ช่วงฤดูร้อนอย่างนี้ จะมีธรรมเนียมอย่างหนึ่งคือการสัมมนาค่ะ
เรียกว่าตลอดเดือนมีนาที่ผ่านมาจนมาถึงเดือนนี้ อาชีพสัมมนา อิอิ
พอหมดช่วงการสัมมนาคนก็จะบ่นๆเปรยๆว่า อ้วนขึ้น
ก็คงจริงค่ะ เพราะว่านั่งกันทั้งวัน แถมยังมีกินเบรคเพิ่มเข้ามาอีก ก็คงเหมือนงานวิจัยเร็วๆนี้ที่พบว่าคนไทยน้ำหนักเกินเพิ่มขึ้นโดยเฉพาะผู้ที่เข้าสู่วัยกลางคน
เวลาไปร่วมแล้วก็พบว่าบางงานให้ความสำคัญกับเรื่องอาหารการกินมากกว่าเนื้อหาที่จะสัมมนา
ไปอ่านบล็อกของครูบา เรื่องใครอยากหุ่นดี ยกมือขึ้น!
สงสัยต้องไปบอกคนจัดสัมมนาว่าคราวหน้าไปสวนป่ากันดีกว่า อิอิ กลับมาคงหุ่นเช้งวับ
ที่จริงเรื่องจะกินหรือไม่กินอาหารว่างก็คงอยู่ที่ความใจแข็งหรือใจอ่อนอยากชิมล่ะมากกว่า
แต่ก็คิดว่าถ้าหากว่างดการเลี้ยงไม่ได้ ก็เสนอว่าลองช่วยๆกัน
ทำแบบนี้น่าจะประหยัดการกินของเกินความจำเป็นแถมยังประหยัดงบประมาณการจัดอาหารว่างสัมมนาได้ด้วยนะคะ
อ้าวอาจารย์ขจิต มีแถมสัมมนาคนแซ่เฮ ด้วย
อิอิ
เรื่องกล้วยๆนี่นะคะ เชื่อไหมว่าดูๆเป็นผลไม้ธรรมดาเนี่ยนะ บางคนเขาบอกว่าไม่ได้กินมานานแล้ว เพราะส่วนมากผลไม้ตามรถขายมักจะเป็นฝรั่ง มะม่วงฯลฯ มากกว่า
สวัสดีค่ะ
เห็นด้วยค่ะ อาหารอร่อยในการไปสัมนาแต่ละครั้ง ก็เป็นแรงจูงใจในการเข้าร่วมงานสัมนานั้น จนบางครั้งต้องมีการสืบก่อนว่า ขนมที่จะเลี้ยงในงานสัมนานั้น ๆ มาจากเจ้าอร่อยหรือเปล่า จึงจะตัดสินใจเข้าร่วม (เอ่อ ..ไม่ค่อยเห็นแก่กินเท่าไหร่ แหะๆ)
สวัสดีค่ะอาจารย์
เห็นข้อความของอาจารย์ในเรื่องของอาหารว่าง ที่ใช้เลี้ยงในเวลามีการสัมมนาก็อดขำไม่ได้ เพราะตัวเองก็โดนอบรม และเรื่องอาหารว่างก็ไม่พ้นตัวเองเหมื่อนๆๆๆกันเลยนะค่ะ
หุ่นก็จะพองขึ้นๆ
เรื่องกินเรื่องใหญ่ และต้อมเห็นแก่กิน อ้าว.... เมื่อก่อนมีจัดอบรมนอกสถานที่บ่อยๆ แล้วต้อมจะชอบมาก ชอบออกไปนั่งเป๋อเร๋อหรือป้วนเปี้ยนอยู่กับแม่ครัว แบบทำตาใสซื่ออ้อนขอของว่าง(ถ้ามี)หนูหน่อย อิอิ
ต้อมยังเคยนึกเล่นๆ เลยว่าน่าจะมีเลี้ยงเมี่ยงคำแทนขนมเค้กในงานอบรมโน่นนี่นะ แต่ก็ได้แค่คิดเนอะ เพราะของว่างรูปแบบเดิมๆ คงเหมือนการเดินเข้าโรงหนังแล้วทุกคนต้องเคี้ยวป้อบคอร์น ถือแก้วเป๊บซี่ ยังไงอย่างั้นเลย แต่เชื่อหรือไม่ว่า..ต้อมเคยแวะซื้อขนมไทยน่ารักๆ เข้าไปทานในโรงหนัง(จำชื่อขนมไม่ได้) กลิ่นหอมฟุ้งเชียว แล้วคนที่นั่งข้างๆ คงจะหันมามองต้อม(ในความมืด)ด้วยสายตาแบบดูถูกดูแคลน เออ..ช่างฉันเถอะ
สวัสดีค่ะ คุณ
จนบางครั้งต้องมีการสืบก่อนว่า ขนมที่จะเลี้ยงในงานสัมนานั้น ๆ มาจากเจ้าอร่อยหรือเปล่า จึงจะตัดสินใจเข้าร่วม
สงสัยคุณจินตนาได้แนวร่วมเย้อะ...อิ อิ
เป็นเช่นนั้นเหมือนกันค่ะ เวลาไปลงทะเบียนก็จะมีคนถามกันว่า วันนี้สั่งจากเจ้าไหน...อิอิ
แต่บางทีก็รู้โดยไม่ต้องถาม เพราะรู้ว่าหน่วยงานไหนจัดสัมมนาจะได้กินอาหารอะไร
ยังไม่เคยเจอคนที่คิดโจทย์จัดสัมมนาแบบองค์รวมเชิงประจักษ์ เลยค่ะคุณจินตนา
เช่นคราวหนึ่งไปเรื่องเศรษฐกิจพอเพียง คุยกันถกกันหน้าขาวหน้าแดง(คนที่เข้าร่วมฯไม่มีใครดำ) เดินออกมาเจอ ..ขนมใส่กล่องอย่างดีแถมยังเยอะชนิดน่าเก็บไปกินแทนมื้อหนักๆได้สักมื้อ..
หรือคุยกันเรื่องปัญหาสุขภาพจากโรคเรื้อรัง แต่มื้อกลางวันเต็มไปด้วยอาหารอุดมไขมัน และของหวานเพียบ
เมื่อก่อนตัวเองก็จะเป็นคนชอบกินเหมือนกันค่ะ...คุณจินตนา อิอิ...แต่ตอนนี้เริ่มไม่ไหวแล้ว รอบเอวเพิ่มมากขึ้น
เลยไม่ค่อยกิน(ถ้าไม่จำเป็นเช่นหิว...อิอิ)
สวัสดีค่ะ คุณจงพิศ ศิริหัตถกิจ
อิอิ อาชีพอบรมเหมือนกันเลยนะคะ
บางทีมองๆ ของว่างแล้วก็นึกว่า เอ...ถ้าเราจัดแบบ ลดการคิดอย่าง one size fit all คือ จัดอาหารว่างที่หลากหลายมากกว่าจะจัดชนิดเดียวสำหรับคนทุกๆคน จะเป็นอย่างไร
เพราะว่าบางทีคนร่วมสัมมนามาจากหลายวัย หลายเพศ (แฮ่ม!) หลายความต้องการ ถ้าเราดูจากคนเข้าร่วมเป็นหลัก กะคร่าวๆว่า อายุประมาณเท่าไหร่ แล้วจัดให้เหมาะกับอายุ มีขนมที่ไม่หวานมากบ้าง ผลไม้บ้าง เผื่อๆ น้ำผลไม้ด้วย ชากาแฟด้วย ก็น่าจะเป็นทางเลือกที่ดี
อิอิ...ไม่รู้ว่าท่านที่ดำเนินการเรื่องสัมมนาจะเห็นด้วยหรือเปล่าน่าซิคะ...
คิดว่า ...พอเรื่องรณรงค์เศรษฐกิจพอเพียง หน่วยงานรัฐ น่าจะเป็นหัวหอก พลิกโฉมการจัดอาหารว่าง ได้เหมือนกันนะคะ...(คิดอย่างนี้คงไม่ได้คิดเพ้อเจ้อไปนะคะ คุณจงพิศ ศิริหัตถกิจ )
ขอบคุณนะคะ...ที่มาเป็นแนวร่วมหุ่นพอง อิ อิ
หวัดดีค่ะ น้องต้อมเนปาลี
อะโหย..กินขนมไทยในโรงหนัง
กลิ่นหอมด้วย...อะไรน้า...สาคูใส้หมู??
น้องต้อมมาเล่ายั่วน้ำลายพี่นะคะเนี่ย
เรื่องกินของว่างสัมมนานี้นะ มันมีด้วยแหล่ะค่ะว่า บางคนบางทีไปเซ็นชื่อ แล้วแว๊บ พอถึงเวลาพัก ก็มากินขนม..อิอิ
เดี๋ยวนี้จัดอบรมอะไรก็เลี้ยงอาหารว่างหมดนะคะ
อย่างเมื่อก่อนแม่ของพี่ไปประชุมผุ้สูงอายุ ก็จะเตรียมน้ำไปด้วย และกลางวันก็กลับมากินข้าวที่บ้าน
เดี๋ยวนี้เปี๋ยนไป๋
ไม่ต้องหิ้วอะไรไปด้วยสักอย่าง
มีอาหารว่างให้กิน กลางวันมีเลี้ยง แถมบางทีมี ของที่เขาเรียก "ของชำร่วย" คือขนมห่อเล็กๆ ติดไม้ติดมือมาด้วย
แม่ของพี่บอกว่า เมื่อก่อนคนไปเข้าไม่เยอะ เดี๋ยวนี้มีคนไปเยอะดี
อิอิ...คนมีอายุเลยสนุกได้กินขนมและได้เจอกันเยอะๆ
เรื่องกินเรื่องใหญ่ ซำเหมอๆ นะคะ
แต่ถ้าเปลี่ยนโฉมของว่างที่เลี้ยงได้ และมีคนกล้าเริ่มอย่างที่น้องต้อมทำ พี่ว่า เรื่องอาหารว่างจะพลิกโฉมใหม่มาเป็นแบบไทยๆ และลดการเพิ่มรอบเอวได้อีกเยอะเลยนะน้องต้อมนะ
ขอบคุณนะคะที่ทำให้อยากกินสาคูใส้หมู เอ๊ยไม่ใช่ค่ะ ทำให้คิดต่อเรื่องขนมเลี้ยงตอนพักไปได้อีกหลายประเด็น
ครูบาคะ
ขอบพระคุณค่ะ
น่าบรรจุในรายการ "กินกล้วยแล้วกอดคนแซ่เฮด้วยนะคะ" ...อิอิ..
ครูบาเตรียมดวลไมค์ร้องเพลงกับท่านอัยการหรือยังคะ
เชียร์ๆ