การสืบเสาะหาความรู้ทางวิทยาศาสตร์กำหนดให้เป็นกิจกรรมและศึกษาสืบค้นเชิงระบบ ด้วยจุดประสงค์ที่จะเปิดเผยและอธิบายความสัมพันธ์ระหว่างวัตถุและเหตุการณ์ต่างๆ ให้มีคุณลักษณะ โดยการใช้กระบวนการที่เป็นลำดับและทำซ้ำได้ การลดจำนวนในการศึกษาสืบค้นลงให้อยู่ในระดับมาตรฐานและรูปแบบที่ง่าย และใช้กรอบความคิดทางตรรกะเพื่ออธิบายและนำนาย การดำเนินการของการสืบเสาะหาความรู้จะรวมเอา การสังเกต การตั้งคำถาม การทดลอง การเปรียบเทียบ การอนุมาน การสามัญการ (generalization) การสื่อสาร การประยุกต์ และอื่นๆ
การค้นพบอาจะมาจาก กระบวนการการดูดซึม (assimilating)มโนทัศน์และหลักการ ในกระบวนการค้นพบอาจรวมถึง การสังเกต การจัดประเภท กานวัด การทำนาย การอธิบาย และการอนุมาณ
ถ้าผู้เรียนกำหนดปัญหาของเขาเอง ออกแบบการทดลอง รวบรวมข้อมูล ฯลฯ ประพฤติในลักษณะของการสืบเสาะหาความรู้ การเรียนรู้แบบสืบเสาะเป็นกระบวนการที่กำหนดปัญหาที่จะศึกษาสืบสวน การสร้างสมมุติฐาน ออกแบบการทดลอง รวบรวมข้อมูล และให้ข้อสรุปเกี่ยวกับปัญหา
กระบวนการสืบเสาะหาความรู้จะรวมเอาเรื่องเหล่านี้
-การกำหนดปัญหาเริ่มต้น
-สร้างสมมุติฐาน
-ออกแบบแนวทางการศึกษาค้นคว้า
-ทดสอบความคิด (ดำเนินการทดลอง)
-พัฒนาทัศนคติที่ชัดเจนแน่นอน
(เช่นเกี่ยวกับวัตถุ อยากรู้อยากเห็น ใจกว้าง มีความปรารถนา ความเคารพ แบบจำลอง ทางทฤษฎี รับผิดชอบ ยังไม่ตัดสินอะไรจนกระทั่งมีข้อมูลเพียงพอ ตรวจสอบผล)
ระดับของการสืบเสาะหาความรู้ (Inquiry level) วิธีการสืบเสาะมีหลายระดับ ซึ่งการแนะนำสามารถทำได้ หรือ ลดระดับลงไป ช่วง (domain) ของการสืบเสาะหาความรู้แบ่งออกได้เป็น 3 ส่วนหลัก (hree main themes) คือ
1. ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์
2. ธรรมชาติของการสืบเสาะหาความรู้ทางวิทยาศาสตร์
3. กระบวนการสืบเสาะหาความรู้ทั่วไป
เปียอาเจต์เชื่อว่าไม่มีการเรียนรู้ที่แท้จริงนอกจากว่านักเรียนได้คิดกับขอมูลสารสนเทศในกระบวนการ ดูดซึม (assimilation) หรือปรับเปลียนความรู้(accommodation)กับสิ่งที่เข้ามาจากสิ่งแวดล้อมหรือที่เขาประสบ
ไม่มีความเห็น