11. แม้ไม่มีเงิน...แต่เงินจากพนันไร้ค่าในสายตาแม่ : สร้างจิตสำนึก


“แม้ว่าเราจะยากจน ไม่มีเงินคล่องตัวเหมือนครอบครัวอื่น แต่เงินจากการพนัน ไม่มีความหมายในสายตาแม่ แม่รังเกียจคนเล่นการพนัน”

       ประมาณปี  2508 ขณะนั้น ผมน่าจะเรียนชั้น ป.5 ผมจำเหตุการณ์ได้ติดตา ติดใจ วันหนึ่ง พี่ชายคนโตของผม(รับราชการครู) นำเงินมาให้คุณแม่ จำนวนหลายร้อยบาท(สมัยนั้นเงินเดือนปริญญาตรี น่าจะไม่เกิน 1200 บาท เพราะสมัยผมจบปริญญาตรี ก็ยังได้รับเงินเดือนเพียง 1750 บาท) เนื่องจากไม่ใช่วันสิ้นเดือน ถ้าเป็นวันสิ้นเดือน เงินที่พี่ชายนำมาให้แม่ก็คงจะเป็นเงินเดือน(นี่ คือความยอดเยี่ยมของพี่ชายคนนี้ เงินเดือนของเขา จะให้คุณแม่ทั้งหมด) เงินที่นำมาให้ในวันนั้นคงไม่ใช่เงินเดือน น่าจะเป็นเงินที่ได้มาจากแหล่งอื่น ผมเห็นคุณแม่หน้าตาไม่ดี เหมือนจะร้องให้ ดุพี่ชายเสียงดังมาก ผมได้ยินแม่พูดว่า เงินนี้ลูกได้มาจากการเล่นพนันใช่ไหม แม่ไม่ต้องการ เงินสกปรกแบบนี้ อย่านำเข้ามาในบ้านเรา ลูกจะเอาไปไหนก็เชิญ  แล้วห้ามนำไปถวายวัดด้วยน่ะ  มันสกปรกเกินไป  แม่เคยบอกกี่ครั้งแล้วว่า ไม่ให้เข้าใกล้การพนัน  การพนันไม่เคยทำให้ใครเจริญหรอก(แม่โยนเงินแบบใกล้เคียงกับปาทิ้ง) ....แม่พูดจบก็เข้าครัว...เงียบ ไม่มีเสียงพูดจากแม่อีก ผมเห็นคุณแม่ น้ำตาซึม  ผมและทุกคนในบ้านวันนั้นรับรู้ได้ว่าแม่เศร้า เสียใจ(Verbal-คำพูด  ไหนจะเทียบเท่า  Non-Verbal..ภาษาท่าทาง)

 

       การกระทำของแม่ในวันนั้น เป็นการประกาศให้ลูก ๆ รับรู้ว่า แม้ว่าเราจะยากจน ไม่ค่อยมีเงินใช้จ่ายได้อย่างคล่องตัวเหมือนครอบครัวอื่น แต่เงินจากการพนัน ไม่มีความหมายในสายตาแม่ เป็นการแสดงให้ลูกรู้ว่า แม่รังเกียจคนเล่นการพนัน  เป็นการ ปลูกฝังจิตสำนึกให้แก่ลูก ๆ ทุกคน รวมทั้งพี่ชายผม ในฐานะคนที่เป็นต้นเรื่อง ทำให้เกิดการสอนเรื่องการพนันขึ้นในครอบครัว ในครั้งนั้น

 

       ในโอกาสอันควร ...โอกาสอันควรในที่นี้ มักจะเป็นในขณะที่พวกเราทำงานบ้านร่วมกับแม่ เป็นเวลาที่มีค่ามากในบ้านเรา แม่จะสอนสอดแทรกเรื่องให้หลีกเลี่ยงจากการพนันและอบายมุขทั้งปวง  ผมได้รับทราบว่าจากแม่ว่า คุณตาและน้าชายชอบเล่นการพนัน และเสียหายมากกับปัญหาการพนัน สิ่งนี้น่าจะเป็นมูลเหตุฝังใจเกลียดการพนันของแม่ ทำให้แม่จริงจังกับการปลูกจิตสำนึกในเรื่องนี้แก่ลูก ๆ

 

       สำหรับผมเอง ในชีวิต เคยเล่นการพนันเล็ก ๆ น้อย ๆ ขณะเป็นนักศึกษาปริญญาตรี(ก็ชีวิตเด็กหอพักนะครับ...ก็มีบ้าง) แต่ถ้าเป็นการเล่นพนันแบบเสียเงินทองมากมาย ไม่มีล่ะครับ  ในบ้านเราทุกคน หลีกเลี่ยงการพนัน ซึ่งผมเชื่อว่า นิสัยส่วนนี้ ได้รับการปลูกฝังจากแม่(รวมทั้งพี่ชายคนโตของผม ก็เลิกเล่นการพนันได้ ตั้งแต่วันนั้น)

 

หมายเลขบันทึก: 183726เขียนเมื่อ 21 พฤษภาคม 2008 19:52 น. ()แก้ไขเมื่อ 7 มิถุนายน 2012 10:52 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (42)

ดร.สุพักตร์มีคุณแม่ที่ยอดเยี่ยมมากเลยค่ะ ^_^

สวัสดีค่ะ

  • ชื่นชมคุณแม่ของอาจารย์มากค่ะ
  • อานิสงค์ที่ท่านมีจิตใจเข้มแข็ง..ทำให้ลูกชายของท่านเลิกการพนันได้ ผู้เป็นพ่อแม่มีส่วนสำคัญที่สุดในการปลูกฝังและสร้างนิสัยที่ดีของลูก
  • ขอบคุณเรื่องราวดี ๆ ค่ะ

ขอบคุณมาก คุณ ใบไม้ย้อนแสง และ คนไม่มีราก

  • เรื่องการพนันเป็นเรื่อง หายนะของคนนะครับ  หลายคนบอกว่า "ถ้าเราไม่ตั้งบ่อน เสียดายโอกาสของประเทศ ไม่อยากให้คนนำเงินไปเล่นต่างประเทศ" ผมเองคิดตรงกันข้าม  "ถ้าเราจะต้องสูญสียเงินได้ของประเทศไปบ้าง แต่สร้างสิ่งแวดล้อมที่ดีให้ลูกหลาน จะคุ้มกว่าครับ"
  • วันหนึ่ง ท่านายกได้เกริ่นเรื่องจะเปิดบ่อนเสรี(ช่วงขึ้นสู่ตำแหน่งใหม่ ๆ)  ผมได้เริ่มโพสต์ในเว็บไซด์นนทบุรี สพท.นนทบุรีเขต 1 และ 2 ทันที ขอให้พี่น้องและนักเรียนชาวนนทบุรี ต่อต้าน "จะตั้งบ่อนที่ใดก็ได้ แต่ต้องไม่ใช่นนทบุรี"  พอเริ่มรณรงค์ได้สักพัก โชคดีที่กระแสเรื่องนี้เงียบหายไปครับ (โชคดีของประเทศนะครับ  ใครจะบอกว่าโง่ ที่ปล่อยให้เงินรั่วไหลออกนอกประเทศ  แต่สำหรับผมแล้ว "ช่างมัน")
  • กลับมาอีกครั้งเพื่อสนับสนุนความคิดของท่านค่ะ
  • ขึ้นชื่อว่า การพนัน ไม่ว่าเพื่ออะไร ทีไหน อย่างไร ไม่เคยให้คุณแก่ใคร
  • เงินไม่ใช่คำตอบทั้งหมดของประเทศชาติ คนบอกว่าเสียดาย เพราะคิดเพียง...อยากได้เงิน...
  • หาคิดไม่ว่า...ของฟรีไม่มีในโลก เราต้องจ่ายทั้งนั้น...ถูก-แพง...ว่ากันอีกทีค่ะ

คุณแม่ของอาจารย์ยอดเยี่ยมมาก ใช่ การพนันมีแต่จะนำความหัยนะกับชีวิตของคนเราเป็นสวนใหญ่ คนที่ได้ก็ดีไป แต่ในจำนวนมากมายของนักเสียงโชดจะมีสักกีคนที่จะสำเร็จด้วยการพนัน ในอิสลามการพนันเป็นสิ่งต้องห้าม เป็นบาปใหญ่ครับ

สวัสดีครับดร.สุพักตร์

  • คุณแม่ของอาจารย์ท่านเก่งมากเลยครับ เก่งมากจริง ๆ
  • ความใจแข็งที่ไม่รับเงินจากการพนันวันนั้นทำให้ลูกเลิกเล่นการพนัน
  • หากใจอ่อนยอมรับเงิน ก็เท่ากับว่า ยอมให้ลูกไปเล่นการพนันอีก
  • ขอบคุณมากครับ

สวัสดีครับ อ.abikaisan และ ครูสุ

  • ขอบคุณครับที่เข้ามาแลกเปลี่ยน
  • ผมคิดว่า ประเทศเรา อย่างไรก็ต้องไม่สนับสนุนอบายมุข ขนาดไม่สนับสนุน ในปัจจุบันประชาชนและเยาวชน ยังหมกมุ่นกันอย่างมาก ถ้าสนับสนุนอย่างเป็นทางการ (เช่น เปิดบ่อนเสรี) "จะหมกมุ่นกันขนาดไหน  สิ่งแวดล้อมของลูกหลานเราจะเป็นอย่างไร"

ขอบคุณ คนไม่มีราก อีกครั้งนะครับ

  • ถ้าจะมีใครคิดตั้งบ่อนเสรีในประเทศนี้ ต้องช่วยกันต่อต้านนะครับ
  • ผมมีพลังนักเรียนจังหวัดนนทบุรี ประมาณ 200000 คน และผุ้ปกครองอีกประมาณ 800,000 คน ทุกคนน่าจะร่วมต่อต้านกับผมครับ ถ้าเขาเห็นกับอนาคตของลูกหลาน(แต่ไม่แน่ใจเหมือนกันครับ)
  • เข้ามายืนยันครับ บ้านผมทั้งพ่อทั้งแม่รังเกียจมาก จนพวกผมก็ไม่มีใครเอาเรื่องพวกนี้เลยครับ
  • ตอนผมเด็ก ๆ แถบบ้านผมคือดงนักเลงการพนัน ไฮโล ปอ ไพ่ ไกชน วัวชน มวยตู้ ...
  • เวลาผมเห็นเขานัดกันมาเล่น ตรงกันข้ามกับบ้าน คนที่ผมรู้จักเหล่านั้น กับครอบครัวเขาที่ผมเห็นสภาพความลำบาก ผมว่ามันทำให้พวกผมไม่นึกจะเล่นการพนันเด็ดขาด
  • จนตอนนี้ผมมาอยู่อีกที่นึง อย่างช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมา เขามีเล่นกันบ้าง แต่เขาจะปิดไม่ให้ผมรู้ พอผมมาเขาหยุดพูดเรื่องทันที ได้ยินลูกบอกว่าน้า ๆ เขาไม่กล้าพูดต่อเลย พอพ่อมา ผมก็พอเดาออกว่าเขาพูดอะไรกัน

ท่าน นายทอง

  • ไม่กล้าใช้ คุณนายทอง นะครับ จะทำให้ความหมายเปลี่ยนไป
  • ขอบคุณมากครับที่เข้ามายืนยันเรื่อง การพนันและอบายมุข ซึ่งเป็นเรื่องใหญ่ระดับประเทศ เป็นเรื่องที่เราจะต้องมีจุดยืนที่ชัดเจน  เราต้องถามตัวเองเป็นขั้น ๆ  คือ คำถาม 1) การพนันเป็นของดีหรือไม่   ถ้าทุกคนตอบว่า "ไม่ดี"  เราจะได้ไม่ต้องถามคำถามที่สอง คือ  2)  เราควรเปิดบ่อนเสรีหรือไม่   เราควรดึงเงินนอกระบบ เข้าสู่ระบบหรือไม่
  • คนที่มีจุดยืนชัดเจน และยึดมั่นในอุดมการณ์ที่ว่า "การพนันเป็นสิ่งไม่ ดี เป็นสิ่งที่ก่อให้เกิดหายนะแก่ตนเองและครอบครัวได้"  ถ้าเรายืนหยัดเช่นนี้ เราจะไม่มีการพิจารณาในประเด็นคำถาม 2 โดยเด็ดขาด
  • สวัสดีครับ ผมเข้ามาตามต่อยอดครับ
  • จุดยืน สำคัญมากครับ ผมยังไม่ขยับไปในระดับชุมชนและสังคม แต่ผมไม่ยอมให้ย่างกลายเข้ามาในบ้านครับ
  • เท่าที่ผ่านมา แปลกนะครับ พอเรามีจุดยืนและแนวปฏิบัติอย่างเข้มในเรื่องการพนัน หรือเรื่องดื่ม ก็ไม่เห็นใครเกลียดหรือไม่ชอบเราเพราะเราไม่เล่นการพนัน เหมือนกับที่ไม่เห็นมีใครเกลียดเพราะผมไม่ดื่มเหล้าครับ และไม่มีใครคะยั้นคะยอให้ผมดื่มด้วย

เรียน  นายทอง

  • ผมเอง ไม่แตะต้องการพนัน
  • สำหรับเรื่องดื่ม เมื่อไปนั่งสังสรรค์กับเพื่อน ๆ ก็มีบ้าง หรือไปเป้นวิทยากรบรรยายก็อาจมีบ้าง(ในงานเลี้ยง)...แต่บ่อยครั้งมากที่เจอ คือ พอนั่งในงานสังสรรค์ "ด้วยทุกคนคิดว่าเราเป็นคนไม่ดื่ม เขาจะสั่งน้ำส้มคั้น หรือน้ำเปล่าให้"..หรือไม่ก็หันมาถามว่า "อาจารย์จะลองเครื่องดื่ม สักหน่อยไหมครับ"

ต่างกันเลยค่ะ ตอนเด็กๆ คุณแม่ดิฉันโตมาได้กับการทำงานหาเงินขายถั่วอบตามโต๊ะสนุ้กในจังหวัดสงขลาค่ะ

แม่จะชอบโม้ว่าท่านจะแทงสนุ้กเก่งมากพอๆ กับพนันเก่งค่ะ และหลังจากเล่นเสร็จก็จะไปกระโดดน้ำทะเลดำน้ำข้ามเรือสำเภาจีนค่ะ :) โม้ใหญ่ :)

ปัจจุบันการพนันอย่างเดียวที่แม่ยังเล่นอยู่และเลิกไม่ได้เสียที ก็คือ หวยใต้ดินบนดิน เล่นเดือนละ 200-300 บาท ดิฉันบอกเท่าไรก็ไม่ยอมเลิกเล่นค่ะ ก็เลยปล่อยไปถือว่าเป็นความสุขของคนแก่ค่ะ :)

