เรื่องเล่าจากการพูดคุยกับทีมวิจัยสมุทรปราการ


กิจกรรมและความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นหลังจากเข้าไปดำเนินโครงการในพื้นที่
วันที่ ๑๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๔๙ ระหว่างเดินทางเยี่ยมเยียนกับคณะกรรมการที่ชุมชนสุขสวัสดิ์ ต.ในคลองบางปลากด ไม่ได้ปล่อยให้โอกาสลอยนวล ชวนอ.เบียร์และ อ.เอกพูดคุยไปเรื่อยแต่ไม่เปื่อยนะคะหนูเคเอ็มเก็บรายละเอียดทุกคำมาเขียนให้อ่านกันคะ แท่น แท้น แท๊น......

แนวคิดในการทำงานของอาจารย์ในการดำเนินงานในพื้นที่ตอนนี้เป็นอย่างไรบ้างคะ

อ.เบียร์
แนวคิดในการทำงานที่ทำอยู่ตอนนี้ อ.ไม่ได้เอาเงินเป็นตัวตั้งแต่จะเอางานเป็นตัวตั้ง เพราะ อ.รู้สึกว่าในพื้นที่ช่วงก่อนที่ผ่านมาเราจะรุกจนไม่ไหวแล้วจะนอนแผ่อยู่แล้ว น้าเทพ (ประธานเครือข่าย)ก็อยากจะออกมานอนเฉย ๆ ซึ่งหากมานอนเฉยๆ ก็ไม่ได้ลำบากอะไรแต่การทำงานในพื้นที่เนื่องจากว่าเป็นชุมชนเมือง เขาจะมีข้อจำกัดในเรื่องของเวลาและคนเมืองเขาคิดว่าเขาเป็นคนเก่ง เป็นคนเก่งมาก ๆ จนควบคุมไม่ได้ก็ให้เขาแสดงความเวอร์ออกมา ตอนนี้ก็จะเปลี่ยนวิธีการทดลองทพแนวใหม่หากทำแล้วได้ก็ถือว่าเป็นข้อค้นพบใหม่ หากทำแล้วไม่ได้ก็จะได้หาสาเหตุกันต่อไป ก็จะหาวิธีไปเรื่อย ๆ ก็คนวิจัย ก็ต้องค้นพบพัฒนาหาวิธีการจะได้เป็นแบบอย่างกับที่อื่น ๆ ด้วย
อ.เบียร์ยังกล่าวว่าจริง ๆ แล้วในพื้นที่นี้ที่มันทำยากเพราะ scop  (ไม่แน่ใจว่าเขียนถูกหรือเปล่านะคะ) มันกว้างและเราก็ไม่ได้ลงทำในรูปของเครือข่ายแต่เราจะลงเป็นหมู่ พื้นที่ที่เราลงไปทำเวลาประชุมก็มีการส่งตัวแทนไปเข้าประชุมนะ แต่ไม่มีอะไรคืบหน้าเวลาเราให้ไปค้นหาก็ไม่อือ ไม่แออะไรเลย

ผลตอบรับหรือความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น

เกิดความเปลี่ยนแปลงเพราะคุณอำนวย ก็น้าเทพนั้นแหละที่เป็นตัวเดินเรื่องทั้งหมดเพียงแต่เราเข้าไปสนับสนุนความรู้เรื่องการจัดทำวารสารและเราจะเป็นทีมที่ปรึกษามากกว่า
งานที่เกิดขึ้นในตำบล

๑)  เรื่องของวารสาร แต่ไม่ค่อยประสบความสำเร็จเท่าไหร่นักคนยังไม่ค่อยสนใจ คนที่ทำวารสารก็จะเป็น อ.เบียร์เอง แต่เนื้อหามาจากเขา (คนในพื้นที่)เขียนเอง
๒)  เครือข่ายตำบลกำลังทำเรื่อง บทบ.ในเรื่องของการฟ้องร้องซึ่งเป็นการดำเนินงานโดยเครือข่ายจริง ๆโดยมีน้าเทพประสานติดต่อกับทางจังหวัดและ สทบ.ว่าจะขอในการยื่นเรื่องขออำนาจในการฟ้องร้องสมาชิกที่ไม่ส่งเงินมาเป็นระยะเวลานาน ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่เราเรียนรู้มาจาก อ.วังผึ้งซึ่งเขาก็ทำแล้วเรื่องการฟ้องร้อง
๓)  ที่เห็นชัดในความเปลี่ยนแปลงอีกเรื่องก็คือเมื่อก่อนหมู่ที่ไม่ค่อยกระตือรือร้นก็จะมีหมู่ที่ ๓ และหมู่ที่ ๕ ไม่ค่อยกระตือรือร้นเรื่องกองทุนเท่าไหร่ส่วนตอนนี้เขามีความกระตือรือร้นมากขึ้น ตัวอย่างเช่น หมู่ที่ ๓ ก่อนที่โครงการจะเข้าไปเครือข่ายไม่ได้ทำงานอะไรเลย แต่พอเราเข้าไปกระตุ้นเขาก็เกิดการกระตือรือร้นขึ้น
สำคัญมากคือประธานเครือข่ายคือผู้ใหญ่เทพพิทักษ์จะดำเนินการลงไปพูดคุยกันในพื้นที่ปัยหาในเรื่องการพูดคุยบางทีก็มีคนโทรศัพท์มาขู่ว่าอย่ามายุ่งก้เลยไม่เข้าไปแตะในหมู่ที่มีปัญหามันก็อย่างนี้แหละมีปัญหาเล็กน้อย หมู่ที่โดนตัดคือเราไม่เข้าไปยุ่งจะมี ๒ หมู่ คือ หมู่ที่ ๔ และ หมู่ที่ ๗ ซึ่งในหมู่ที่ ๔ มีปัญหาในเรื่องของเงินหายเข้าไปสอบถามค้นข้อมูลก้หาคำตอบไม่ได้เงินหายโดยไร้ร่องรอยเป็นจำนวนเงินถึง ๓๐๐,๐๐๐ บาทเราพยายามที่จะเข้าไปช่วยคลี่คลายแต่ในเมื่อเขาไม่ต้องการให้เข้าไปยุ่งเราก็จะไม่เข้าไป
ความร่วมมือของสมาชิกกับการที่ อ.ลงไปทำโครงการนี้

เขาก็ให้ความร่วมมือดี

กิจกรรมที่ลงไปดำเนินการในพื้นที่

ก็จะลงไปในหมู่ที่ ๓ ก็จะมีข้อเสนอแนะในเรื่องของการทำสัจจะ เขาก็บอกว่าต้องแยกให้ชัดเจนในเรื่องของคณะกรรมการและระเบียบจึงทำให้สัจจะยังไม่เกิดในหมู่ที่ ๓
ของหมู่ที่ ๕ ก็ทำเวทีตอนที่เขาประชุมสามัญ เราก็ได้ทราบปัญหาซึ่งกิจกรรมดำเนินการวันนี้มี ๒ กลุ่ม คือ กลุ่มคณะกรรมการเครือข่ายและกลุ่มของสมาชิก คณะกรรมการเครือข่ายเราก็ได้คุยในเรื่องของวารสารและถามเขาในเรื่องของการพัฒนาก็จะเงียบมาก ๆ อ.จะอยู่ในกลุ่มคณะกรรมการส่วนอ.ดวงจะอยู่ในกลุ่มสมาชิก กลุ่มของอ.คณะกรรมการก็จะได้ปัญหาออกมาและข้อเสนอแนะแนวทางแก้ปัญหาซึ่งเขาก็ได้ดำเนินการแก้ไขบ้างแล้ว เช่นเรื่องที่กู้ไปไม่คืนก็ดำเนินการเรื่องฟ้องร้องโดยผ่านเครือข่ายตำบล

ประวัติชุมชนความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอีกเรื่องหนึ่ง

ความเปลี่ยนแปลงอีกเรื่องที่เห็นเด่นชัดคือ ตอนนี้เรากำลังศึกษาในเรื่องของประวัติชุมชนซึ่งไปทำกับคนสูงอายุ ซึ่งตอนนี้คนสูงอายุอยากเขียนเล่าเรื่องราวของตัวเอง (ด้านความเปลี่ยนแปลงนะ)  ทำเป็นหนังสือ ถือว่าเป็นการสำรวจชุมชนของตัวเองก่อนจะได้เห็นถึงความเปลี่ยนแปลงก่อนที่จะมาเป็นปัจจุบันว่าแต่เดิมเขาอยู่กันอย่างไร แล้วก้อยากดุตั้งแต่อดีตมาของตำบลในคลองบางปลากดที่มีอำนาจมาตลอดก็เรื่องของการปกครอง จนมาถึงปัจจุบันที่เปลี่ยนแปลงไปนั้นส่งผลมาจากเรื่องของการเมืองทั้งนั้น การเปลี่ยนแปลงเริ่มจากการจัดสรรพื้นที่ตั้งแต่สมัยจอมพลปอ จอมพลสฤษฎิ์ ที่เขาขยายเมืองจาก กทม. ออกมาปริมณฑล นนทบุรี สมุทรปราการ เมืองพวกนี้ก็จะคล้าย ๆ กันคือขยายต่อมาจากกรุงเทพฯ เมืองอุตสาหกรรม พอเริ่มมีโรงงานเข้ามาก็จะมีการเข้ามาจัดสรรที่ดิน ก็จะเข้ามาซื้อที่ดินของคนแก่ ๆ ก็จะมีเรื่องหารเมืองนั้นแหละเข้ามาเกี่ยวข้องจะใช้อำนาจของการเมืองในการบังคับซื้อ คือไม่ขายไม่ได้ ไม่ขายก็ถูกขู่ฆ่า ถูกฆ่า เลือกเอาว่าจะขายแล้วมีชีวิตอยู่หรือไม่ขายแล้วไม่มีชีวิตอยู่ (อ.ขอเล่าเท่านี้ก่อนเรื่องประวัติแล้วยังทิ้งท้ายเอาไว้ว่าเดี๋ยวจะเขียนเล่าให้ฟัง ให้ติดตามอ่านจากบล็อค) แต่เดิมคนไม่ติดวัตถุนิยมเหมือนในปัจจุบัน อ.ไปสัมภาษณ์คุณลุงคนหนึ่งพ่อของผู้ใหญ่อ้อ เขายบอกว่าเมื่อก่อนคนเท่ากันคนจนก็มีนา คนรวยก็มีนา คนจนก็พายเรือ คนรวยก็พายเรือ เมื่อก่อนคนเท่ากันแต่เดี๋ยวนี้คนต่างกันวัดกันที่เงินกับวัตถุ คนจนไม่มีเงิน คนรวยมีเงินมีรถ
ส่วนที่เรียกว่าในคลองบางปลากดเพราะมีคลองล้อมรอบจากการสำรวจจากเอกสารมี ๒๘ สายเมื่อก่อนไม่ได้เป็นปากคลอง แต่ต่อมาก็แบ่งแยกเป็นตำบลปากคลองบางปลากด กับในคลองบางปลากด ลักษณะก็สับสนไม่มีการวางผังเมืองที่ดี ตอนนี้ อ.กำลังหาในเรื่องของทุนชุมชนอยู่

แกนนำคนอื่น ๆ นอกจากผู้ใหญ่เทพแล้วที่อ.ว่าพอจะมาเป็นวิทยากรกระบวนการได้มีใครบ้างในพื้นที่
น้าจรรลอง  พี่ต๊กตา มหาวิทยา ๓ คนนี้มีโอกาสเพียงแต่ว่าเขายังไม่ได้กระบวนการ ส่วนผู้ใหญ่อ้อมีความเป็นผู้นำอยู่แล้วแต่เขาไม่สามารถทำหน้าที่เหมือนผู้ใหญ่เทพได้เนื่องจากฟังก์ชั่นต่างกัน
น้าเทพ    ประสานกับหน่วยงานเพื่อให้ก้าวไปข้างหน้าได้ ส่วนผู้ใหญ่อ้อนั้น มีอำนาจและบริหารจัดการกองทุนของเขาได้แต่ไม่มีเวลาพอมาทำเหมือนกับผู้ใหญ่เทพ
 
ค่อยมาเขียนให้อ่านกันต่อนะคะที่ได้คุยกับ อ.เอกยังไม่ได้เขียนเล่าให้ฟังเลยคะตอนนี้หมดเวลาแล้ว อ.อ้อมมาตามให้ไปกินข้าวและทำภารกิจต่อไปที่เกาะคาในช่วงบ่ายคะ
 
อ.เอก กับ อ.เบียร์ เป็นนักวิจัยที่ทำพื้นที่สมุทรปราการคะ
 
หมายเลขบันทึก: 16115เขียนเมื่อ 20 กุมภาพันธ์ 2006 13:17 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 14:26 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท