เมื่อรับประทานอาหารเสร็จเรียบร้อยแล้ว อาจารย์ อ.อ้อม และ อ.พิมพ์ ก็พาไปเยี่ยมชม บ้านเสานัก เป็นบ้านไม้สักโบราณ อายุกว่า 100 ปี มีเสาถึง 116 ต้น และมีต้นสารภีหลวงอายุกว่า 130 ปี รูปแบบและความเก่าแก่ของบ้านเสานักและของใช้ภายตัวบ้านเสานักสะท้อนให้เห็นถึงวิถีชีวิตชาวลำปางได้เป็นอย่างดี และเพื่อเป็นการอนุรักษ์วัฒนธรรมท้องถิ่นเอาไว้ไม่ให้สูญหายไปไหนก็ได้มีการเปิดให้ผู้ที่สนใจเที่ยวชม รวมทั้งการจัดบริการรับรองนักท่องเที่ยว ด้านการจัดเลี้ยง และการแสดงพื้นเมืองในโอกาสต่าง ๆ ตลอดมา
เมื่อเยี่ยมชมบ้านเสานักเสร็จแล้ว ได้เวลาเดินทางเพื่อไปเยี่ยมชมและสักการะวัดพระธาตุลำปางหลวง แต่น่าเสียดาย (มาก) เพราะว่าเมื่อไปถึงก็หมดเวลาเยี่ยมชมพอดี เพราะวัดเขาจะปิดเวลา 17.00 น. เราก็เลยอดดู แต่ อ.พิมพ์ก็เล่าถึงประวัติความเป็นมาของวัดนิดหนึ่งว่า เป็นวัดที่เก่าแก่มีชื่อเสียงของจังหวัดลำปางตั้งมานานหลายปีแล้วและสิ่งที่มหัศจรรย์ยิ่งนักก็คือเงาของพระธาตุจะเป็นสีทอง เมื่ออดเข้าเยี่ยมชมเราก็ได้แต่ชมอยู่รอบนอก
จากนั้นก็ได้เวลาเดินทางต่อเพื่อไปลงพื้นที่กลุ่มเกาะคา ซึ่งเป็นกลุ่มที่ทำข้าวแต๋นส่งขายตามจังหวัดต่าง ๆ และเมื่อไปถึงสมาชิกก็เร่งมือกันทำข้าวแต๋นกันยกใหญ่เพราะว่าพรุ่งนี้มีออเดอร์มาก ก็เลยต้องเร่งรีบหน่อย ก็เข้าเยี่ยมชมการทำข้าวแต๋นซึ่งการทำข้าวแต๋นของกลุ่มเกาะคาเขาจะทำด้วยมือทั้งหมดทุกขั้นตอน จากนั้นเราก็พูดคุยกับประธานกลุ่มอยู่สักพัก ก็ได้เวลาขอตัวกลับ แต่คนไทยก็มีน้ำใจอยู่แล้ว ก็ให้ข้าวแต๋นและถั๋วทอดมาคนละถุง ติดไม้ติดมือไปกินที่พัก
ก็ต้องขอขอบคุณกลุ่มเกาะคา ผ่านทางบล็อคนี้ด้วย
ไม่มีความเห็น