01. การเริ่มต้นชีวิตเด็กคนหนึ่ง


ไม่พร้อมด้านเงินทอง แต่พร้อมด้านการเอาใจใส่จากแม่ และพ่อที่เป็นคนเข้มงวด

 

 

ผมเกิดในชนบทที่ห่างไกลจากความสะดวกในวิถีชีวิตทั้งปวง ยกเว้นความสะดวกในเรื่องพืชผักและปลาในท้องนาเพื่อการยังชีพ(สะดวกมาก สามารถหาได้จากข้างบ้าน และทุ่งนาใกล้หมู่บ้าน โดยไม่ต้องซื้อ) คุณพ่อเป็นครูประชาบาล(จบ ม.3) คุณแม่เป็นแม่บ้าน จบ ป.4(ทราบจากคุณแม่ว่า คุณตาไม่สนับสนุนให้เรียนหนังสือ) ฐานะทางครอบครัวค่อนข้างเดือดร้อน   ในวัยเด็กจำได้ว่า ในขณะที่คุณพ่อไปเป็นครูสอนหนังสือในโรงเรียนใกล้บ้าน คุณแม่จะขายขนมจีนน้ำยาอยู่ที่หน้าบ้านของตนเอง  เรามีพี่น้อง รวม 7 คน

    ในวัยเด็ก ขณะเรียนระดับประถมศึกษา ปีที่ 1-4 กระบวนการหล่อหลอมที่ผมได้รับจากคุณพ่อ-คุณแม่ที่สำคัญ ๆ และมีผลต่อชีวิตผมเป็นอย่างยิ่งก็คือ 1) คำสั่งให้ตื่นนอนแต่เช้า ไม่มีใครในบ้านของเราที่มีสิทธิ์ตื่นสายกว่า 06.00 น. ในสภาพที่เป็นจริง คุณพ่อจะปลุกทุกคนก่อน 05.30 น. ถือเป็นเรื่องที่เข้มงวดมากในครอบครัวของเรา จนผมติดนิสัยมาจนทุกวันนี้ และ 2) การช่วยงานบ้าน ทุกคนต้องมีหน้าที่ช่วยงานบ้าน ตั้งแต่ระดับปฐมวัยและประถมศึกษา งานที่เริ่มปลูกฝัง คือ การต้องคอยดูแล-บริการคุณยาย คุณปู่ คุณย่า เมื่อท่านมาค้างที่บ้านเรา(สิ่งนี้ได้ปลูกฝังค่านิยมกตัญญูน่ะ) นอกจากนั้นก็เป็นงานบ้าน ตามสภาพความพร้อมด้านร่างกายของเด็กระดับปฐมวัยและประถมศึกษา

.....ในเรื่องการสร้างให้เป็นผู้จัดการครอบครัว/รับผิดชอบงานบ้าน หรือเรียนวิชา "การดูแลรักษาบ้าน" โดยฝีมือคุณแม่ ป.4 จนผมสามารถเป็นช่างในบ้านและทำงานบ้านทุกอย่างได้จนถึงทุกวันนี้ ผมจะเล่าในตอนต่อไปนะครับ

 

หมายเลขบันทึก: 177921เขียนเมื่อ 21 เมษายน 2008 12:19 น. ()แก้ไขเมื่อ 29 มีนาคม 2012 18:53 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (13)
  • สถาบันครอบครัว
  • มีความสำคัญมากเลยนะครับ
  • สำหรับการดำเนินชีวิต
  • รออ่านตอนต่อไปครับ
  • ขอบคุณครับ
  • อาจารย์ครับ
  • ลองเอานี้ไปสอนนักศึกษา มสธ บ้างดีไหมครับ
  • คาดว่าน่าจะเป็นประโยชน์ครับ
  • Learners.in.th
  • ขอบคุณครับ

สวัสดีค่ะอาจารย์ ชอบใจบทความของอาจารย์มากๆ ค่ะ ครอบครัวที่อบอุ่นและเอาใจใส่ซึ่งกันและกันนั้นยิ่งกว่ามีเงินมีทองล้นหัวแต่ลูกเกเรค่ะ

ตอนเด็กๆ คุณพ่อดิฉันเลี้ยงควายแถวๆ บางกระดี่ กทม. ค่ะ อ่านหนังสือบนหลังควายจนสอบเข้าเรียนสวนกุหลาบได้ค่ะ แต่ด้วยว่าไม่มีเงินก็เลยไม่ได้ต่อมหาวิทยาลัยค่ะ ก็เลยจบแค่ ปวส. เพาะช่าง ส่วนคุณแม่ก็จบ ป.4 ค่ะ เพราะก๋งที่ข้ามน้ำข้ามทะเลมาไม่มีเงินส่งให้เรียนเช่นกันค่ะ

ความขยันอดทน ความรัก ความเอาใจใส่ ของพ่อแม่ ทำให้เป็นดิฉันเช่นทุกวันนี้ค่ะ :)

อาจารย์คะ

ดิฉันเห็นอาจารย์ไปเขียนในอนุทินแล้ว อยากอ่านก็เลยตามมาพบบันทึกนี้ เขียนอีกนะคะ ดิฉันอยากอ่านต่อคะ

ขอบคุณมากคะ ที่นำประสบการณ์มาแบ่งปันกันคะ :)

เพิ่มเติมคะ

ดิฉันเพิ่งสังเกตว่าอาจารย์ลบบันทึกเก่า เพื่อจัดหมวดบล็อกใหม่ ต้องขอโทษด้วยคะ จริงๆ สามารถย้ายบันทึกจากบล็อกเดิม มายังบล็อกใหม่ได้ ตามบันทึก เพิ่มเติมระบบ "ย้ายบันทึก" และ "ลบบล็อก"  ดิฉันลืมแนะนำไป ต้องขอโทษด้วยคะ

ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามเรื่องเล่านี้

  • อาจารย์ขจิตแนะนำให้นำไปสอนนักศึกษา จริง ๆ แล้ว "ผมจะเล่าเรื่องเหล่านี้สอดแรกในการบรรยายบ่อยครั้งมากครับ"
  • คำพูดของ ดร.จันทวรรณ ที่ว่า "ความขยันอดทน ความรัก ความเอาใจใส่ ของพ่อแม่ ทำให้เป็นดิฉันเช่นทุกวันนี้ค่ะ"   อยากให้พ่อแม่ทุกคนได้ฟังครับ
  • สำหรับ คุณมะปรางเปรี้ยว คอยแนะนำเทคนิควิธีให้ผมเป็นระยะ ๆ นะครับ ผมคงจะเขียนได้แบบชวนติดตามมากขึ้น

สวัสดีค่ะอาจารย์

ครูอ้อย ก็ติดตาม อ่านค่ะ

และเป็นลูกศิษย์อาจารย์ด้วยค่ะ

กราบสวัสดีปีใหม่ไทย..(ย้อนหลังค่ะ) ท่านอ.สุพักตร์

โชคดีที่หนูมาอ่านบล็อกของอาจารย์...ดีใจที่จะได้ฟังแง่คิด มุมมอง และประสบการณ์ของอาจารย์อีก...หนูยังจำข้อคิด และเกร็ดต่างๆ ที่อาจารย์เล่าให้ฟังช่วงสัมมนาเข้มได้คะ....แล้วจะติดตามพร้อมประชาสัมพันธ์ให้เพื่อน stou ทราบคะ

รุจิดา สุขใส (C&I)

  • ขอบคุณครูอ้อยครับ ที่ติดตามบันทึกนี้
  • คุณรุจิดา ...เป็นอย่างไรบ้าง เรื่องเรียน ไปได้ด้วยดีใช่ไหม ห่วงและระลึกถึงเสมอ  เข้ามาแลกเปลี่ยนเรียนรู้บ่อย ๆ ก็แล้วกันนะครับ

สวัสดีค่ะอาจารย์

ประวัติของอาจารย์ขออนุญาตยกเป็นตัวอย่าง

ให้นักเรียนได้ศึกษาเพื่อเป็นแบบนะคะ เพราะเป็น

บุคคลที่ควรแก่การเป็นแบบอย่างของเด็กยุคใหม่

พวกเด็กๆที่รู้สึกว่าตนเองด้อย เขาจะได้รู้ว่าหากเขาสู้ ๆ

เขาก็จะประสบความสำเร็จ ....ชื่นชมจริงๆค่ะ

เรียน อ.preeda

  • ขอบคุณครับที่ติดตาม
  • อันที่จริงก็เป็นชีวิตในครอบครัวธรรมดา ที่พ่อเป็นครู แม่เป็นแม่บ้าน ฐานะธรรมดา ไม่ถึงกับเดือดร้อน แต่ก็ไม่ใช่คล่องตัว  แต่สิ่งที่ผมได้สุด ๆ ในชีวิต คือ "คำสอนและการอบรม ที่ผมคิดว่ายอดเยี่ยมจากคุณแม่ และความทุ่มเทในการสร้างโอกาสในชีวิตให้แก่ลูก ๆ ของคุณพ่อ" (ปัจจุบัน คุณพ่อ อายุ 88 ปี อยู่กับผม ในหมู่บ้านประชานิเวศน์ 3 นนทบุรี)
  • ถ้าอาจารย์ลองอ่านทุก ๆ เรื่อง สิ่งที่จะได้ คือ ปรัชญาชีวิต เช่น "ชีวิตกำหนดได้ด้วยตนเอง"  "การทำงานหนัก จะช่วยสร้างโอกาสในชีวิตเรา" ฯลฯ
ตามรอยครูบ้านนอก

รู้สึกดีค่ะที่ได้อ่าน จะได้เรื่องเก่าไปเล่าใหม่ ให้นักเรียนฟัง เผื่อได้แง่คิดดี ๆ อีกนะคะ ...จารุวรรณ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท