พี่เม่ยเขียนบันทึกนี้ไว้ ตั้งแต่เดือนมกราคมปีนี้
และบันทึกเป็นร่างไว้เพื่อ "อ่านเอง"
ในยามที่เราเริ่มเริ่มรู้สึกเหนื่อย
หรือด้อยพลังในการปฏิบัติภารกิจใดๆ.....
จนวันนี้ได้อ่าน
บันทึกของคุณชายขอบ บุรุษผิวสีเข้มสะดุดตา
กัลยาณมิตรหนึ่งที่พี่เม่ยพบจาก Gotoknow นี่เอง
ในบันทึกของท่านกระซิบบอกความนัยบางอย่าง
ที่ผู้แวะเวียนมาอ่านอาจตีความไปทางถูกหรือทางผิดก็ย่อมได้
แต่พี่เม่ยคิดว่าได้เห็น
ประกายของความ
"มุ่งมั่น" ซ่อนเร้นอยู่ในทุกตัวอักษรนะ!
จึงได้ตัดสินใจโดยพลันที่จะ "ตีพิมพ์"
บันทึกนี้........เพื่อเป็นกำลังใจให้กับ
กัลยาณมิตร.......ที่จะยืนหยัดต่อไป!
*****************
(บันทึกนี้เขียนเมื่อ 11 มกราคม 2549)
ยังจำได้ว่า วันที่ 1 เมษายน 2526
พี่เม่ยเข้ามาปฏิบัติงานใหม่ สังกัดภาควิชาพยาธิวิทยา คณะแพทยศาสตร์
ม.สงขลานครินทร์นี่เอง หลังจากนั้นไม่กี่เดือน
งานการเจ้าหน้าที่ของคณะฯก็จัดให้มีการปฐมนิเทศข้าราชการใหม่
เชิญท่านคณบดีคณะแพทยศาสตร์ในขณะนั้นมาบรรยายและให้โอวาท ในช่วงท้ายของการบรรยายท่านคณบดีฯได้ยกบทกลอนหนึ่งขึ้นมาฝากไว้..ดังนี้..
“ทางแห่งเกียรติศักดิ์
จักประดับดอกไม้
หอมหวนยวนจิตไซร้....ไป่มี”
มีความหมายสมบูรณ์อยู่ในตัวแล้วค่ะ
ไม่ต้องอธิบายเพิ่มเติมใดๆ หลังจากวันนั้น
เมื่อทำการใดๆที่ต้องประสบกับปัญหาหรือความยากลำบากใดๆก็ตาม
พี่เม่ยก็จะคิดถึงกลอนบทนี้
ทำให้มีกำลังใจปฏิบัติภาระกิจต่ออย่างไม่ย่อท้อ ...
ท่านคณบดีคณะแพทยศาสตร์ ในขณะนั้นก็คือ ท่าน
ศ.นพ.วิจารณ์ พาณิช
และจนถึงบัดนี้ ขรก.ใหม่คนหนึ่งในขณะนั้น(คือพี่เม่ยนั่นเอง)
ก็ยังได้จดจำบทกลอนนี้ไว้
และใช้เตือนตนเองอยู่เสมอมาจนบัดนี้เลยค่ะ
*****************