สวัสดีครับ ดร.จันทวรรณ

  • ผมคิดว่า มันคงจะกลายเป็นกีฬาประจำตัว ที่ให้รสชาติ และสร้างความสนุกสนานในหัวใจ ในรอบ 1 เดือน ของท่านไปแล้วละครับ...ถ้าอยู่บนพื้นฐานที่พอเหมาะ พอควร ตามหลัก "พอเพียง"  และมุ่งสร้างภูมิคุ้มกันในชีวิต(ผื่อถูก)  ผมคิดว่าคงไมเป็นไรละครับ
  • แม่ยายผม(นินทาแม่ยายน่ะนี่) ซื้อเลขท้าย 2 ตัว 3 ตัว เดือนละ 200-300 บาท เช่นกัน...ผมได้แต่อมยิ้ม ไม่ห้ามครับ เพราะเห็นแล้วว่า อยู่บนพื้นฐานของ "พอประมาณ" เป็นความสุขของท่าน ไม่ว่ากันครับ
  • ขอบคุณอาจารย์มากครับที่แนะนำเรื่อง แต่งหน้าบล๊อก ผมทดลองแล้ว ครับ...ดีมากเลยครับ    ผมฉลาดขึ้นเรื่อย ๆ ครับ ก็ลองผิดลองถูกไปเรื่อย

ตัวอย่างเรื่องที่อาจารย์ยกมาจากประสบการณ์อาจารย์น่าชื่นชมมากค่ะ

ขอปรึกษาหน่อยนะค๊ะ

สมัยนี้เราจะรู้ได้อย่างไรว่าลูกเราติดการพนันหรือไม่ มันดูยาก เด็กมักจะปกปิด เรามีทางป้องกันและสังเกตพฤติกรรมลูกเราอย่างไรบ้างค๊ะ  ยิ่งเป็นพนันบอลเด็กยิ่งชอบดูบอลแต่เราไม่รู้เลยว่าเค้าเล่นพนันบอลหรือไม่ค่ะ

เรียน คุณ kratae

  • ขอบคุณมากครับที่เข้ามาเยี่ยม และร่วมแลกเปลี่ยน
  • ผมคิดว่า 1) ถามตรง ๆ นะครับว่า ลูกเล่น หรือเปล่า ถ้าเขาบอกว่า "ไม่"  คุณแม่จะต้องเชื่อเลยนะครับ "trust" ไว้วางใจครับ ต้องชื่นชมเขาว่า "แม่ภูมิใจมากที่ลูกไม่แตะต้องเรื่องนี้ เป็นเรื่องที่แม่เห็นห่วงลูกมากที่สุดเรื่องหนึ่ง"  "ถ้าลูกแตะต้องเรื่องนี้ ให้ลูกรู้น่ะว่า แม่จะเสียใจที่สุดเรื่องหนึ่ง" และ 2) ต้องสังเกตในช่วงที่มีการแข่งขันนะครับ  เขาอยู่ที่ไหน  กับใคร การใช้เงินช่วงนั้นเป็นอย่างไร   แต่อย่าลืม อย่าซักไซร้ลูกแบบจู้จี้จุกจิกนะครับ
  • ผมจะใช้วิธีข้างต้น กับลูกนะครับ แต่ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าจะได้ผลแบบทั่วไปหรือเปล่า

ดิฉันรู้จักตัวจริงอาจารย์เมื่อไปร่วมสัมมนา"วิจัยเพื่อพัฒนาการเรียนรู้"21 ตค 51

ชื่นชอบที่ท่านเสนอแนะเรื่องงานวิจัยของผู้นำเสนอผลงานมากๆ วันต่อมา ซื้อหนังสือมา 2 เล่ม แต่เล่มที่อยากได้กลับไม่ได้ คือ "การประเมินโครงการฯ" แต่จะซื้อผ่านเน็ตไม่ทราบว่าจะได้ราคาลดหรือเปล่า

และได้เข้าได้ที่เข้าไปดูที่ แม่ ป.4 เลี้ยงลูกให้เป้นด๊อกเตอร์ ฯ ดิฉันเลี้ยงลูกชาย 1 หญิง 1 หญิงน่ารักมาก เรียนค่อนข้างดี ลูกชาย เรียนดี แต่ไม่ค่อยตั้งใจ ติดเพื่อน เหล้า บุหรี่ พนันบอล กลุ้มใจมาก กลัวลูกชายจะเรียนไม่จบปริญญา อาจารย์ช่วยให้ข้อคิดหน่อยนะคะ "ขอกำลังใจ"

ขอคุณมากค่ะ

  • ขอบคุณครับ อ.ชื่นชอบ
  • พยามยามให้ลูกชายคอยเป็นผู้ช่วย ผู้ดูแลคุณแม่นะครับ จะไปธุระอะไรที่ไหน พยายามให้เขาไปเป็นเพื่อน คอยปกป้อง ดูแล แม่  บอกเขาก็แล้วกันว่า ปัจจุบันแม่อายุมากขึ้น ไปไหน ๆ กังวลใจในเรื่องสุขภาพมากขึ้น ต้องการให้เขาไปเป็นเพื่อน   แล้วค่อยสอดแทรกการพูดคุยเรื่องต่าง ๆ ในขณะที่ไปไหนๆ ด้วยกัน(แต่ไม่ควรซักไซร้ในลักษณะจู้จี้ จุกจิก นะครับ)
  • ในเย็น ๆ นะครับ ค่อยเป็น ค่อยไป

สวัสดีครับ ดร.สุพักตร์ ชีวประวัติท่านคล้ายๆ ผมครับ

ผมก็เคยเล่นสล็อตแมชชีน ได้เงินมา 19 บาท รีบมาบอกแม่ แม่ด่าพร้อมกับบอกให้เอาไปคืนเครื่องแมชชีนเสีย เพราะมันเป็นเงินที่มาจากการพนัน แม่ไม่ปลื้ม

ผมเอาคืนเครื่องไม่ได้เพราะมันไม่มีคนทำให้ มันเป็นตู้ตั้งไว้เฉยๆ

จำได้ว่าเอาเงินจำนวนนั้นไปหว่านลงที่คลองน้ำแทน

จากนั้นผมไปวิ่งขายกระดาษตรวจล็อตเตอรี่ แปลก ได้เงิน 19 บาท เอาไปให้แม่ แม่กลับลูบหัวแล้วชม

นับตั้งแต่นั้นผมอยากได้แต่คำชม(บ้ายอ)เรื่อย ๆ ไม่อยากได้คำด่าจากแม่

เลยทำดีเรื่อยมาจนถึงทุกวันนี้ กลัวแม่ตีและดุด่า

สวัสดีค่ะ

ตอนที่พี่ไปบรรยายและพูดว่าเขียนเกี่ยวกับคุณแม่

ยังไม่ได้เข้ามาอ่าน..เมื่ออ่านแล้วดีมาก..ให้ข้อคิด

และอะไรที่มันไม่มีในตำรา..ไม่เคยทราบมาก่อน

ชื่นชมคุณแม่พี่มากค่ะ

เคารพเสมอ น้องตา

  • น้องตา ตามเข้ามาอ่านเกือบทุกเรื่องเลยหรือ

สวัสดีค่ะ

อ่านที่พี่เขียนไว้น่าจะทุกเรื่องนะ

บางเรื่องก็อ่านและไม่ได้แสดงความคิดเห็น

เพราะมันดีในตัวของมันอยู่แล้วค่ะ

อีกคนที่ตามอ่านคือ ดร.บัญชาค่ะ

เพราะนานมาแล้วโรงเรียนมอบหมายให้ตาเป็นผู้

ประสานงานการจัดค่ายวิทยาศาสตร์หว้ากอ

ทางค่ายได้เชิญ ดร.บัญชาเป็นวิทยากร พูดให้ชาวค่ายฟัง

ท่านพูดเกี่ยวกับการเรียนวิทย์ได้ดีมาก.เป็นธรรมชาติ

เด็กเก่งก็อย่างนี้แหละ..พูดเรื่องยากให้สนุกได้..

เหมือนพี่สุพักตร์ที่พูดเรื่องยากๆๆจริงๆๆให้คนเข้าใจได้

เคารพเสมอ น้องตา

วันนี้เรียนกับอาจารย์สนุกมาก ได้ทั้งความรู้ และสิ่งสำคัญคือทักษะชีวิต เพิ่งเข้ามาอ่านบันทึกนี้ค่ะ ขอสนับสนุนมาก ๆ การพนันทำให้ครอบครัวของดิฉันต้องแตกแยก สงสารลูกมาก ๆ อย่าริไปเล่นกันเลย โอกาสติดมีมาก ๆ

อ.เล็ก

  • ขอบคุณมากครับ ที่ให้ข้อมูลป้อนกลับการบรรยาย
  • มีโอกาสก็เข้ามาแลกเปลี่ยนเรียนรู้นะครับ

ขอขอบพระคุณที่ไดรับแนวคิดดีดี เป็นตัวอย่างที่ดีมาก

สวัสดีครับ คุณแม่ของอาจารย์น่าชื่นชมมากครับ

ท่านมีวิธีการสอนลูกให้ได้ผลโดยไม่ต้องพร่ำบ่นหลายครั้ง

เป็นแนวคิดที่ดีมากครับ

ขอบคุณครับ คุณ saard2552 คุณจารุพงษ์ ที่เข้ามาร่วมแสดงความคิดเห็น

อภิศักดิ์ จันทร์สนาม

เรียน ดร.สุพักตร์

ผมทึ่งในวิธีการปลูกฝังคุณธรรม จริยธรรม ให้ลูกๆ ของคุณแม่ท่านจริงๆครับ

ศิริพร หย่องบางไทร

อ่านแล้ว ประทับใจในความมีวิสัยทัศน์ของแม่คะ.... อยากอ่านต่อ....มีตอนต่อไปไหมคะ

ศิริพร หย่องบางไทร

วัดผล51

ขอบคุณ.....ที่ทำให้หลายๆคนอ่านแล้วทราบซึ้งสุดๆในพระคุณของแม่

ขออนิสงส์ของคุณแม่ให้ครอบครัวของคุณแม่มีความเจริญรุ่งเรือง

คำสอนของแม่ให้ข้อคิดกับสังคม และสามารถนำไปใช้อบรมสั่งสอนได้ตลอดไป

วลี สินุธก

สวัสดีค่ะ

  • อ่านเรื่องแล้ว  ชอบวิธีการของคุณแม่ อาจารย์ 
  • ตอนลูกเรียนที่บ้าน (ตอนนี้เขาเรียนที่กรุงเทพฯ)  โดนครูเรียกไปบอกว่าลูกไปยืนดูเขาเล่นไพ่ท่สนามกีฬาหน้าวิทยาลัย  สารวัตรนักเรียนจับมาส่ง  หลังจากสอบสวนเสร็จ ผอ.ลงโทษพักการเรียน 1 อาทิตย์  ถามท่านผอ.ว่าแค่ยืนดู ทำไมลงโทษรุนแรงจัง  สงสารลูก   ขอให้แค่ลงโทษว่ากล่าวได้ไหม  ท่านผอ.บอกว่าไม่ได้
  • ผอ.ท่านบอกว่า   การยืนดูได้เป็นเวลานานๆแสดงว่าในใจชอบมาก  แต่ยังไม่กล้า
  • แค่ดูไปก่อน  แต่ถ้าไม่ลงโทษเท่ากับว่าเป็นการส่งเสริมว่าทำได้   เด็กจะไม่จำ
  • ครั้งนั้นโกรธท่านผอ.มาก   ลูกอยู่บ้านโดยไม่ได้ไปเรียน  แกอายเพื่อน  เสียใจ
  • ปิดประตูอยู่แต่ในห้องทั้งสัปดาห์  (ต่อมาแกบอกว่ายิ่งกว่าติดคุก เพราะอยากไปหาเพื่อน  ก็ไม่ได้ไป  กลัวเพื่อนเรียนไปไกล   ตัวเองเรียนไม่ทัน  สอบตก ฯลฯ )
  • หลังจากนั้นแกต้องรีบเรียนไปเอาสมุดเพื่อนมาดูที่ครูสอนไป  สอบผ่านจึงสบายใจตอนลูกมีความทุกข์  แม่ทรมานมาก เพราะช่วยลูกไม่ได้เลย  ตอนกลางวันแอบกลับมาจากที่ทำงานดูลูกบ่อยๆ  ลูกไม่พูดไม่คุยเหมือนก่อน  มีความทุกข์จัง
  • ตอนนี้จึงต้องขอบคุณท่านผอ.วิทยาลัยเทคนิค  ที่สอนทักษะชีวิตให้กับลูก ลูกไม่กล้าทำความผิดอีก  จนเรียนจบจากที่นั่น   เขาเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น ขอบคุณท่านผอ.  อีกหลายๆครั้ง
  • จึงยกย่องแม่ของอาจารย์ที่จิตใจเข้มแข็งกว่าพี่มากมาย  ทำให้ลูกเป็นคนดีได้ด้วยตนเอง  (พี่ต้องมีคนช่วย 55555)
  • ขอบคุณสิ่งดีดีที่อาจารย์นำมาแบ่งปันค่ะ

ได้อ่านบทความทุกตอนแล้วค่ะ คงต้องติดตามตอนต่อไป ขอบคุณมากนะคะที่เขียนสิ่งที่มีประโยชน์ให้ได้อ่านแล้วนำไปใช้สอนลูก

  • สวัสดีครับ ท่านอาจารย์สุพักตร์
  • ชื่นชม ชื่นชอบ บทความนี้มาก เป็นตัวอย่างที่ดีในการนำไปใช้สอนทักษะชีวิตให้กับเด็กๆ ที่ รร ครับ
  • และในวันครูปีนี้ ขอให้อาจารย์ มีความสุข สุขภาพแข็งแรง เจริญรุ่งเรือง ครับผม

ได้แง่คิดและมุมมองที่ดีค่ะ

สวัสดีครับอาจารย์

ผมเข้ามาอ่านบทความที่มีคุณค่านี้ได้เพราะอาจารย์เป็นผู้สั่งสอนครับ

เยี่ยมมากเลยครับ คุณศุภชัย ขอให้โชคดีครับ

- เรียนอาจารย์ ดร.สุพักตร์

- เป็นครั้งที่ 2 ที่ได้รับฟังการบรรยายจากอาจารย์ครั้งแรกที่มหาสารคาม

- ทุกครั้งประทับใจ การวางแผนและปฏิทินการทำงาน

- การได้รับการถ่ายทอดที่ดี

- เผยแพร่ต่อนะครับต้องขออนุญาต

เรียน อาจารย์ที่เคารพ ผมอ่านเรื่องนี้ซึ่งใจมาก แสดงว่าคุณแม่ท่านได้สร้างจิตสำนึกที่ดีให้กับลูกสมควรยกย่องเป็นแม่ตัวอย่าง

เป็นวืธีการสอนลูกแบบยั่งยืน

ขอบคุณค่ะสำหรับบทความที่มีคุณค่าของชีวิต

เรียน อาจารย์ที่เคารพ

สวัสดีค่ะ หนูศุภนันท์นักศึกษา มศธ ภาคเหนือ (ลำปาง) พึงสอบจบไปเมื่อ มิ.ย.2553 ค่ะ

บทความของอาจารย์ดีมาก ๆ มีคุณค่า ขอชื่นชมคุณแม่ และขอขอบคุณเรื่องราวดี ๆ ที่อาจารย์ได้นำมาให้ศึกษาค่ะ

เรียน ท่านอ.ครับ

ผมรับการอบรมจากท่านอ.ที่ชะอำ

เรื่องการบันทึกบล็อก กลับมาเลยนำข้อมูลเก่าๆ ที่เขียนไว้

มาเรียนรู้และบันทึก ผ่านมาปีกว่า บันทึกได้พอสมควรแล้ว

ครับผม

http://www.gotoknow.org/dashboard

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท