บันทึกว่าด้วยสวัสดิการ(2)


ความรู้เก่าแก่สอนว่าลมหายใจยาวจะช่วยให้ร่างกายรำงับ ร่างกายรำงับจะช่วยให้จิตใจรำงับไปด้วย เมื่อจิตใจรำงับจะเกิดความสุข

เมื่อเช้า ผมนึกทบทวนประเด็นเรื่องสวัสดิการ จะลองวิเคราะห์ตัวเองดูว่า สวัสดิการหมายถึงอะไร และเกี่ยวข้องกับใครบ้าง

เริ่มจากบ้านพักที่ทำให้ผมได้นอนหลับอย่างอุ่นสบายจนถึงรุ่งเช้า ผมซื้อบ้านจัดสรรหน้ามหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ ผมสร้างเองไม่ได้ มีคนรับจัดการสร้างบ้านจัดสรร เราแบ่งงานกันทำ  ทั้งแรงงาน และวัสดุ อิฐ หิน ดิน ทราย จนกลายเป็นบ้าน ถือเป็นระบบแลกเปลี่ยนที่มีวงจรหมุนเวียนยาวไกลมากโดยกระทำผ่านระบบเงินตรา
            การซื้อบ้านหลังนี้ ผมไม่มีเงินทุนมากพอ  จึงต้องกู้จากสหกรณ์และธนาคารออมสิน สหกรณ์เป็นองค์กรการเงินภายในมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ที่พนักงานร่วมกันจัดตั้งขึ้นเพื่อจะได้ช่วยเหลือพึ่งพากัน เป็นสวัสดิการในยามจำเป็น และผมก็ได้ใช้บริการหลังจากที่ได้ช่วยให้คนอื่นๆได้ใช้บริการมาก่อนหน้านี้แล้ว เงินกู้จากสหกรณ์ไม่พอ ก็ต้องกู้จากธนาคารออมสินซึ่งถือเป็นสวัสดิการของรัฐในรูปสถาบันการเงินเมื่อเปรียบเทียบกับธนาคารพาณิชย์     

ตื่นนอนตอนเช้า แต่ละคนต้องดูแลสุขภาพอนามัยของตนเอง ถ้ามีลูกอ่อนก็ต้องดูแลลูกด้วย การดูแลตนเองและครอบครัวถือเป็นการจัดสวัสดิการภายในที่สำคัญมาก ผมเริ่มโดยการนั่งสมาธิตอนเช้าตรู่ตามแนวทางอานาปานสติที่เรียนรู้มาจากสวนโมกข์นานาชาติเกือบทุกวัน ทั้งตอนเช้าและก่อนนอน รวมทั้งในกิจวัตรประจำวันหรือในช่วงทำงานเมื่อระลึกได้ก็จะตามลมหายใจตามรู้ไปด้วยขณะทำภารกิจต่างๆ

ความรู้เก่าแก่สอนว่าลมหายใจยาวจะช่วยให้ร่างกายรำงับ ร่างกายรำงับจะช่วยให้จิตใจรำงับไปด้วย เมื่อจิตใจรำงับจะเกิดความสุข ความสุขจึงหาได้ไม่ยากเลย นึกได้เมื่อไร หายใจให้ยาวขึ้นและตามรู้ไปด้วย ความสุขและการตื่นรู้ก็จะคุ้นเคยอยู่ในตัวเรา

เสร็จจากนั่งสมาธิ ผมจะออกมาแกว่งแขน ซึ่งเป็นความรู้จากจีนประมาณ400-500ครั้ง ก่อนนี้เคยออกมาเดินทุกเช้าวันละ30-45นาที และรำไทเก๊กที่เรียนจากหนังสือและวีซีดีจำนวน24ท่าครั้งละ2-3รอบ ผมเห็นว่าการรำไทเก๊กก็คือการเดินจงกรมอย่างมีท่วงทำนองนั่นเอง จากนั้นจะรดน้ำต้นไม้ ช่วยกิจวัตรในบ้าน เช่น ซักผ้า

ตอนนี้ลูกชาย2คนโตพอจะช่วยตัวเองได้มากขึ้นแล้ว  แต่ก็ต้องให้แม่ช่วยดูแลในตอนเช้าก่อนไปโรงเรียน ผมทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยที่คอยดูอยู่ห่างๆ  การไปโรงเรียนของลูกได้ใช้บริการรถรับส่งของมหาวิทยาลัย ถือเป็นสวัสดิการที่ผู้ปกครองร่วมจ่ายในส่วนของเบี้ยเลี้ยงคนขับและค่าน้ำมัน

โรงเรียนของลูก2คนก็เป็นสวัสดิการของรัฐและเอกชนซึ่งรัฐสนับสนุนเงินสมทบบางส่วน โดยโรงเรียนเรียกเก็บจากผู้ปกครองบางส่วน ผมทำงานในมหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐ มีสวัสดิการที่พักอาศัยที่ใช้หมดไปแล้ว ต้องให้คนอื่นๆต่อไป สวัสดิการเงินสำรองเลี้ยงชีพ รักษาพยาบาลทั้งตัวเองและลูก สวัสดิการค่าเล่าเรียน

นอกจากนี้แล้ว ผมยังทำฌาปนกิจของกระทรวงศึกษา(ชพค.)และประกันชีวิตจากอุบัติเหตุของบริษัทเอกชนที่เพื่อนร่วมงานคะยั้นคะยอให้ทำด้วย เผื่อเป็นอะไรไปครอบครัวจะได้ไม่เดือดร้อนมากนัก เนื่องจากผมต้องเดินทางในหน้าที่การงานค่อนข้างบ่อย

สำหรับในที่ทำงานที่ศูนย์บริการวิชาการ เราได้ตั้งกลุ่มสัจจะออมทรัพย์วันละ1บาทขึ้นมาด้วย เก็บเงินทุกเดือนไม่จำกัดจำนวนจากการหยอดกระปุกของแต่ละคนเพื่อเป็นสวัสดิการกู้ยืมกันภายใน ค่าบำรุงที่ได้ไม่มีการปันผล เก็บไว้ใช้เป็นสวัสดิการต่างๆ นอกจากนี้ยังมีร้านค้าจำหน่ายเครื่องดื่มอยู่ในตึก มีโต๊ะปิงปองที่พนักงานมีส่วนร่วมค่อนข้างมากทั้งในตอนเที่ยงและหลังเลิกงาน เป็นสวัสดิการที่ช่วยสร้างเสริมความสามัคคีและสุขภาพของพวกเราเป็นอย่างดี มีการชั่งน้ำหนักและวัดรอบเอวสมาชิกทุกเดือน นอกจากนี้ ยังมีการนำกับข้าวมากินด้วยกันในตอนเที่ยง โดยซื้อข้าวสารมาหุงในที่ทำงาน ซึ่งผมก็ร่วมอยู่ในวงสังสรรค์ร่วม10คนนี้ด้วย

ตอนเย็นหลังเลิกงาน ผมจะตีปิงปองจนเหงื่อโชก กลับไปบ้านก็รดน้ำต้นไม้ ตกแต่งสวนหน้าบ้านที่มีอยู่นิดหน่อย ตอนนี้จะปลูกผักไว้กินด้วย ถือเป็นสวัสดิการนันทนาการและการออกกำลังกายเล็กๆน้อยๆที่คนในครอบครัวช่วยกันดูแล นอกนั้นก็ช่วยงานบ้านนิดๆหน่อยๆ รวมทั้งเล่นไพ่กับลูกในบางครั้ง

ลูกชายรับผิดชอบไปทิ้งขยะ การกำจัดขยะถือเป็นสวัสดิการของเทศบาลที่เรายินดีจ่ายสมทบด้วย วันอาทิตย์มีตลาดนัดถือเป็นการแลกเปลี่ยนปัจจัย 4 ด้านอาหารที่ใหญ่ที่สุดในสัปดาห์ บางเสาร์อาจจะแวะเข้าห้างซื้อของใช้ตุนไว้ในรอบเดือน เช่น ผงซักฟอก น้ำมันพืช ส่วนนี้ถือเป็นสวัสดิการผ่านตลาด ซึ่งเป็นการแลกเปลี่ยนผ่านระบบเงินตราที่กว้างขวางที่สุดในปัจจุบัน

ผมมีบ้านในสวนด้วย ซึ่งมีสภาพเป็นชุมชนมากกว่าบ้านจัดสรรแห่งใหม่นี้ โชคดีหน่อยที่คนในบ้านจัดสรรส่วนใหญ่เป็นพนักงานในมหาวิทยาลัย จึงรู้จักกันดี แต่ก็ไม่ได้มีกิจกรรมร่วมกัน ไม่เหมือนบ้านในสวนที่ยังคงมีเครือญาติที่ผูกพันเป็นสายใยยึดโยงกันผ่านพิธีกรรมทางศาสนาในวันสำคัญต่างๆ เราเคยไปวัดใกล้ๆกับมหาวิทยาลัยในวันพระ มีชาวบ้านประมาณ5-6คนยกปิ่นโตไปถวาย  พระซึ่งมีอยู่ 2 รูป แต่มีประชากรสุนัขนับ10ตัว      สิ่งปลูกสร้างและพื้นที่ในวัดค่อนข้างพร้อมและกว้างขวางร่มรื่น แต่มีพระสงฆ์จำนวนน้อยเกือบทุกวัด

การไปวัดเป็นสวัสดิการทางจิตใจในพิธีกรรมทั้งการถวายภัตตาหาร และกรวดน้ำร่วมกันในหมู่คนที่เพิ่งรู้จัก เสมือนหนึ่งการได้ร่วมเป็นญาติเกิดแก่เจ็บตายด้วยกันผ่านกระแสน้ำที่อุทิศให้ผู้มีพระคุณและสัตว์น้อยใหญ่ รวมทั้งเทวดา มาร พรหมในสากลจักรวาล

ผมมีโอกาสเข้าอบรมอานาปานสติที่สวนโมกข์นานาชาติ ถือเป็นสวัสดิการของมหาวิทยาลัยที่ให้โอกาสพนักงาน และการดำเนินงานของสวนโมกข์นานาชาติ โดยมูลนิธิธรรมทาส ก็ถือเป็นการร่วมกันจัดสวัสดิการทางจิตวิญญาณของสังคมทั้งเพื่อคนไทยและคนต่างประเทศทั่วโลก

สวัสดิการจึงมีความหมายกว้างขวาง และเมื่อทบทวนดูแล้ว อาจจะตั้งต้นที่ความเชื่อหรือทิฐิของเราต่อความหมายหรือเป้าหมายของสวัสดิการ ถ้าจะดูกันที่ความหมายข้างต้น คือ ความจำเป็นขั้นพื้นฐานหรือปัจจัย 4  คุณภาพชีวิตที่ดี หรือ ความสุข ความผาสุก และสุดท้ายคือความมั่นคงของชีวิตและสังคม โดยดำเนินการผ่านระบบหรือหน่วยจัดการที่หลากหลายมากซึ่งมีตัวเราที่เป็นทั้งผู้จัดและผู้รับสวัสดิการทั้งดำเนินการโดยส่วนตัว ภายในครอบครัว ชุมชน ภายในหน่วยงาน หรือองค์กรต่างๆ

สวัสดิการจะมีหน้าตาอย่างไร? ส่วนหนึ่งอยู่ที่ความหมายที่เรามีต่อ
ความจำเป็นขั้นพื้นฐาน คุณภาพชีวิตที่ดี และความสุข ในระดับบุคคล
และความหมายต่อ
ความสามัคคี และความมั่นคง ในทางสังคม 
เพราะการแสวงหาทั้งการจัดการด้วยตนเอง ร่วมกันทำภายในครอบครัว ภายในชุมชน กลุ่มองค์กร หน่วยงาน ย่อมเป็นไปตามเสียงเพรียกหาจากภายในต่อความเข้าใจหรือความหมายที่เราให้ไว้นั่นเอง
  
คำสำคัญ (Tags): #สวัสดิการ
หมายเลขบันทึก: 165433เขียนเมื่อ 15 กุมภาพันธ์ 2008 14:42 น. ()แก้ไขเมื่อ 3 พฤษภาคม 2012 14:31 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (8)

อ่านแล้วนึกถึงงานเขียนของอาจารย์ป๋วย เรื่อง "คุณภาพแห่งชีวิต:ปฏิทินแห่งความหวังจากครรภ์มารดาสู่เชิงตะกอน"  ที่เขียนเป็นทำนองเล่าเรื่อง

แต่ของอาจารย์ป๋วยเขียนเป็นทำนอง "สิ่งที่ควรเป็น" หรือ  "อยากเห็น"  ตั้งแต่อยู่ในครรภ์จนสิ้นชีวิต

ของอาจารย์ภีม เขียนถึง "สิ่งที่เป็นจริง" ตั้งแต่การเริ่มต้นวันใหม่.... ก็ดูเป็นชีวิตที่เรียบง่าย    แต่ใครจะคิดบ้างว่า ทุกขณะจิตในชีวิต แท้จริงเป็นเรื่องของสวัสดิการ เป็นเรื่องของคุณภาพชีวิตทั้งสิ้น ....ทั้งที่เรากำหนดเองได้ และกำหนดเองไม่ได้... ทั้งที่เป็นวัตถุ  เป็นปฏิสัมพันธ์ทางสังคม  และเป็นสิ่งที่อยู่ในจิตใจของเรา 

ตามมาอ่านและ "ช่วงชิง" พื้นที่ต่อค่ะ

อันที่จริงแล้ว มนุษย์มีความต้องการที่เป็นพื้นฐานที่เรียกกันว่า "ปัจจัย 4 " ในการดำรงชีวิต คือ อาหาร เครื่องนุ่งห่ม ที่อยู่อาศัย และยารักษาโรค (ที่เราได้เรียนกันตั้งแต่ตอนเด็ก ๆ )

ในปัจจัย 4 เรื่องนี้ที่ว่านี้ มีคำอยู่ 2 คำ ที่ต้องให้ "ความหมาย" คือ คำว่า "ความจำเป็น" และ "ความต้องการ" ที่พวกเรามักตั้งคำถามชวนพี่น้องในชุมชน "คิดร่วม" เวลาที่ทำเวทีการเรียนรู้เรื่อง "หนี้สิน" และเวทีการจัดทำแผนแม่บทชุมชน  

มีโอกาสได้ไปพบท่านอาจารย์สุเมธที่มูลนิธิชัยพัฒนา ท่านเล่าเรื่องต่าง ๆ ให้ฟังมากมายที่เกี่ยวกับปรัชญาเศรษฐกิจ "พอเพียง" ซึ่งเกี่ยวข้องเชื่อมโยงกับ 2 คำที่ว่านี้

ที่จำได้แม่นมากคือ ท่านพูดถึงว่าได้ไปทานอาหาร... เนื้อ 1 ชิ้นในจานตัดเป็นชิ้นเล็ก ๆ พอดีปากแล้วได้ 8 คำ....อาหารจานนั้นราคา 8,000 บาท หมายความว่า อาหารคำละ 1,000 บาท....ทำให้นึกไปถึงพี่น้องเกษตรกร...กว่าจะได้เงินมาเลี้ยงชีวิต 8,000 บาทนี่ทำงานกันเหนื่อยแทบตาย...

แต่ว่าไปอีกที...คนที่กินอาหารจานละ 8,000 บาท อาจจะได้ลิ้มรสโอชาของอาหาร หากไม่แน่เสมอไปจะมี "ความสุข" ในชีวิตหรือไม่ เพราะขาด "อาหารใจ" ที่จะหล่อเลี้ยงจิตวิญญาณให้อิ่มเต็ม

จึงมีคำอีก 2 คำให้ทบทวนถึง คือ คำว่า "ความเพลิน" และ "ความสุข" ...เคยให้ลูกศิษย์ทำ Take Home เฉพาะเรื่องนี้ โดยให้ลูกศิษย์บันทึกกิจกรรมในชีวิตที่ทำให้เกิดความรู้สึกต่าง ๆ และให้แยกแยะว่าอะไรเป็นสิ่งที่เรียกว่า ความเพลิน ความสุข หรือ เป็นทั้งความเพลินและความสุข

สวัสดิการจึงเกี่ยวข้องกับความหมายและนัยยะเชิง "ปรัชญา" ค่อนข้างมาก (ปรัชญาในภาษาไทยหรือ Philosophy ในภาษาอังกฤษ มีที่มาจากรากศัพท์ภาษาละติน ที่แปลความหมายได้ว่า ความฉลาดของมนุษย์ ) 

ตัวเองจึงคิดว่า หากจะทำเรื่องของ "สวัสดิการ" ให้เกิดขึ้นได้ในสังคมนั้นต้องครอบคลุมถึงการมองสังคมในทุก "มิติ" และต้องเป็นการมองเชิง "ระบบ" โดยต้องวิเคราะห์แยกแยะให้เห็นถึงระบบใหญ่และระบบย่อยผ่านมิติของทั้ง "กาลเวลาและสถานที่ (Time&Space)"  ซึ่งนอกจากจะต้องเข้าใจถึงระบบของแต่ละมิติที่มีอยู่แล้ว ยังจะต้อง "ถอดสมการ" ของระบบเชิงซ้อนให้ออกด้วย....

เห็นด้วยอย่างยิ่งที่อาจารย์ภีมกล่าวในตอนท้าย...

สวัสดิการจะมีหน้าตาอย่างไร? ส่วนหนึ่งอยู่ที่ความหมายที่เรามีต่อ
ความจำเป็นขั้นพื้นฐาน คุณภาพชีวิตที่ดี และความสุข ในระดับบุคคล
และความหมายต่อ
ความสามัคคี และความมั่นคง ในทางสังคม 
เพราะการแสวงหาทั้งการจัดการด้วยตนเอง ร่วมกันทำภายในครอบครัว ภายในชุมชน กลุ่มองค์กร หน่วยงาน ย่อมเป็นไปตามเสียงเพรียกหาจากภายในต่อความเข้าใจหรือความหมายที่เราให้ไว้นั่นเอง
  

และการที่เราให้ "ความหมาย" ในแต่ละสิ่ง ย่อมอยู่ที่ฐานความรู้ ความเข้าใจ ทั้งจากประสบการณ์ "ตรง" ในสิ่งที่ตนเองได้ประสบ (Field of Experiences) และจากการได้เรียนรู้โดย "อ้อม" จากผู้อื่น (Frame of References).....

แล้วไว้ค่อย ปุจฉา-วิสัชนา กันในโอกาสต่อไปนะคะ

บริการเงินกู้นอกระบบร้อยล่ะ5 ถ้าท่านเดือดร้อน โทรหาเรา 0876701028 ดอส เรามีบริการเงินกู้ไว้รับใช้ท่าน

เพียงท่านทำงานบริษัท มีเงินเดือนผ่านธนาคาร มีประกันสังคม แค่นี้ก็กู้ได้สองเท่าของเงินเดือนแล้วครับ ไม่ต้องโอนเงินล่วงหน้า ไม่ต้องดาวมอไซร์ ไม่มีค่าจอง ไม่ต้องซื้อสิ้นค้า

คุณสมบัติ

ทำงานบริษัท ครบ 1 ปี

ติดแบ็คลิสไม่เป็นไร

มีเงินเดือนผ่านธนาคาร

มีสลิปเงินเดือน หรือใบรับรองเงินเดือน

บัญชีเงินเดือนบัตรเอทีเอ็ม เรายึดไว้

สำเนาทะเบียนบ้าน

สำเนาบัตรประชาชน

สเตดเม้นย้อนหลัง 3 เดือน

สำเนาประกันสังคม

สำเนาบัตรพนักงาน (ถ้ามี)

เอกสารครบ กู้ได้ 100 เปอร์เซ็น

ลองโทรมาปรึกษาเราครับ 0876701028 ดอส ตลอด 24 ชม.

บริการเงินกู้นอกระบบร้อยล่ะ5 ถ้าท่านเดือดร้อน โทรหาเรา 0876701028 ดอส เรามีบริการเงินกู้ไว้รับใช้ท่าน

เพียงท่านทำงานบริษัท มีเงินเดือนผ่านธนาคาร มีประกันสังคม แค่นี้ก็กู้ได้สองเท่าของเงินเดือนแล้วครับ ไม่ต้องโอนเงินล่วงหน้า ไม่ต้องดาวมอไซร์ ไม่มีค่าจอง ไม่ต้องซื้อสิ้นค้า

คุณสมบัติ

ทำงานบริษัท ครบ 1 ปี

ติดแบ็คลิสไม่เป็นไร

มีเงินเดือนผ่านธนาคาร

มีสลิปเงินเดือน หรือใบรับรองเงินเดือน

บัญชีเงินเดือนบัตรเอทีเอ็ม เรายึดไว้

สำเนาทะเบียนบ้าน

สำเนาบัตรประชาชน

สเตดเม้นย้อนหลัง 3 เดือน

สำเนาประกันสังคม

สำเนาบัตรพนักงาน (ถ้ามี)

เอกสารครบ กู้ได้ 100 เปอร์เซ็น

ลองโทรมาปรึกษาเราครับ 0876701028 ดอส ตลอด 24 ชม

บริการเงินกู้นอกระบบร้อยล่ะ5 ถ้าท่านเดือดร้อน โทรหาเรา 0876701028 ดอส เรามีบริการเงินกู้ไว้รับใช้ท่าน

เพียงท่านทำงานบริษัท มีเงินเดือนผ่านธนาคาร มีประกันสังคม แค่นี้ก็กู้ได้สองเท่าของเงินเดือนแล้วครับ ไม่ต้องโอนเงินล่วงหน้า ไม่ต้องดาวมอไซร์ ไม่มีค่าจอง ไม่ต้องซื้อสิ้นค้า

คุณสมบัติ

ทำงานบริษัท ครบ 1 ปี

ติดแบ็คลิสไม่เป็นไร

มีเงินเดือนผ่านธนาคาร

มีสลิปเงินเดือน หรือใบรับรองเงินเดือน

บัญชีเงินเดือนบัตรเอทีเอ็ม เรายึดไว้

สำเนาทะเบียนบ้าน

สำเนาบัตรประชาชน

สเตดเม้นย้อนหลัง 3 เดือน

สำเนาประกันสังคม

สำเนาบัตรพนักงาน (ถ้ามี)

เอกสารครบ กู้ได้ 100 เปอร์เซ็น

ลองโทรมาปรึกษาเราครับ 0876701028 ดอส ตลอด 24 ชม

บริการเงินกู้นอกระบบร้อยล่ะ5 ถ้าท่านเดือดร้อน โทรหาเรา 0876701028 ดอส เรามีบริการเงินกู้ไว้รับใช้ท่าน

เพียงท่านทำงานบริษัท มีเงินเดือนผ่านธนาคาร มีประกันสังคม แค่นี้ก็กู้ได้สองเท่าของเงินเดือนแล้วครับ ไม่ต้องโอนเงินล่วงหน้า ไม่ต้องดาวมอไซร์ ไม่มีค่าจอง ไม่ต้องซื้อสิ้นค้า

คุณสมบัติ

ทำงานบริษัท ครบ 1 ปี

ติดแบ็คลิสไม่เป็นไร

มีเงินเดือนผ่านธนาคาร

มีสลิปเงินเดือน หรือใบรับรองเงินเดือน

บัญชีเงินเดือนบัตรเอทีเอ็ม เรายึดไว้

สำเนาทะเบียนบ้าน

สำเนาบัตรประชาชน

สเตดเม้นย้อนหลัง 3 เดือน

สำเนาประกันสังคม

สำเนาบัตรพนักงาน (ถ้ามี)

เอกสารครบ กู้ได้ 100 เปอร์เซ็น

ลองโทรมาปรึกษาเราครับ 0876701028 ดอส ตลอด 24 ชม

บริการเงินกู้นอกระบบร้อยล่ะ5 ถ้าท่านเดือดร้อน โทรหาเรา 0876701028 ดอส เรามีบริการเงินกู้ไว้รับใช้ท่าน

เพียงท่านทำงานบริษัท มีเงินเดือนผ่านธนาคาร มีประกันสังคม แค่นี้ก็กู้ได้สองเท่าของเงินเดือนแล้วครับ ไม่ต้องโอนเงินล่วงหน้า ไม่ต้องดาวมอไซร์ ไม่มีค่าจอง ไม่ต้องซื้อสิ้นค้า

คุณสมบัติ

ทำงานบริษัท ครบ 1 ปี

ติดแบ็คลิสไม่เป็นไร

มีเงินเดือนผ่านธนาคาร

มีสลิปเงินเดือน หรือใบรับรองเงินเดือน

บัญชีเงินเดือนบัตรเอทีเอ็ม เรายึดไว้

สำเนาทะเบียนบ้าน

สำเนาบัตรประชาชน

สเตดเม้นย้อนหลัง 3 เดือน

สำเนาประกันสังคม

สำเนาบัตรพนักงาน (ถ้ามี)

เอกสารครบ กู้ได้ 100 เปอร์เซ็น

ลองโทรมาปรึกษาเราครับ 0876701028 ดอส ตลอด 24 ชม

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท