การพัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศในภาครัฐ (e-Government)
หมายถึง
การนำสื่ออิเล็กทรอนิกส์มาใช้ในการบริหารงานของรัฐ
(Back Office) และการให้บริการของรัฐ
(Front Office)
แก่ประชาชนหรือ
Electronic Government
เพื่อมุ่งไปสู่สังคมแห่งภูมิปัญญาและการเรียนรู้
(Knowledge-based Society)
สร้างระบบบริหารกิจการบ้านเมืองและสังคมที่ดี (Good
Governance)
รวมทั้งเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ
(Competitiveness)
อันจะนำไปสู่คุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นของคนในสังคมไทย
ยุคของโลกการสื่อสารไร้พรมแดน
ทำให้โลกการสื่อสารแคบลงเรื่อย ๆ
เนื่องจากความเจริญก้าวหน้าทางเทคโนโลยีสารสนเทศและการติดต่อสื่อสาร
ทำให้เราได้รับข้อมูลต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็ว ไม่ว่าจะอยู่มุมใดของโลก
ด้วยเหตุนี้
ทำให้เราไม่อาจปฏิเสธได้ว่าการเรียนรู้วิทยาการสมัยใหม่และการได้รับข้อมูลข่าวสารอย่างต่อเนื่องนั้น
เป็นสิ่งจำเป็นและมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการดำรงชีวิต
การดำเนินธุรกิจทั้งภาครัฐบาลและภาคเอกชน
การพัฒนาประเทศและการพัฒนาความรู้ของประชาชนให้ทัดเทียมกับประเทศต่าง
ๆ ทั่วโลก
รัฐบาลไทยได้ตระหนักถึงบทบาทสำคัญดังกล่าว
จึงมีนโยบายรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ (e-Government)
เป็นนโยบายที่มีการนำเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารมาปฏิรูประบบบริการของรัฐให้มีประสิทธิภาพ
สามารถให้บริการประชาชนอย่างสะดวก รวดเร็ว ตลอดเวลา
อย่างทั่วถึงและเป็นธรรม
และเพื่อเป็นการตอบสนองต่อนโยบายรัฐบาลดังกล่าว
จึงมีการจัดตั้ง
"ศูนย์บริการข้อมูลภาครัฐเพื่อประชาชน"
(Government Contact Center) ขึ้น
ซึ่งจะก่อให้เกิดประโยชน์โดยตรงต่อประชาชน
เพราะเป็นแหล่งบริการข้อมูลที่ประชาชนเพียงติดต่อไป 1111
หมายเลขกลางเพียงหมายเลขเดียว (Portal Site)
ก็สามารถเข้าถึงและรับทราบข้อมูลจากประชาชนโดยตรงและนำข้อมูลนั้นมาปรับปรุงประสิทธิภาพการบริหาร
การจัดการ การบริการของภาครัฐให้ดียิ่งขึ้น
"ศูนย์บริการข้อมูลภาครัฐเพื่อประชาชน"
จึงเป็นเครื่องมือที่สนองนโยบายอิเล็กทรอนิกส์และสามารถลดช่องว่างระหว่างรัฐบาลกับประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
แต่เนื่องจากไอซีทีคอลเซ็นเตอร์ได้เริ่มให้บริการตามมติคณะรัฐมนตรี
และเมื่อวันที่ 1
เมษายน พ.ศ. 2547
พบว่ายังมีปัญหาอยู่โดยเฉพาะปัญหาเกี่ยวกับการให้บริการสอบข้อถามข้อมูลภาครัฐทั่วไป
ได้แก่ บทบาท หน้าที่ ภารกิจ โครงสร้างการบริหาร
และข้อมูลบริการ ได้แก่ บริการต่าง ๆ
ที่หน่วยงานภาครัฐให้กับประชาชน ข้อมูลความรู้ ได้แก่
ความรู้เชิงวิชาการของแต่ละหน่วยงานเป็นต้น
นายสรอรรถ กลิ่นประทุม
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที)
กล่าวภายหลังตรวจเยี่ยมศูนย์บริการข้อมูลภาครัฐหรือ GCC
1111
และศูนย์บริการข้อมูลบริษัท ทีโอทีว่าตั้งแต่
GCC 1111
เปิดให้บริการตามมติคณะรัฐมนตรี.
เมื่อวันที่
1
เมษายน 2547
ที่ผ่านมาพบว่ายอดผู้ใช้บริการค่อนข้างน้อยและยังไม่เป็นที่นิยมของประชาชน
หากเทียบกับศูนย์บริการข้อมูลของภาคเอกชนที่ให้บริการ การที่ประชาชนไม่นิยมใช้บริการ
เพราะขาดข้อมูลเชิงลึก เนื่องจากศูนย์นี้จะมีแต่ข้อมูลพื้นฐานเท่านั้น
ยังขาดการประสานงานด้านข้อมูลจากหลายๆกระทรวง
รวมทั้งขาดการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนรับทราบว่ามีบริการดังกล่าว”
ศูนย์บริการข้อมูลภาครัฐ ( Government call center 1111
)
สรุปผลการบริการข้อมูลภาครัฐผ่านทาง
http://www.gcc.go.th.
เมื่อวัน 22
พฤศจิกายน พ.ศ.
2548 พบว่า
ปัจจุบันมีศูนย์บริการข้อมูลภาครัฐของแต่ละกระทรวงอยู่ประมาณ
60
ศูนย์ แต่ยังขาดการประสานงานและการให้บริการข้อมูลในเชิงลึก
พนักงานยังคงมีความรู้ความเข้าใจแค่พื้นฐานเท่านั้นจึงมีความจำเป็นต้องจัดอบรมและให้ความรู้กับพนักงานอีกมาก
เพราะบริการของ GCC1111
ไม่สามารถตอบสนองความต้องการของประชาชนได้
หากส่วนราชการต่างๆไม่ยอมให้ความร่วมมือในการประสานและเชื่อมโยงข้อมูลเข้าหากัน
ซึ่งที่ผ่านมา GCC1111
เคยมีผู้ใช้บริการสูงสุดถึงเดือนละ 5
แสนรายแต่เริ่มลดลงนับตั้งแต่เดือน ก.ค.
ทำให้ปัจจุบันมียอดผู้ใช้เฉลี่ยเดือนละ 3
แสนรายเท่านั้นโดยบริการที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคือ
การสอบถามข้อมูลทั่วไป
ซึ่งหน่วยงานที่ประชาชนให้ความสนใจใช้บริการมากที่สุด
5
อันดับแรกได้แก่ กระทรวงมหาดไทย
กระทรวงการคลัง กระทรวงคมนาคม กระทรวงไอซีที
และกระทรวงการต่างประเทศ
จึงทำจำเป็นที่จะต้องมาทำการศึกษาเกี่ยวกับกรณีนี้กันอย่างลึกซึ่ง
เพื่อที่จะนำไปใช้แก้ปัญหาประกอบกับการหาแนวทางแก้ไขให้การบริการข้อมูลภาครัฐกลับมาเป็นที่นิยมใช้บริการพร้อมด้วยเพิ่มประสิทธิภาพในการให้บริการประชาชนโดยการเพิ่มช่องทางให้
ประชาชนสามารถเข้าถึงข้อมูลข่าวสาร และบริการ
รวมถึงเรื่องร้องเรียนต่าง ๆ ได้สะดวก รวดเร็ว อำนวยความสะดวก
ลดค่าใช้จ่ายของประชาชนในการเดินทางมาติดต่อกับ
ส่วนงานราชการภายใต้สังกัดโดยตรง
ลดค่าใช้จ่ายด้านการลงทุนที่ซ้ำซ้อนของภาครัฐ
อันจะส่งผลทำให้รัฐบาลสามารถให้บริการประชาชนอย่างสะดวก รวดเร็ว
ตลอดเวลา อย่างทั่วถึงและเป็นธรรม
และเพื่อเป็นการตอบสนองต่อนโยบายรัฐบาล
อ้างอิง
ศูนย์บริการข้อมูลรัฐเพื่อประชาชน . (
2549, มกราคม 7 ) .สืบค้นเมื่อ 15
มกราคม 49, จาก
http://www.gcc.go.th.
การบริหารการจัดการภาครัฐ.( 2549,
มกราคม 7). สืบค้นเมื่อ 15
มกราคม 49,
จาก http://www.thailandictalliance.net.