ในการประชุมแถลงข่าว สถานการณ์แนวโน้มประเทศไทย เมื่อวันที่ 1 มี.ค.49 ที่ สกว. อ. อนุช อาภาภิรม ได้สรุปว่าบัดนี้กระแสโลกาภิวัฒน์ได้หยั่งรากในโลกอย่างมั่นคงแล้ว ต่างกับเมื่อปี 2543 ที่เรามีกระแส "โบกมือลาโลกาภิวัฒน์" และมีกระแสต้านโลกาภิวัฒน์เป็นระยะ ๆ แต่ตอนนี้แรงต้านอ่อนหรือเกือบจะเงียบไปแล้วโดยที่แรงหนุนโลกาภิวัฒน์มาจากประเทศเศรษฐกิจใหม่ ได้แก่ จีน อินเดีย โซเวียต ยุโรปตะวันออก และละตินอเมริกา ต่างก็พัฒนาเศรษฐกิจและสังคมบนกระแสโลกาภิวัฒน์ทั้งนั้น
อ. อนุชได้เสนอโจทย์วิจัยว่า ควรทำวิจัยว่า คนในชนบทไทยมีค่านิยมในการดำรงชีวิตเปลี่ยนแปลงไปเพียงใด จากค่านิยมชีวิตที่มีความอยู่เย็นเป็นสุข ความพอเพียง หันไปนิยมชีวิตที่เน้นความสำเร็จ การแข่งขัน ตามแบบโลกาภิวัฒน์
ผมเองมองโจทย์ไกลไปกว่านั้น ว่าควรทำวิจัยเพื่อเปรียบเทียบชีวิตของคน 2 กลุ่มนี้ในแง่มุมต่าง ๆ ว่ามีข้อดีข้อเสียแตกต่างกันอย่างไรและโจทย์ข้อที่ 3 จะใช้จุดแข็งที่สังคมไทยมีคือ ความเป็นชุมชน ความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ เพื่อความเข้มแข็งของสังคมไทยในยุคโลกาภิวัฒน์ได้อย่างไร
วิจารณ์ พานิช
2 มี.ค.49
ไม่มีความเห็น