แนวทางการพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษา
1. หลักการ การพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษา
1.1
การพัฒนาต้องก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่ตัวผู้เรียน
1.2
การพัฒนาต้องเกิดจากความต้องการของครูและบุคลากรทางการศึกษา
1.3
การพัฒนาต้องมุ่งเน้นลักษณะ Site Based
Development หรือ School Based Development (SBD)
1.4
การพัฒนาต้องมีหลากหลายรูปแบบให้เลือกตามความเหมาะสมของแต่ละบุคคล
1.5
การพัฒนาต้องสอดคล้องกับภารกิจและหน้าที่ที่ปฏิบัติของครูและบุคลากรทางการศึกษา
1.6
การพัฒนาต้องดำเนินการในรูปของเครือข่ายกระจายทั่วประเทศ
1.7
การพัฒนาต้องสอดคล้องกับนโยบายและข้อกำหนดของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
1.8
การพัฒนาต้องกระทำอย่างทั่วถึงและครอบคลุมกลุ่มเป้าหมายทั้งในและนอกกระทรวง-
ศึกษาธิการ ภายใต้ข้อจำกัดด้านงบประมาณ
2. กลุ่มเป้าหมาย ครู
และบุคลากรทางการศึกษาของหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนประมาณ 640,000
คน ได้แก่
2.1 หน่วยงานในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการ ประกอบด้วย
- สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน
- สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา
- สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา
- สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา
- สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ
- หน่วยงานในกำกับของกระทรวงศึกษาธิการ
2.2
หน่วยงานนอกสังกัดกระทรวงศึกษาธิการ ประกอบด้วย
- สำนักงานการศึกษากรุงเทพมหานคร
- สำนักงานการศึกษาเมืองพัทยา
- สำนักงานการศึกษาส่วนท้องถิ่น
2.3 หน่วยงานในกำกับกระทรวงศึกษาธิการ
ประกอบด้วย
- คุรุสภา
- โรงเรียนมหิดลวิทยานุสรณ์
3.
รูปแบบและวิธีการพัฒนา
3.1 การพัฒนาครู และบุคลากรทางการศึกษา
มุ่งเน้นให้มีสมรรถนะตามมาตรฐานตำแหน่ง
และมาตรฐานวิชาชีพทั้งสมรรถนะหลัก (Core
Competency) สมรรถนะการปฏิบัติงานในหน้าที่
(Functional Competency)
และสมรรถนะเฉพาะตามกลุ่มสาระ (Specificational
Competency) ตามที่ ก.ค.ศ. กำหนด
3.2
รูปแบบของการพัฒนามุ่งเน้นการสร้างเครือข่ายที่มีคุณภาพตามมาตรฐานที่
สคบศ. กำหนด ให้กระจายอยู่ทั้งประเทศ
เพื่อความสะดวกในการเข้ารับการพัฒนาของครู และบุคลากรทางการศึกษา
ทั้งที่เป็นองค์กรเครือข่าย บุคคลเครือข่ายและเครือข่ายทางไกล
3.3
วิธีการพัฒนาต้องมีความหลากหลาย สอดคล้องกับความต้องการพัฒนาของครู
และบุคลากรทางการศึกษา
แต่มุ่งเน้นวิธีการพัฒนาที่ใช้โรงเรียน/หน่วยงานเป็นฐาน (School Based Development/Insite Based
Development) เป็นสำคัญ
4. การประเมินการพัฒนาครู และบุคลากรทางการศึกษา
4.1
การประเมินก่อนการพัฒนา มีจุดประสงค์เพื่อให้ครู
และบุคลากรทางการศึกษา
ได้ทราบถึงความต้องการและความจำเป็นของตนที่จะต้องเข้ารับการพัฒนาแล้วจัดทำแผนพัฒนาตนเอง
(Individual Development Plan :
ID-Plan) โดยใช้ข้อกำหนดสมรรถนะ (Competency) ของครูและบุคลากรทางการศึกษา ที่
ก.ค.ศ. กำหนดเป็นเป้าหมายในการประเมิน
สำหรับกระบวนการและขั้นตอนการประเมินให้ดำเนินการ ดังนี้
ผังมโนทัศน์การประเมินเพื่อการพัฒนาครู คณาจารย์และบุคลากรทางการศึกษา
4.2 การประเมินหลังการพัฒนา มีจุดประสงค์เพื่อติดตามผลการนำความรู้
และประสบการณ์ ที่ได้รับจากการพัฒนาของครู
และบุคลากรทางการศึกษา
ไปประยุกต์ใช้ในการพัฒนากระบวนการเรียนการสอนหรือในภารกิจที่ตนเองรับผิดชอบ
ดังนั้น การประเมินในกรณีนี้ จึงมี 2 ลักษณะ คือ
การประเมินภายในและการประเมินภายนอก
4.2.1 การประเมินภายใน มีจุดประสงค์เพื่อติดตามดูร่องรอย
ขั้นตอนและพฤติกรรม การสอนหรือการทำงานของครู
และบุคลากรทางการศึกษา รวมทั้งผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน
หรือประสิทธิผลของงานที่เกิดขึ้น โดยผู้บริหารสถานศึกษา/หน่วยงาน
สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา หน่วยงาน ต้นสังกัด และ สคบศ.
4.2.2 การประเมินภายนอก
มีจุดประสงค์เพื่อติดตามคุณภาพและประสิทธิภาพของสถานศึกษา/หน่วยงานทางการศึกษาในภาพรวม
โดยหน่วยงานต้นสังกัดและองค์กรภายนอก เช่น สมศ.
สามารถอ่านรายละเอียดเกี่ยวกับยุทธศาสตร์การพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษา
ได้ที่ http://www.nidtep.go.th/plan
"หากท่านมีข้อเสนอแนะหรือข้อคิดเห็นใด ๆ
โปรดแสดงความคิดเห็นของท่านผ่าน Blog นี้
เพื่อประโยชน์ในการแสวงหารูปแบบการพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษา
ที่มีประสิทธิภาพสูงสุดต่อไป"
เรียน คุณวีระชัย จิวะชาติ
อยากทราบว่าบุคลากรทางการศึกษาอื่น ตามมาตรา 38 ค (2) จะมีการพัฒนาหรือไม่ และช่วงเวลาใหนคะ พยายามค้นหาข้อมูลการพัฒนาสมรรถนะของบุคลากรทางการศึกษาอื่น ตามมาตรา 38 ค (2) เพื่อทำงานส่งอาจารย์แต่หาไม่เจอ ขอความอนุเคราะห์คุณวีระชัย ช่วยส่งข้อมูลให้ด้วยค่ะ ขอขอบพระคุณล่วงหน้าค่ะ
การพัฒนาครู บุคลากรทางการศึกษา นับว่าเป็นสิ่งที่ดีและสมควรทำอย่างจริงจังและต่อเนื่อง โดยการจัดทำโครงการต่างๆที่มีผู้รับผิดชอบกำกับ นิเทศ ติดตามอย่างจริงจังและต่อเนื่อง มิใช่เป็นโครงการไม้หลักปักขี้เลน ครุ บุคลากรฯมีทั้งที่เป็น X และ Y เมื่อเขาได้รับการตองสนองความต้องการในลำดับขั้นหนึ่งแล้ว พวกเขาย่อมมีความต้องการในลำดับขั้นต่อไปอีกอย่างแน่นอน ตามหลักการของ มาสโลว์ หากมีผู้เกี่ยวข้อง หน่วยงาน องค์กร ที่รับผิดชอบให้ขวัญ กำลังใจ ส่งเสริมสนับสนุนพวกเขาอย่างจริงจัง จริงใจและต่อเนื่องแล้ว แน่นอนที่สุด ครุ บุคลากรฯเหล่านั้นย่อมมีการพัฒนาตนเองอย่างจริงจังและต่อเนื่องเช่นกัน ยกตัวอย่างวิทยฐานะ เมื่อพวกเขาได้รับในระดับหนึ่งแล้ว ก็ขวยขวายที่จะขยับตนเองขึ้นไปอีกระดับหนึ่ง แม้จะแสนยากเข็ญ ครู บุคลากรของเราตอนนี้ก็ชักชวน ชี้นำกันศึกษาต่อในระดับที่สูงขึ้น หากมีผู้เกี่ยวข้อง หน่วยงาน องค์กรมองเห็นความสำคัญ มอบสิ่งดีๆขวัญ กำลังใจแก่พวกเขา แน่นอนพวกเขาจะเป็นแกนนำที่ดี ในการพาเพื่อนๆครู บุคลากรอีกมากมายหลายชีวิต พัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง ทุกอย่างหากเป็นเชิงประจักษ์ดังที่กล่าวอ้างกันมา ท่านก็จะได้เห็นสิ่งที่ดีๆเป็นเชิงประจักษ์เกิดขึ้นมาเช่นกัน อัศจรรย์ย่อมเกิดขึ้นจริงฉันใด ขวัญและกำลังใจก็เป็นสิ่งอัศจรรย์ที่จะทำให้เกิดการพัฒนาฉันนั้น ขอบคุณที่ให้โอกาสแลกเปลี่ยนเรียนรู้
การอบรมรครูในขณะนี้ยังไม่ได้ดำเนินการตามหลักการพัฒนาครูข้อ 1 การพัฒนาต้องก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่ตัวผู้เรียน ครู ผู้อำนวยการโรงเรียน ผู้อำนวยการเขพื้นที่การศึกษาได้พัฒนานเองเลื่อนวิทยฐานะแต่ onet ยังต่ำอยู่/ นักเรียนทะเลาะกันหรือวัดการเปลี่ยนแปลงที่ััััััััตัวนักเรียนตรงไหน) น่าจะมีการศึกษาเกี่ยวกับปัญหานี้ทำไม่หลักการพัฒนาครู 8 ข้อ จึงไม่ได้ผล