นักวิทยาศาสตร์ประสบความสำเร็จในการหา
“แผนแม่บท”
ของเชื้อมาลาเรียและของยุง
ยงยุทธ ยุทธวงศ์
ศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ
เชื้อมาลาเรีย และยุงซึ่งเป็นพาหะของมาลาเรีย ต่างมี
“แผนแม่บท”
เช่นเดียวกับสิ่งมีชีวิตทั้งหลาย
แผนดังกล่าวประกอบด้วย “ตัวอักษร”
ของธรรมชาติที่เรียงกันอยู่ในยีนของมัน
ว่าไปแล้ว
ภาษาแห่งชีวิตสร้างขึ้นมาด้วยกฎเกณฑ์ที่ง่ายที่สุด
ยีน ประกอบด้วย ดี เอ็น เอ ซึ่งเป็นสารพันธุกรรม
“ตัวอักษร” เพียงสี่ชนิด
(เป็นสารเคมีประเภทเบส เรียกง่าย ๆ ว่า เอ
ที ซี และ จี) เรียงกันเป็นสายยาว
ตัวอักษรเบสประกอบกันขึ้นเป็น “คำ”
และเป็น “ภาษา” กล่าวคือ
เป็นคำสั่งให้สิ่งมีชีวิตนั้นกลายเป็นเชื้อมาลาเรีย กลายเป็นยุง
แล้วแต่แผนแม่บทของแต่ละตัว ดังนั้น
หากเราได้ล่วงรู้ภาษาของศัตรูที่ก่อโรคทั้งสองนี้
ก็น่าจะสามารถหาทางปราบมันได้ง่ายขึ้น
เปรียบเสมือนที่ฝ่ายสัมพันธมิตรสามารถล่วงรู้รหัสสื่อสารของฝ่ายนาซีเยอรมันในสงครามโลกครั้งที่สองทีเดียว
มาลาเรีย หรือ ไข้จับสั่น หรือ ไข้ป่า
เป็นโรคติดต่อที่อยู่กับมนุษย์มานานมากแล้ว
แม้ในปัจจุบัน
ซึ่งการแพทย์และการสาธารณสุขได้ช่วยให้โรคนี้บรรเทาความรุนแรง
หรือแม้แต่หมดไปในหลายประเทศ
โรคนี้ก็ยังคงความรุนแรงอยู่ในอีกหลายแห่ง รวมทั้งในประเทศไทย
แต่ละปี จะมีผู้มีโอกาสติดเชื้ออยู่ถึงห้าร้อยล้านคน
และจะมีคนตายจากโรคนี้ถึงกว่าล้านคน
ส่วนมากอยู่ในประเทศด้อยพัฒนา
นับว่าเป็นโรคที่ร้ายแรงกว่าเอดส์เสียด้วยซ้ำ
มาลาเรียก็คล้ายกับโรคติดต่ออีกหลายโรคในประเทศที่ยังด้อยพัฒนา
คือ เป็นโรคของคนจน
บริษัทยาทั้งหลายก็ไม่สนใจจะผลิตยามารักษา
เพราะขายก็ไม่ได้เงินมากเท่ากับขายยาที่รักษามะเร็ง โรคหัวใจ
หรือเอดส์ เรียกได้ว่า ไม่มีตลาด
เมื่อเป็นอย่างนี้ก็ไม่ค่อยมีการวิจัยที่จะทำให้มียาหรือวัคซีนขึ้นมา
นับเป็นความโชคร้ายของคนจน
แต่ก็ไม่ถึงกับโชคร้ายสุดๆเสียทีเดียว
ยังพอมีการวิจัยที่ได้รับการสนับสนุนจากแหล่งต่างๆ
มีนักวิจัยที่สนใจเรื่องของมาลาเรีย
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ที่อยากรู้ความลับของเชื้อมาลาเรีย
และของยุงที่เป็นพาหะ ว่ามีลักษณะพันธุกรรมอย่างไร
ยิ่งสมัยนี้เป็นสมัยของการแสวงหาข้อมูลพันธุกรรมทั้งหมดของสิ่งมีชีวิต
ที่เรียกกันว่าข้อมูลจีโนม
ยิ่งมีผู้อยากรู้มากขึ้น
รู้ไปทำไมหรือ
เมื่อปีที่แล้วได้มีการประกาศข้อมูลจีโนมมนุษย์ขึ้นแล้ว
เป็นประวัติศาสตร์อันสำคัญยิ่ง
เพราะเป็นการเปิดยุคใหม่ของชีววิทยาและการแพทย์
ยุคที่เราได้รู้ว่าข้อมูลพันธุกรรมทั้งหมดของมนุษย์นั้นเป็นอย่างไร
ตัวอักษรเบสทั้งสี่ชนิดของจีโนมของมนุษย์มีการเรียงกันอย่างไร
มีส่วนใดบ้างที่กำหนดลักษณะต่างๆของมนุษย์
พร้อมกับความก้าวหน้าที่น่าตื่นเต้นเกี่ยวกับข้อมูลของมนุษย์นั้น
ก็ได้มีผู้ศึกษาลำดับการเรียงตัวของอักษรเบสชีวิตของสิ่งมีชีวิตอื่นอีกมาก
และข้อมูลจีโนมของเชื้อมาลาเรียและของยุงก็ได้มีผู้ศึกษามาหลายปีแล้ว
จนในที่สุด เมื่อต้นตุลาคมนี้เอง ก็มีการตีพิมพ์ผลงาน
แสดงข้อมูลจีโนมทั้งหมดทั้งของเชื้อมาลาเรีย
และของยุงก้นปล่องที่นำเชื้อมาลาเรีย
ข้อมูลเหล่านี้น่าจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งหลายประการด้วยกัน
ข้อมูลจีโนมของเชื้อมาลาเรีย
ซึ่งมาจากการศึกษาร่วมกันโดยนักวิทยาศาสตร์จากอังกฤษและสหรัฐฯ
จะทำให้สามารถเปรียบเทียบกับข้อมูลของคน
เพื่อให้รู้ว่ามีส่วนสำคัญที่แตกต่างกันอย่างไร
การรู้ความแตกต่างนี้จะทำให้ผลิตยา
หรือวัคซีนที่มีผลในการปราบมาลาเรีย
แต่ไม่เป็นอันตรายต่อมนุษย์ได้
ยาและวัคซีนเหล่านี้จะมีผลต่อเชื้อมาลาเรียโดยเฉพาะ
เพราะได้ออกแบบมาให้ทำงานในการทำลายเป้าหมายที่เป็นของเชื้อโดยเฉพาะ
เป้าหมายที่เป็นผลผลิตของยีนของเชื้อ
ซึ่งผลผลิตนี้ไม่มีในคน
เพราะคนไม่มียีนดังกล่าว กล่าวอย่างย่อๆ
เราสามารถศึกษายีนทั้งสิ้น 5300 ยีนของเชื้อมาลาเรีย
ที่เดี๋ยวนี้ได้รู้ลำดับการเรียงของตัวอักษรเบส 23
ล้านตัว
ซึ่งได้รับการเปิดเผยในสัปดาห์ที่ผ่านมานี้
เทียบกับยีนของคนที่มีประมาณสามหมื่นยีน
มีตัวอักษรเบสทั้งสิ้นสามพันห้าร้อยล้านตัว
ที่ได้ประกาศมาเมื่อปีที่แล้วนั้น
เพื่อจะได้รู้ว่ามียีนใดบ้างที่จะเป็น
“ยีนเป้าหมาย” ของยาและวัคซีน
ที่เมื่อเราใช้ยาหรือวัคซีนแล้ว จะได้ผลในการรักษาหรือป้องกัน
แต่จะไม่มีผลร้ายต่อคนด้วย
ข้อมูลเช่นนี้เป็นประโยชน์ต่อนักวิจัยและพัฒนายาและวัคซีนทั่วโลก
ในประเทศไทยเอง มีกลุ่มวิจัยเรื่องการพัฒนายาต้านมาลาเรีย
เช่นที่ศูนย์ไบโอเทค หรือที่มหาวิทยาลัยมหิดล จุฬา ฯลฯ
ที่จะได้ประโยชน์จากข้อมูลจีโนมนี้ ข้อดี
คือข้อมูลนี้ได้ประกาศออกมาให้เป็นสมบัติสาธารณะ
ซึ่งนักวิจัยทุกคนมีสิทธิใช้ได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย
ทั้งนี้
เนื่องจากการวิจัยได้รับการสนับสนุนจากมูลนิธิและสถาบันของรัฐ
ข้อมูลจีโนมของยุงมีความยาวและสลับซับซ้อนมากกว่าของเชื้อมาลาเรีย
กล่าวคือ มียีนทั้งสิ้นประมาณ 14,000 ยีน
ลำดับอักษรเบสรวม 278 ล้านตัว
ข้อมูลนี้มาจากงานของนักวิทยาศาสตร์ในบริษัทสหรัฐฯ
ที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาล
และจะมีประโยชน์ในการทำให้เข้าใจว่าเชื้อมาลาเรียมีปฏิสัมพันธ์กับยุงอย่างไร
และจะทำอย่างไรที่จะทำให้ยุงไม่สามารถนำเชื้อมาลาเรียได้
ซึ่งขณะนี้มีการทดลองที่จะผลิตยุงที่มีการแปลงพันธุ์
เพื่อให้ได้พันธุ์ที่จะไม่สามารถนำเชื้อมาลาเรียได้
การที่ได้ข้อมูลจีโนมยุงยังอาจจะทำให้เข้าใจติกรรมของมันได้ดียิ่งขึ้น
ได้รู้ว่าการที่มันสามารถดื้อยาฆ่าแมลงได้นั้น
เกิดการเปลี่ยนแปลงที่ยีนไหน อย่างไร
ความรู้เหล่านี้จะทำให้ควบคุมยุงได้ดียิ่งขึ้น ต่างจากเมื่อก่อน
ที่ พยายามจะทำลายมันด้วยยาฆ่าแมลงเพียงอย่างเดียว
อันก่อให้เกิดผลข้างเคียงต่อสิ่งแวดล้อมที่ไม่พึงปรารถนา
ข่าวดีทั้งสองนี้ ไม่ได้หมายความว่า
เราจะปราบมาลาเรียให้หมดไปได้ในไม่ช้า
ถ้าจะเปรียบเหมือนสงคราม ก็เหมือนกับว่า
เราได้ชนะการสู้รบสองครั้งในสัปดาห์เดียว
แต่ยังมีศึกอยู่ข้างหน้าอีกมาก
เชื้อมาลาเรียไม่ใช่เชื้อประเภทซื่อบื้อที่จะปราบกันได้ง่ายๆ
มันมีลูกไม้ มีกลเม็ดเด็ดพรายมากมาย ตัวอย่างเช่น
มันสามารถผสมผสานส่วนต่างๆของจีโนมของมัน
ทำให้ได้ผลผลิตบนผิวเซลล์ที่มีความแตกต่างกันมากมาย
ร่างกายของเราพยายามต่อสู้ด้วยระบบภูมิคุ้มกัน
แต่พอสู้กับตัวหนึ่งได้ ก็มีตัวใหม่ออกมาอีก คล้ายเดิม
แต่ไม่เหมือนกัน ทำให้ต้องเริ่มสู้กันใหม่
ในการใช้ยาต้านมาลาเรียก็เช่นกัน
เชื้อก็ต่อต้านได้ด้วยการเปลี่ยนแปลงยีนที่ทำให้ยาเดิมใช้ไม่ได้ผล
แต่คราวนี้ อย่างน้อย
การที่เราได้รู้ว่าข้อมูลทั้งหมดของมันมีอะไรบ้าง
ก็จะทำให้เข้าใจลูกไม้ของมันในการผสมผสานหรือดัดแปลงยีนของมันในสงครามนี้
บางทีเราอาจชนะได้ในที่สุดจากการสามารถถอดรหัสลับของมันได้นี่เอง
ไม่มีความเห็น