เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูเขียว จ.ชัยภูมิ เป็นที่ๆดูสัตว์ป่าได้อย่างใกล้ชิด สัตว์ต่างๆ
อย่าง เก้งกวาง นกหลากหลายชนิด อยู่ใกล้คน จนเห็นคนก็เป็นเพื่อนร่วมป่าเดียวกัน
ช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา ทีมวิทยากรจากเด็กรักป่า มีโอกาสพา ผู้นำชาวบ้าน จาก ป่าดงหนองเอียด
ในพื้นที่ ต. ดงแดง อ.จตุรพักตรพิมาน จ.ร้อยเอ็ด โดยการประสานของ เอ๋ มูลนิธิเพื่อเยาวชนชนบท
( มยช. ) เป้าหมายการไปศึกษาครั้งนี้ เพื่อ ศึกษาการจัดการป่า แนวทางการให้การศึกษาของเขต
รักษาพันธุ์ฯ เพื่อนำไปปรับปรุงใช้ในพื้นที่ ป่าดงหนองเอียด ต่อไป
โป่งที่มีรอยเท้าสัตว์มากมาย ไม่เห็นตัว ก็เห็นรอยเท้า ก็สนุกแล้ว คอยแยกแยะว่า เท้า
ของใครบ้าง ที่มากินโป่ง และใคร ที่มารอกิน สัตว์ที่กินดินโป่ง มากลางวัน เห็น ผีเสื้อ บินว่อน
พี่วุธ เจ้าหน้าที่ฝ่ายสื่อความหมายประจำเขตรักษาพันธ์สัตว์ป่าภูเขียว
กำลังพาชมเส้นทางศึกษาธรรมชาติ และแนะนำวิธีการทำป้ายสื่อความหมายให้หมู่คณะจากดงหนองเอียด
เวลาพี่วุธเจ้าหน้าที่สื่อความหมายนำเดินป่า แล้วไขรหัสความข้องใจที่ชาวบ้านสงสัยเรื่องของป่า
ความรู้ที่ได้รับ เป็นสิ่งที่พวกเรากับชาวบ้านประทับใจ แต่ละคนก็คิดว่าจะเป็นนักสื่อความหมายธรรมชาติ
และเรื่องราวของชุมชนตัวเองให้ดี
เส้นทางเดินป่า ผ่านหลายจุดเรื่องการศึกษา ทั้งป่าเต็งรัง ป่าเบญจพรรณ ป่าดิบเขา และทุ่งหญ้า
ช่วงที่ผ่านป่าโป่งหลังฝนตกใหม่ๆ เจ้าหน้าที่และพวกเราก็ขนหัวลุก เพราะพบรอยเลื้อยของงูใหญ่
โอกาสที่จะอยู่กับธรรมชาติ ถือว่าเป็นโอกาสพิเศษ ยิ่งได้สัมผัส กลิ่นป่า
กลิ่นเพื่อนร่วมโลก ได้เห็น ได้เข้าใจ
ความรัก ความผูกพัน ของคนกับป่า ก็ยิ่งเพิ่มพูนมากขี้น
เห็นภาพ แล้วยิ้มกับคอมฯ เลยคะ
ขอบคุณคะ
ใช่ๆ จำได้ ว่า สายลม เคยเล่าว่า เคยทำงานที่นี่
บรรยากาศดีนะ
บางที นั่งเงียบๆ นกก็บินมาให้ดูใกล้ๆเลยนะ ผิดกับที่อื่น
เก้ง กวาง เราอยู่ใกล้ ก็ไม่หนีนะ
นานเท่าไหร่ก็รอนะคะ ถ้าพี่อาเฌอ เข้ามาดู ช่วยติดต่อหาน้องสาวบ้างนะคะ (บัวตอง)
ผมเคยทำงานที่ภูเขียวรุ่น ปี๓๐ แต่ก่อนนี้ภูเขียวยงคงมีสภาพป่าที่อุดมสมบูรณ์มาก เส้นทางที่ใช้ยังคงเป็นถนนดิน ทุรกันดารมากตอนนั้นราวๆเดือน พย.๓๔ ผมขับรถกระบะออกมาออกมาคนเดียว พอเลยห้วยน้ำตกนาคราชขึ้นเนินมาตรงนั้นเป็นทางโค้ง ผมต้องเบรคกระทันหันเพราะว่า ข้างหน้าห่างจากรถผมเพียง ๑ เมตร เป็นงูใหญ่สีดำมะเมื่อมสะท้อนเเสงอาทิตย์ออกเป็นสีรุ้ง ลำตัวขนาดเท่าต้นกล้วยต้นใหญ่ๆ ผมกะดูเส้นผ่าศูนย์กลางน่าจะอยู่ที่ ๙-๑๐ นิ้วดูก็รู้ว่าน่าจะเป็นงูจงอาง เพราะผมไม่เห็นหัวงู สองข้างทางเป็นป่าเพ็ก หัวอยู่ในป่า ยาวมาก ผมไม่มีกล้องถ่ายรูปเลยไม่ได้ภาพ น่าจะเป็นครั้งเดียวในชีวิตผม ตรงที่ผมพบ เลยขึ้นไปหน่อยจะเป็นน้ำตกนาคราช น้ำตกที่ว่านี้แม่แต่สัตว์ป่ายังไม่กล้าเข้าใกล้ ผมสอบถามจากพรานป่าที่มีอายุมากหน่อยเขาบอกว่าเขาเคยเจอมันที่น้ำตกจึงให้ชื่อว่าน้ำตกนาคราช แต่ว่าถ้าใครเจอจะมีเคราะห์ปางตายทุกคน ผมเองก็เกือบเป็นผีเฝ้าป่า ต่อมาไม่นานก็ต้องออกจากป่าภูเขียวที่ผมรัก เรื่องนี้เป็นความจริง ผมเล่าให้เพื่อนฟังมันไม่เชื่อผมเคยพามันไปที่ศาลปู่เหนาะที่คนภูเขียวเคารพเกรงกลัวทุกคนสาบานว่าที่ผมพบเป็นจริง อยากให้ทาง ภูเขียวตามรอยงูตัวนี้ให้เจอ ผมอยากรู้ว่าตอนนี้มันยังอยู่ไหม
คิดถึงพี่วุฒ พี่แสบ พี่เฟริน์ พี่เชษฐ และพี่ๆๆที่สำนักงาน คิดถึงมากเลยค่ะ
นู๋ชอบเหตุการณ์นี้มากเลยค่ะมันเป้นเหตุการณ์ที่ประทับจัยมากนัยชีวิตค่ะ
นู๋อยากจะเข้าค่ายที่ทุ่งกระมังนานๆๆค่ะ
นู๋ชอบธรรมชาติ ชอบป่าไม้ ชอบสัตว์ป่า ชอบพี่ๆๆที่ภูเขียวทุกคนค่ะ
พี่วุฒ พี่แสบ พี่เฟริน์ พี่เชษฐ์ และพี่ๆๆที่สำนักงานเป็นกันเอง ตลก นู๋นะตื่นเช้ามาเห็นพี่ๆๆภูเขียวนู๋ก็หัวเราะแล้ว
นู๋หัวเราะทั้งสามวันเต็มๆๆเลยค่ะ เจนอยากบอกสนุกมากค่ะ นู๋จะเก็บความทรงจำนี้ไปตลอดค่ะ จะไม่ลืมเหตุการณ์ที่มีความสุขแบบนี้
To Miss Chonthicha Podthongjan jane โรงเรียนเพชรละครวิทยา จังหวัดเพชรบูรณ์