สวัสดีครับ...เพื่อน ๆ ข้าราชการผู้ใฝ่รู้เรื่อง IT ทุกท่าน
วันนี้เป็นวันแรกของการฝึกอบรมตามโครงการพัฒนาความรู้ด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ จ.ชุมพร ในช่วงเวลา 5 วัน ตั้งแต่วันที่ 1 - 5 สิงหาคม 2548 เช้าวันจันทร์แบบนี้ถึงแม้ว่าจะได้รับการสนับสนุนให้มาเรียนรู้เรื่อง IT ณ อาคารฐานความรู้ ชุมพรออนไลน์ แต่เชื่อว่าหลายคนก็ยังมีภารกิจให้ทางสำนักงานเรียกหาตัวกันอยู่เนือง ๆ ทำยังไงได้ละครับ ก็เรามันคนทำงาน หรือเรียกให้หรู ๆ หน่อยก็คือ ผู้ปฏิบัติ (Practitioner) และคำกล่าวที่ว่า “ความรู้อยู่ที่ผู้ปฏิบัติ” ก็คือความจริงแท้แน่นอนของหน่วยงานทุกแห่งในโลก ด้วยเหตุนี้เอง ผู้ปฏิบัติไปนั่งอยู่ที่ตรงไหน การพึ่งพิงเรียกหาเพื่อขอใช้ “ความรู้จากผู้ปฏิบัติ” ก็จะติดตามตัวไปตลอดเวลา
ผู้บริหารระดับสูง ในอีกด้านหนึ่งท่านก็คือ ผู้ปฏิบัติเหมือนกันกับเรา แต่กิจกรรมที่ท่านจำเป็นต้องรู้และนำไปปฏิบัติ หรือที่เรียกกันว่าเป็น “ขุมความรู้” (Knowledge Assets) ที่ต้องมี “ฝังลึก” (Tacit Knowledge) อยู่ในตัวท่าน ได้แก่ วิสัยทัศน์, ยุทธศาสตร์ในการบริหารงาน, การควบคุมและกำกับงาน ฯลฯ สิ่งเหล่านี้บางอย่างก็มีปรากฏอยู่ในรูปของเอกสาร สื่อสิ่งพิมพ์ต่าง ๆ ให้พวกเราได้ติดตามอ่าน ศึกษาทำความเข้าใจกัน แต่ส่วนใหญ่แล้วก็จะ “ฝังลึก” อยู่ในตัวท่านนั่นแหละ
ผู้บริหารระดับกลาง ซึ่งก็คือ กลุ่มของพวกเราที่มาฝึกอบรมพร้อมกัน ณ ที่นี้ แท้ที่จริงก็คือ “ผู้ปฏิบัติ” ในภารกิจสำคัญต่าง ๆ ขององค์กร ต้องใช้ความรู้ในหลาย ๆ ด้านมาประกอบกันในการทำงาน โดยเฉพาะที่จะขาดเสียมิได้ในยุคปัจจุบันนี้ ก็คือ ความรู้ทางด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ หรือ IT และก็เป็นเช่นเดียวกับกลุ่มผู้บริหาร ความรู้ของพวกเราส่วนใหญ่แล้ว “ฝังลึก” อยู่ในตัวตนของเรานั่นเอง
ในสมัยนี้ เราให้ความสำคัญกับการจัดการความรู้ (Knowledge Management : KM) ซึ่งมีกระบวนการที่น่าสนใจในการนำความรู้ “ฝังลึก” มาแลกเปลี่ยนกันด้วยวิธีการต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการพบปะพูดคุยกันแบบเผชิญหน้ากัน (Face-to-Face : F2F) หรือจะด้วยวิธีการที่ทันสมัยมาก ๆ เป็นการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ผ่านทางระบบ Internet ด้วยวิธีการที่เรียกว่า Blog สร้างการติดต่อสื่อสารขึ้นมาในแบบ Blog-to-Blog : B2B เรื่องนี้ใครที่ยังใช้ไม่เป็นขอบอกเลยว่า “Out” สุด ๆ ตกยุคตกสมัยกันไปนั่นเลย
ดังนั้น ในคอร์สฝึกอบรมครั้งนี้ ผมต้องการให้ พวกเราในฐานะ “ผู้ปฏิบัติ” ทุกท่าน เปิดเวทีของการเรียนรู้โดยการใช้ Blog เป็นเครื่องมือขยายขอบเขตของการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ให้ออกไปนอกกรอบของห้องปฏิบัติการคอมพิวเตอร์ ใช้สื่อ Internet ในรูปแบบของ Blog มาเสริมการเรียน ประเด็นที่ เพื่อนของเราคนใดคนหนึ่งแสดงความคิดเห็นและถามผ่านทาง Blog เมื่อผมหรือมีผู้รู้ท่านอื่นมาช่วยตอบ คนอื่น ๆ ก็จะได้เรียนรู้ไปด้วย เมื่อขยายวงออกไปมากเข้า เราอาจจะได้เห็นการสร้างความสัมพันธ์ในสังคมในแบบที่เรียกว่า Social Networking เกิดขึ้นผ่านทาง Blog ของเรา
เพื่อเป็นการกำหนดภารกิจให้เกิดการปฏิบัติที่ชัดเจน ผมขอเสนอวิธีการเลือกผู้ที่จะมาทำหน้าที่รายงานผล และบรรยากาศของการฝึกอบรมผ่านทาง Blog โดยการจับฉลากรายชื่อวันละ 8 คน ในเวลา 5 วันก็จะครบ 40 คนของผู้เข้ารับการฝึกฯ ทั้งหมด ทั้ง 8 คนจะได้รับการแบ่งหน้าที่ออกเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มละ 4 คน รับผิดชอบภารกิจ ในแต่ละช่วงเวลาของการฝึกฯ วันละ 4 ช่วงเวลา คือ
เช้า ก่อนเบรค (8.30 – 10.30) สาย หลังเบรค (10.40-12.00) บ่าย ก่อนเบรค (13.00-14.30) บ่าย หลังเบรก (14.40-16.30)กลุ่มที่ 1 คุณลิขิต (Note-Taker) จำนวน 4 คน ทำหน้าที่รายงานการเรียนรู้โดยสรุปประเด็นที่ได้ฟังบรรยาย, ฝึกปฏิบัติ และนำเสนอข้อคิดเห็นประจำวัน โดยแบ่งความรับผิดชอบคนละช่วงเวลา
กลุ่มที่ 2 คุณขานไข (Announcer) จำนวน 4 คน ทำหน้าที่รายงานบรรยากาศของการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ แซวนิด หยอกหน่อยพอได้อารมณ์ สร้างสรรค์ กระชับความสัมพันธ์ในแต่ละวัน โดยแบ่งความรับผิดชอบคนละช่วงเวลาเช่นกัน
ทั้ง 8 ท่าน จะต้องทำหน้าที่รายงานผล และบรรยากาศของการฝึกอบรมผ่านทาง Blog โดยเขียนลงใน "ข้อคิดเห็น" ส่วนเพื่อน ๆ ผู้เข้ารับการฝึกอบรมทุกท่าน มีหน้าที่เข้ามาใน Blog เพื่อการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ (Knowledge Sharing) โดยนำเสนอความรู้ที่ตนมีอยู่เพื่อต่อยอดความรู้ร่วมกันในกลุ่มของเรา, ออกความคิดเห็น หรือจะถามประเด็นปัญหาให้กลุ่มของเรา ซึ่งรวมทั้งอาจารย์ผู้สอนได้เข้ามาตอบ ก็จะทำให้ “วงล้อแห่งการเรียนรู้ผ่าน Blog" ของเราก้าวหน้าไปได้ไกลยิ่งขึ้น.
ฝนตกอากาศดี๊ดี น่านอน
การอบรมประเมินความรู้ด้านคอมพิวเตอร์และอินเตอร์เน็ท โครงการพัฒนาความรู้ด้านเทคโนโลยีสารสนเทส จังหวัดชุมพร ในวันนี้ หวังเป็นอย่างยิ่งว่าคงจะได้รับความรู้ในการนำข้อมูลไปวิเคราะห์ได้พอสมควร
วันแรกของการฝึกอบรมตามโครงการพัฒนาความรู้ด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ บรรยากาศดี เป็นกันเอง เพราะหลายคนคุ้นหน้าคุ้นตา ความคาดหวัง หวังว่าจะนำความรู้เรื่องการจัดทำฐานข้อมูลไปใช้ประโยชน์ได้จริงๆ สักที
วิสูตร
1/ส.ค.48
สรุปเนื้อหาหลังเบรค
ผู้เข้ารับการฝึกอบรมได้ทำแบบฝึกการลงรหัสแบบสอบถาม/ประเมินความรู้ด้านคอมพิวเตอร์และอินเตอร์เน็ท อาจารย์ได้เฉลยแบบฝึกคู่มือและให้ความรู้เพิ่มเติมในการใช้ชื่อตัวแปรและการลงรหัสเพื่อสามารถนำไปใช้ในการทำฐานข้อมูล วิเคราะห์ข้อมูล และนำไปประยุกต์ใช้ในการปฏิบัติงานเบื้องต้น
สวัสดีพี่ ๆ น้อง ๆ อบรมทุกท่านค่ะ
วันนี้เป็นวันแรกที่อบรม รู้สึกตื่นเต้นมาก ฝนก็ตก แต่พอได้เข้ารับการอบรมดูพี่ ๆ ทุกคนตั้งใจมากที่จะอบรมในครั้งนี้ แต่ละคนดูน่าตาสดชื่น พร้อมรับกับสิ่งใหม่ ๆ ที่จะได้รับ บางทานก็ยังไม่รู้เรื่องบางท่านก็เป็นกันมาแล้ว อาจารย์ให้งานทำ ดูทุกคนจะตั้งใจม๊าก ถึงมาก ๆ ทำให้ทุกคนรู้สึกกระตือรือร้นในการที่อบรมในวันต่อ ๆ ไป พอเบรก กินกาแฟ โอวัลติน ทุกคนก็เริ่มที่จะขึ้นมาศึกษาต่อและตั้งใจมากค่ะ ดู ๆ แล้วน่าจะไปได้สวยน่ะค่ะ
สรุปเนื้อหาช่วงบ่าย การบันทึกข้อมูลลงในโปรแกรม Excel เพื่อการวิเคราะห์ข้อมูล สามารถทำได้หลายวิธี แล้วแต่ถนัด สังเกตุดูทุกๆ คนที่เข้ามาอบรมในครั้งนี้สามารถทำได้ทั่วๆกัน ขอบคุณอาจารย์ที่ให้คำชี้แนะในครั้งนี้
ได้รับความรู้เพิ่มขึ้นมากๆ แถมสุขภาพดีอีกต่างหาก
เพราะเดินขึ้น- ลงบันไดวันละหลายรอบ
สรุปผลการเรียนหลังเบรคบ่าย
ช่วงบ่ายอาจารย์ให้ลงข้อมูลตามแบบสอบถามโดยใช้โปรแกรม Excel พร้อมกับแนะนำการจัดเก็บ www. ที่ใช้ประจำให้เป็นหมวดหมู่ และการลบ www. ที่เคยเข้าดู ตลอดจนอธิบายการใช้ Blog เพื่อการแลกเปลี่ยนความรู้ความคิดเห็นภายในหน่วยงาน นับเป็นความรู้ใหม่ที่สามารถนำไปใช้ในหน่วยงานได้เป็นอย่างดี ขอขอบคุณสำนักงานจังหวัด ศูนย์ชุมพรออนไลน์ และคุณไอศูรย์ ที่ทำให้มีโครงการนี้
สรุปจากเรียนวันแรก สังเกตุแล้วพบว่ายังมีข้าราชการอีกหลายคนที่ยังไม่มีความรู้ดีในการใช้คอม ฯ บางคนก็รู้แต่ก็ไม่จริง อย่างผมไง เรียนมาด้วยตนเอง + ตำราเล็กน้อย ไม่มีการฝึกอบรม ทำให้ได้ความรู้มาแบบ งู ๆ ปลา ๆ พอทำงานได้ เมื่อได้มาเรียนในครั้งนี้จึงได้พบว่า โปรแกรมต่าง ๆ ภายใต้ MS Office ยังมีความสามารถ และลูกเล่นอีกเยอะเลยทีเดียว นี่แค่วันแรกนะ ขอให้ทั้ง 41 คน พยายามตั้งใจรับเอาไปใช้และถ่ายทอดให้เพื่อนร่วมงานด้วย อย่าหวงความรู้ จะได้ไม่ลืม และเป็นการทบทวนตัวเองด้วยไงครับ
ต้องให้อาจารย์สอนโปรแกรมพัฒนาเว็ปไซต์ด้วยโปรแกรมสำเร็จรูป MS ACCESS POWERPOINT โดยเน้นโปรแกรมดังกล่าวให้มาก ๆ กว่าโปรแกรม excel เวลาอาจารย์ให้ทำตัวอย่างไม่ต้องทำซ้ำมาก เพราะจะทำให้มีเวลาเรียนโปรแกรมดังกล่าวน้อยลง