ใช้เวลาสั้นๆ บรรยากาศสบายๆ..
บ่ายวันนี้ อากาศร้อนอบอ้าว พี่เม่ยจึงชวนน้องยิ้มออกมานั่งเล่นนอกบ้าน เฮ้อ..พอจะมีลมพัดให้เย็นชื่นใจอยู่บ้าง เราสองแม่ลูกคุยกันสัพเพเหระ ต่อไปนี้คือช่วงหนึ่งของการสนทนา...
น้องยิ้ม "แม่จ๋า..เวลาเพื่อนมาบอกเรื่องอะไรกับเราเนี่ย เราควรจะ เชื่อ เลยไหม?"
พี่เม่ย "ก็สิ่งที่เขาบอก ลูกคิดว่า ใช่ หรือเปล่าล่ะ"
น้องยิ้ม "ก็เขาบอกให้เราเชื่อ..ว่าใช่"
พี่เม่ย "เราก็ต้องพิสูจน์ให้รู้ได้ด้วยตัวเองก่อนซิ ว่าใช่ จึงสมควรจะ เชื่อ"
น้องยิ้ม "น้องยิ้มก็คิดอย่างนั้น (..แสดงว่าที่ถามเพื่อยืนยันความคิดตัวเอง)
น้องจิ้น เดินเข้ามาร่วมวงสมทบการสนทนาพอดี..
พี่เม่ย " น้องจิ้น..ระหว่างการเชื่อว่าใช่ กับการรู้ว่าใช่จึงเชื่อ อันไหนควรทำมากกว่ากัน"
น้องจิ้น "(เกาศีรษะแกรกๆ..ก้มหน้าคิดเล็กน้อย)..ก็ต้องคิดว่าใช่ก่อนซิคะ ถึงจะเชื่อ"
ด้วยระยะเวลาสั้นๆ ในบรรยากาศสบายๆ ก็เกิดเป็นสุนทรียสนทนา ที่ทำให้พี่เม่ยสรุปประเด็นสำคัญได้อย่างหนึ่งว่า "บ้านเรายึดมั่นในหลักการเดียวกัน คือ..ใช่มาก่อนเชื่อ" (ที่จริงวงสนทนาในวันนี้ คุณพ่อบ้านไม่ทราบว่าไปอยู่ไหน? แต่พี่เม่ยตอบแทนได้เลยว่าความเห็นเหมือนพี่เม่ย)
ยกเว้นเรื่องเดียวค่ะที่ต้องยอมให้ "เชื่อ..มาก่อน..ใช่" ก็คือ..การเรียงคำตามพจนานุกรมไทยนั่นเอง...