มีเรื่องของแอลกอฮอล์มาเล่าให้นักดื่มทั้งหลายได้ทราบไว้ เก็บเอามาจากเวบไซต์ของออสเตรเลีย ลองเปิดอ่านเองได้ที่ http://www.betterhealth.vic.gov.au/bhcv2/bhearticles.nsf/pages/Alcohol?OpenDocument ซึ่งกล่าวถึงว่าถ้าจะดื่ม ดื่มอย่างไรจึงจะอันตรายน้อยที่สุด แสดงปริมาณการดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกกอฮอล์ในรูปของ Standard drink (1 standard drink = ปริมาณแอลกอฮอล์บริสุทธิ์ 10 กรัม) ขอคำนวณกลับมาให้อยู่ในรูปเบียร์กระป๋องหรือปริมาณของไวน์และเหล้าเพื่อให้เข้าใจง่ายขึ้น ในที่นี้จะขอกล่าวถึงข้อมูลพื้นฐานในเรื่องผลของแอลกอฮอล์ต่อสุขภาพก่อน ตามด้วยเรื่องดื่มอย่างไรให้ปลอดภัยต่อสุขภาพและเรื่องจะจำกัดปริมาณการดื่มอย่างไร ถ้าต้องดื่มในงานสังสรรค์แต่จำเป็นต้องขับรถเอง ดังนี้
ก.
ผลของแอลกอฮอล์ต่อสุขภาพ
แอลกอฮอล์ก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพร่างกายหลายอย่าง
ได้แก่
1.ระบบหัวใจและหลอดเลือด
- ความดันโลหิตและไตรกลีเซอร์ไรด์สูงขึ้น
ทำลายกล้ามเนื้อหัวใจ หัวใจจึงทำงานหนักมากขึ้น
2.ระบบประสาท -
กดการทำงานของสมอง กล้ามเนื้อทำงานไม่ประสานกัน เสียการ
ควบคุมตัวเอง
การตัดสินใจและปฏิกิริยาการตอบสนองช้าลง
ใช้ไประยะยาว สมองและเส้นประสาทจะถูกทำลาย
มีอาการสั่น
ความจำเสื่อม
3.ระบบทางเดินอาหาร
– กระเพาะอาหารอักเสบและมีเลือดออก
4.ตับ -
มะเร็งตับ ตับอักเสบ ไขมันสะสมมากที่ตับ ตับแข็ง การทำงานของตับล้มเหลว
5.ระบบต่อมไร้ท่อ – ปัญหาการควบคุมน้ำตาล
สมรรถภาพทางเพศเสื่อม เป็นหมัน
6.ภาวะโภชนาการ – ขาดอาหาร
ขาดวิตามินและเป็นโรคอ้วน
ในสตรีมีครรภ์
อาจมีผลทำให้ทารกที่คลอดออกมาตัวเล็ก พิการ
ตายในครรภ์หรือ
ตายหลังคลอดได้
ข.
ดื่มอย่างไรให้ปลอดภัยต่อสุขภาพ
ถ้าคุณเป็นนักดื่ม
เพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงต่อปัญหาสุขภาพ
มีข้อแนะนำให้ปฏิบัติดังนี้
1.ควรจำกัดปริมาณการดื่ม
ชาย : ดื่มเบียร์ไม่เกิน 4 กระป๋อง ต่อวัน (เท่ากับไวน์ 400
มิลลิลิตรหรือ
เหล้า 120 มิลลิลิตร) ต่อวัน
ควรเว้นการดื่มอย่างน้อยสัปดาห์ละ
1 – 2 วัน
หญิง
: ดื่มเบียร์ไม่เกิน 2 กระป๋องต่อวัน (เท่ากับไวน์ 200
มิลลิลิตรหรือเหล้า
60
มิลลิลิตร) ควรเว้นการดื่มอย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 – 2 วัน
2.ควรรับประทานอาหารก่อนและระหว่างการดื่ม
เนื่องจากอาหารจะทำให้การดูดซึม
ของแอลกอฮอล์ช้าลง
3.หลีกเลี่ยงการกินของขบเคี้ยวรสเค็มๆ
เนื่องจากจะทำให้กระหายน้ำ ซึ่งจะทำให้ดื่ม
เครื่องดื่มมากขึ้น
4.ควรดื่มน้ำหรือ soft drink
เพื่อลดการกระหายน้ำก่อนดื่มแอลกอฮฮล์แก้วแรก และ
ควรสลับการดื่ม (แก้วที่ 2 หรือ 3 )
ด้วยเครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์
5.พยายามดื่มเครื่องดื่มที่มีปริมาณแอลกอฮฮล์ต่ำ
ค. จะจำกัดปริมาณการดื่มอย่างไร
ถ้าต้องดื่มในงานสังสรรค์แต่จำเป็นต้องขับรถเอง
โดยหลักการแล้ว
ถ้ามีความจำเป็นต้องขับรถ ควรหลีกเลี่ยงการดื่มสุรา
แต่ถ้าเลี่ยงไม่
ได้ จะต้องจำกัดปริมาณการดื่ม
เพื่อให้ระดับแอลกอฮอล์ในเลือดอยู่ในระดับต่ำกว่า 50
มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์
ในชายและหญิงจะมีขีดจำกัดปริมาณการดื่มแตกต่างกันดังนี้
ชาย : ในชั่วโมงแรก
ดื่มเบียร์ไม่เกิน 2 กระป๋อง (เท่ากับไวน์ 200 มิลลิลิตร
หรือเหล้า 60 มิลลิลิตร)
หากต้องดื่มอีกในชั่วโมงต่อไป ดื่มได้ไม่เกิน
ครึ่งหนึ่งของปริมาณนี้ (สูงสุดไม่เกิน 3 ชั่วโมง)
ผู้หญิง : ในชั่วโมงแรก ดื่มเบียร์ไม่เกิน 1 กระป๋อง
(เท่ากับไวน์ 100 มิลลิลิตร
หรือเหล้า 30 มิลลิลิตร) หากต้องดื่มอีกในชั่วโมงต่อไป
ดื่มได้ไม่เกิน
ปริมาณนี้ (สูงสุดไม่เกิน 3 ชั่วโมง)
แต่อย่างไรก็ตาม
นอกจากเพศแล้ว
ยังมีปัจจัยอื่นอีกหลายอย่างที่ส่งผลกระทบต่อ
การดูดซึมจึงทำให้ระดับแอลกอฮฮล์ในเลือดของแต่ละบุคคลแตกต่างกัน
ได้แก่ ชนิดและ
ปริมาณแอลกอฮอล์ในเครื่องดื่ม
ปริมาณอาหารในกระเพาะอาหาร อายุ ขนาดร่างกาย
ปัจจัยส่วนบุคคล
ฯลฯ
ทำให้บางคนถึงแม้ว่าจะปฏิบัติวิธีการดังกล่าวแล้วก็ตาม
แต่ระดับ
แอลกอฮฮล์ในเลือดอาจอยู่ที่ระดับ 50
มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์หรือสูงกว่าก็ได้ ซึ่งสูงเกินกว่าที่
กฎหมายอนุญาตให้ขับขี่ยานพาหนะ ดังนั้นถ้าไม่แน่ใจ
ต้องไม่ดื่มก่อนขับรถเลยจะดีกว่า
ยิ่งในพนักงานขับรถโดยสาร
รถบรรทุก ฯลฯ ควรจำกัดให้ระดับแอลกอฮฮล์ในเลือดเป็น
0
เลยยิ่งดี
จะได้ไม่ก่อให้เกิดอันตรายต่อส่วนรวม
ไม่มีความเห็น