KM ในบ้าน : 5. งานสำเร็จแล้ว..AAR กันหน่อยนะ


เรา AAR หลังจากทานข้าวเย็นร่วมกัน...
   ท้ายที่สุด... หลังจากเจ้าแมม (หรืออีกชื่อหนึ่งว่า "หยิบผิด") เข้ามาอยู่ในบ้านเรา ก็สามารถลดปัญหาเรื่องเหม็นขี้แมวในบริเวณบ้านได้อย่างเห็นผลชะงัด  (ตัวชี้วัดที่ช่วยในการประเมินผล คือความรุนแรงของกลิ่นเริ่มลดลง และจางหายไปในที่สุด)   แต่ภาระการตาม“ตักทอง" ก็ยังคงอยู่ เพียงแต่เปลี่ยนจากของแมวเป็นของเจ้าแมม และเปลี่ยนคนตักจากคุณพ่อบ้านเป็นพี่เม่ยค่ะ  
   ส่วนน้องยิ้มและน้องจิ้นก็สนุกค่ะ ได้วิ่งออกกำลังกายอีกต่างหาก แบ่งหน้าที่กันอาบน้ำ  คลุกข้าวให้แมม นับว่าบรรลุวัตถุประสงค์ข้อ 2 ที่ว่า ให้รู้จักรับผิดชอบ ชีวิต อื่นบ้าง  แต่เจ้าแมมเฝ้าบ้านยังไม่ได้ค่ะ เพราะได้ยินเสียงผิดปกติอะไรสักหน่อย ก็จะวิ่งหนีไปหลบอยู่ในซอกที่คิดว่าปลอดภัย  แต่คิดว่าโตขึ้นอีกหน่อยคงจะทำได้ดีขึ้น...  
   เมื่องานสำเร็จแล้ว ก็ต้อง AAR กันหน่อยละค่ะ พี่เม่ยก็ถือโอกาสทำ AAR หลังจากทานข้าวเย็นร่วมกันเรียบร้อยแล้ว  แล้วนำมาเรียบเรียงได้ดังนี้ค่ะ
ความคาดหวัง
  • เราคิดว่าจะได้โล่ง สบายจมูก สูดอากาศบริสุทธิ์ได้ทุกๆวัน
  • ได้เลี้ยงลูกสุนัข น่ารัก เพศผู้ พูดจารู้เรื่อง
เกินคาด
  • หยิบผิด แต่บังเอิญได้ของถูกใจ
  • เจ้าแมมเป็นสุนัขพันธุ์ทางค่ะ พี่เม่ยได้รับความรู้นี้จากจากข้อคิดเห็นของ อ.จันทวรรณ ในบันทึกที่ผ่านมาค่ะ
  • เจ้าแมมน่ารักม๊าก มาก แถมฉลาดด้วยค่ะ
น้อยกว่าที่คาดไว้ไปนิ๊ดนึง
  • เจ้าแมมเตี้ยจังเลยค่ะ แถมเป็นเพศเมียด้วย
  • พวกเรา (โดยเฉพาะพี่เม่ย) ยังต้องปฏิบัติภารกิจ ตักทอง อยู่ดีค่ะ
  • เจ้าแมมยัง "พูดไม่ค่อยรู้เรื่องเลยค่ะ"
ทำอะไรต่อไปหลังจากนี้
  • ร่วมใจกันเลี้ยงเจ้าแมมต่อไปค่ะ พาไปฉีดยา และสอนให้เฝ้า
  • คอยเลี้ยงลูกเจ้าแมมดีกว่าค่ะ
   แต่มีปัญหาเกิดขึ้นใหม่จนได้ค่ะ  คือเจ้าแมมชอบกินดอกไม้มากกกก.. ไม่ว่าจะเป็นโป๊ยเซียน  แววมยุรา คุณเธอเคี้ยวอย่างเอร็ดอร่อย ทำให้พี่เม่ยต้องหาวิธีแก้ปัญหาใหม่อีกแล้ว แต่ไม่เป็นไรค่ะ  ปัญหามีไว้แก้ก็ต้องแก้กันต่อไป... ขอบคุณ KM ค่ะ
หมายเลขบันทึก: 17572เขียนเมื่อ 8 มีนาคม 2006 13:53 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 14:30 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)

พูดถึงแมวแมวหมาหล่ะอดใจไม่ได้ ขอบอกพี่ว่าตลอดชีวิตตั้งแต่จำความได้บ้านศาเลี้ยงสัตว์ตลอด ไม่ว่าแมว สุนัข การเลี่ยงสัตว์สอนให้เรามีจิตใจที่ต่างจากคนไม่เลี้ยงเยอะเลย ยิ่งถ้าเป็นเด็กๆ แล้วเขาได้ผูกพันกับสิ่งมีชีวิตอื่นบ้างนอกจากคน เขาจะเป็นคนอ่อนโยนขึ้น มีจินตนาการสูง(เพราะคอยพูดและคิดว่าเจ้าสัตว์เลี้ยงของเรามันคิดอะไร) ไปจนถึงการสอนให้เราอดทน(เพราะว่าจะสอนให้เขาเลิกกัดรองเท้า กัดต้นไม้ เราก็สูญเสียไปเยอะ) ฝึกให้เราทำใจไปในตัว สุดท้ายฝึกให้เรารู้จักสูญเสีย เพราะสักวันไม่ช้าหรือเร็วเขาต้องจากเราไป เช่นรถชน เป็นโรคตาย แก่ตาย โดยที่เราร้องไห้ให้กับเขาได้ราวกับเขาเป็นญาติสนิท เลี้ยงไปเถอะค่ะ แล้วจะรู้ว่าเขารักเรามากแค่ไหน

 

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท