ แม้จะมีความคิดที่จะเปลี่ยนแปลงแต่เขาจะทำได้หรือ การเริ่มต้นคงไม่ใช่ง่าย
และจากการไปดูกรณีศึกษาในวันต่อมา (7 มี.ค.) ซึ่งดิฉันมีโอกาสได้ดูเพียง 2 แห่ง คือ สวนที่เพิ่งเริ่มต้นได้ 8-9 เดือน ของ “น้องกิ่ง” บัณฑิตคืนถิ่นที่เรื่องราวของเธอทำให้ตัวเองฉุกคิดหลายเรื่อง อีกแห่งคือเกษตรผสมผสาน คันนาเงินหมื่น บ้านแก้จนคนสู้ชีวิตของพ่อทอง ซึ่งทั้งสองแห่งอยู่ที่บ้านส้มกบ อ.พุทไธสง
"แม่" กำลังใจของกิ่ง |
|
บ้านหลังน้อยและสวนที่กำลังจะให้ผลผลิต |
แปลงมะเขือกำลังติดผล |