อัลติสใหม่


หลังจากเงื้อง่ามานาน ในที่สุดบริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ก็ได้ฤกษ์เปิดตัวรถยนต์นั่ง โตโยต้า โคโรลล่า อัลติส ใหม่ เมื่อวันที่ 29 มกราคม 2551

โตโยต้า เปิดตัวรุ่น โคโรลล่า เข้าสู่ตลาดเมืองไทยครั้งแรก รุ่นที่ 1 เมื่อปี 2509 และรุ่นที่ 2 ปี 2513 จากโรงงานผลิตของบริษัท โตโยต้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น ประเทศญี่ปุ่น ต่อมารุ่นที่ 3 ปี 2517 จึงได้เริ่มสายการผลิตครั้งแรกที่โรงงานประกอบรถยนต์สำโรง สมุทรปราการ มาจนกระทั่งปี 2544 ได้มีพัฒนาการมาถึงรุ่นที่ 9 ได้พลิกโฉม โคโรลล่า จากรถยนต์นั่งขนาดเล็ก ก้าวสู่ความเป็นรถยนต์นั่งขนาดเล็กระดับบน เน้นความหรูหรา ผลิตที่โรงงานแห่งที่สองในประเทศไทย อยู่ที่ นิคมอุตสาหกรรมเกตเวย์ซิตี้ ฉะเชิงเทรา โดยใช้ชื่อรุ่นว่า 'โคโรลล่า อัลติส'

ตลอดระยะเวลากว่า 40 ปี โคโรลล่าถือว่าเป็นรถยนต์นั่งยอดนิยมรุ่นหนึ่งในเมืองไทยมาโดยตลอด มียอดขายสะสมมากกว่า 455,000 คัน และมีส่วนสำคัญในการผลักดันให้โตโยต้าครองความเป็นหนึ่งในตลาดรถยนต์นั่งของไทยจนถึงปัจุบัน

การมาของอัลติส ใหม่ รุ่นนี้ เพื่อให้เป็นไปตามแนวคิด รถยนต์นั่งขนาดเล็กระดับบน ดังนั้น จึงออกแบบภายนอกให้ดูโฉบเฉี่ยว ตัวรถต่ำลง และกว้างขึ้นกว่าเดิม ทำให้ค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทานอากาศต่ำเพียง 0.29 ชุดโคมไฟหน้าดีไซน์ใหม่

มิติภายนอก ความยาว 4,540 มม. ความกว้าง 1,760 มม. ความสูง 1,465 มม. สำหรับรุ่น 1.8E และ 1.8G (ใช้ยางขนาด 16 นิ้ว) ความกว้างฐานล้อด้านหน้า 1,520 มม. ด้านหลัง 1,525 มม.

การออกแบบพื้นที่ภายในห้องโดยสารเน้นความกว้าง และใช้งานง่าย เนื่องจากห้องเครื่องยนต์ที่มีขนาดเล็กลง ช่วยเพิ่มพื้นที่ภายในห้องโดยสาร เสาโครงรถทั้งด้านหน้า และด้านหลังยื่นออกด้านนอก ลดระดับความสูงระหว่างพื้น ห้องโดยสาร และขอบประตู ทำให้ก้าวขาออกได้ง่าย
 


เบาะนั่งปรับไฟฟ้าด้วยระยะการปรับที่ละเอียดระดับมิลลิเมตร จึงสามารถปรับเบาะนั่งให้ได้ตำแหน่งที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการขับขี่ พร้อมพวงมาลัยที่สามารถปรับระดับสูง-ต่ำ และใกล้-ไกล

พนักวางแขนสามารถเลื่อนไปด้านหน้า และหลังได้ พนักวางแขนตรงกลางมีพื้นที่เก็บของสองชั้น ง่ายต่อการหยิบ (ยกเว้นรุ่น J)

มาตรวัดขนาดใหญ่ อ่านง่าย ชัดเจน และติดตั้งมาตรวัดแบบ Optitron เป็นอุปกรณ์มาตรฐานสำหรับรุ่น 1.8E และ 1.8G

ปุ่มควบคุมบนพวงมาลัย สะดวกสบายสำหรับผู้ขับขี่ ในการควบคุมการทำงานของเครื่องเสียง และจอแสดงข้อมูลการขับขี่ (MID) ได้ และช่วยเพิ่มความปลอดภัย เนื่องจากไม่ต้องละมือจากพวงมาลัย หรือละสายตาจากถนน

จอแสดงข้อมูลการขับขี่ แสดงผล อัตราการใช้น้ำมันขณะขับ อัตราการใช้น้ำมันเฉลี่ย ระยะทางที่ขับได้จากน้ำมันที่มี ความเร็วเฉลี่ย ระยะเวลาการเดินทาง สามารถเปลี่ยนหน่วยของข้อมูลได้จาก กม.ต่อ 1 ลิตร หรือลิตรต่อ 100 กม.

มีพื้นที่สำหรับวางขวดน้ำหลายจุด เช่น บริเวณคอนโซลกลาง พนักวางแขนด้านหลัง ประตูรถด้านหน้า ประตูรถด้านหลัง ที่วางขวดน้ำยังได้รับการออกแบบให้สามารถยึดขวดน้ำให้พอดี เพื่อป้องกันไม่ให้ขวดกระเด็นหลุดออกจากช่องในขณะที่รถกำลังวิ่ง

มีช่องเก็บสัมภาระในห้องโดยสาร รวมทั้งหมด 17 ช่อง อาทิ ที่เก็บของด้านหลังเบาะหน้า ด้านข้างพวงมาลัย ด้านข้างคอนโซลกลาง ด้านหลังที่พักแขน ด้านหน้า คันเกียร์ เป็นต้น

ที่เก็บสัมภาระท้ายรถ บรรจุถุงกอล์ฟได้ถึง 4 ใบ สำหรับรุ่น 1.8 ลิตร ยังสามารถพับเบาะนั่งด้านหลังได้แบบ 60:40 ทำให้สามารถวางของที่มีความยาวเป็นพิเศษได้

ห้องโดยสารด้านหลังแบบเรียบ ให้พื้นที่กว้างขวางสำหรับผู้โดยสาร พื้นที่ว่างมากขึ้น ช่วยให้การเคลื่อนไหวบริเวณเบาะด้านหลังสะดวกขึ้น ชิ้นส่วนต่างๆ ของท่อไอเสียได้รับการปรับและลดช่องว่างที่ไม่จำเป็น ช่วยลดพื้นที่การติดตั้งท่อไอเสียทำให้พื้นห้องโดยสารด้านหลังราบเรียบ
 


สำหรับเครื่องยนต์มีให้เลือก 2 ขนาด ได้แก่ ขนาด 1.8 ลิตร 1ZZ-FE 1,794 ซีซี 4 สูบ 16 วาล์ว DOHC VVT-i กำลังสูงสุด 132 แรงม้าที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 170 นิวตันเมตรที่ 4,200 รอบต่อนาที ส่วนเครื่องยนต์ขนาด 1.6 ลิตร 3ZZ-FE 1,598 ซีซี 4 สูบ 16 วาล์ว DOHC VVT-i กำลังสูงสุด 109 แรงม้าที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 145 นิวตันเมตรที่ 4,400 รอบต่อนาที

เกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด ที่ควบคุมด้วยไฟฟ้าแบบซุปเปอร์ ECT (Electronic Controlled Transmission) พร้อม Sequential shift สำหรับรุ่น 1.8 ลิตร เปลี่ยนการทำงานตามสภาพของถนน และการขับขี่ โดยจะเลือกการเปลี่ยนเกียร์ที่เหมาะสมด้วยระบบไฟฟ้า

มีระบบ EPS ให้ความรู้สึกเบาในการควบคุมพวงมาลัยเบา พวงมาลัยเพาเวอร์ EPS (Electronic Power Steering) ส่งกำลังด้วยระบบไฟฟ้า น้ำหนักของพวงมาลัยจะแปรผันตามความเร็วของรถ เบาในการเลี้ยวเมื่อความเร็วต่ำ หนักขึ้นเมื่อความเร็วสูง รัศมีวงเลี้ยวแคบสุด 5.3 เมตร

ระบบความปลอดภัยแบบระบบป้องกันล้อล็อค ABS (Anti-lock Braking System) พร้อมระบบกระจายแรงเบรก EBD (Electronic Brake Distribution) มีระบบ BA (Brake Assist) เมื่อผู้ขับขี่เหยียบเบรกในสถานการณ์ฉุกเฉิน ระบบเสริมแรงเบรกจะทำงานทันที โดยช่วยเสริมกำลังในการเบรกอย่างต่อเนื่อง เมื่อต้องหยุดรถโดยฉุกเฉิน (ยกเว้นรุ่น 1.6J)

ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี TRC (Traction Control) ช่วยควบคุมการหมุนฟรีของล้อ และจะส่งแรงดันน้ำมันเบรกไปยังล้อแต่ละล้อ เพื่อควบคุมเสถียรภาพของรถโดยอัตโนมัติ และหากการลื่นไถลยังคงเกิดขึ้น ความเร็วของรถก็จะลดลงโดยอัตโนมัติ ช่วยควบคุมการทรงตัวของรถในสภาพถนนลื่น (เฉพาะในรุ่น 1.8G)

ระบบควบคุมการทรงตัว VSC (Vehicle Stability Control) ช่วยป้องกันไม่ให้รถลื่นไถลออกนอกเส้นทางในขณะเข้าโค้ง โดยระบบเซ็นเซอร์จะคอยตรวจจับลักษณะการเคลื่อนไหวของตัวรถ และปรับให้เหมาะสมโดยอัตโนมัติ เฉพาะในรุ่น 1.8 G)

ดิสก์เบรกขนาด 15 นิ้ว ทั้ง 4 ล้อ...ให้ประสิทธิภาพการเบรกที่นุ่มนวล มั่นใจ

โครงสร้างนิรภัย GOA พร้อมคานนิรภัย ช่วยดูดซับแรงและกระจายกระแทก มีถุงลมนิรภัยคู่หน้า (เฉพาะรุ่น 1.6G, 1.8E และ 1.8G) เบาะนั่งแบบ WIL (Whiplash Injury Lessening) ช่วยลดการบาดเจ็บที่อาจเกิดขึ้นบริเวณกระดูกต้นคอเมื่อเกิดการชนจากด้านหลัง

สำหรับราคาอัลติสใหม่ เนื่องมาจากนโยบายส่งเสริมพลังงานทดแทนของรัฐบาล 'ขิงแก่' ได้อนุมัติให้รถที่สามารถเติมน้ำมันแก๊ซโซฮอร์ อี 20 ได้ลดภาษีสรรพสามิตลงอีก 5% ในเมื่ออัลติสใหม่สามารถเติม อี20 ได้ จึงได้รับอานิสงส์นี้ไปด้วย แต่จากอุปกรณ์ที่ใส่เพิ่มเข้าไปคิดเป็นมูลค่ามากกว่าส่วนลดในแต่ละรุ่น จึงทำให้ส่วนลดมากน้อยแตกต่างกันไป และบางรุ่นก็ปรับราคาเพิ่มจากรุ่นเดิม

อัลติสใหม่ มีให้เลือก 7 รุ่น ได้แก่ รุ่น 1.8G เกียร์อัตโนมัติ ราคา 969,000 บาท ลดลง 50,000 บาท จากเดิม 1,019,000 บาท รุ่น 1.8E เกียร์อัตโนมัติ ราคา 899,000 บาท ลดลง 20,000 บาท จากเดิม 919,000 บาท รุ่น 1.6G เกียร์อัตโนมัติ ราคา 814,000 บาท ลดลง 30,000 บาท จากเดิม 844,000 บาท รุ่น 1.6E เกียร์อัตโนมัติ ราคา 774,000 บาท ลดลง 15,000 บาท จากเดิม 789,000 บาท รุ่น 1.6E เกียร์ธรรมดา ราคา 744,000 บาท ลดลง 11,000 บาท จากเดิม 755,000 บาท รุ่น 1.6J เกียร์อัตโนมัติ ราคา 739,000 บาท ลดลง 5,000 บาท จากเดิม 744,000 บาท รุ่น 1.6J เกียร์ธรรมดา ราคา 709,000 บาท เพิ่มขึ้น 4,000 บาท จากเดิม 705,000 บาท

โดย สุรพล สุประดิษฐ์ ณ อยุธยา [email protected]

คำสำคัญ (Tags): #ป.บริหารรุ่น6
หมายเลขบันทึก: 163182เขียนเมื่อ 3 กุมภาพันธ์ 2008 21:59 น. ()แก้ไขเมื่อ 9 มิถุนายน 2012 14:50 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)
ก่อนเรียนจบ อยากให้พี่อางค์ขับอัลติสมารับไปเที่ยวทะเลที่จังหวัดกระบี่จังเลย
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท