อัตตา หิ อัตตโน นาโถ
อัตตาหิ อัตตโน นาโถ ตนเป็นที่พึ่งของตน จะทำกรรมอันใดไว้ ดี หรือชั่ว เราจะต้องเป็นผู้รับผลของกรรมนั้น พระพุทธองค์ไม่สามารถเสกความสุขความเจริญให้กับเราได้ เราต้องประพฤติปฏิบัติด้วย กาย วาจา ใจ ของเรา ถ้าไม่ประพฤติปฏิบัติแล้ว ผลดีทั้งหลายจะไม่เกิดขึ้นมา ตนต้องเป็นที่พึ่งของตน พระพุทธเจ้า พระอริยสงฆ์สาวก ครูบาอาจารย์ บิดามารดา ปู่ย่าตายาย มีเพียงหน้าที่สั่งสอนอบรมให้รู้จัก ผิด ถูก ดี ชั่ว เมื่อได้ยินได้ฟังแล้วเราควรน้อมมาประพฤติปฏิบัติ คือ ทำแต่สิ่งที่ดี ละเว้นสิ่งที่ไม่ดี ผลดีย่อมเกิดขึ้นตามมา
อัตตาหิ อัตตโน นาโถ คือ ตนเป็นที่พึ่งของตนเราจะต้องเป็นผู้ปฏิบัติเอง พระพุทธเจ้าไม่สามารถปฏิบัติธรรมให้เราได้ พระสงฆ์สาวกก็ไม่สามารถปฏิบัติธรรมให้กับเราได้ เราต้องเป็นผู้ประพฤติปฏิบัติ ด้วยศรัทธา ความเชื่อ คือ เชื่อสิ่งต่างๆ ที่พระพุทธเจ้าทรงสั่งสอน ว่าเป็นของจริงไม่ใช่เป็นสิ่งที่พระพุทธองค์ทรงเสกขึ้นมา แต่งขึ้นมา เพื่อหลอกให้พวกเราทำตามโดยไม่มีผลดีตามมา ด้วยวิริยะ ความขยันหมั่นเพียร ด้วยความอดทน ด้วยสติ ด้วยปัญญา ไม่ช้าก็เร็ว จิตใจก็จะค่อยๆสะอาดขึ้นมา ตามลำดับ ความโลภ ความโกรธ ความหลงภายในจิตก็จะค่อยๆหมดไปๆ จนกระทั่งในที่สุดจิตก็จะเป็นจิตที่สะอาดบริสุทธิ์ เพราะจิตมีธรรมเข้าไปชำระซักฟอก เป็นจิตที่เป็นธรรมล้วนๆ
นี่คือการเข้าสู่ที่พึ่งที่แท้จริง สรณะที่แท้จริงไม่ได้อยู่ภายนอก แต่อยู่ภายในจิตใจของเรา เพียงแต่เราต้องพยายามขุดขึ้นมา ด้วยการประพฤติปฏิบัติธรรม
ปผผ