Storytelling ของ"เพ็ญ": "ไม่ยาก..อย่างที่คิด"


เป็นการ "คิดทางบวก" ที่ดีที่สุดเท่าที่เคยได้ยินมา
   ตามชื่อบันทึกเป๊ะเลยค่ะ  เริ่มต้นจากตอนเข้าระบบในวันนี้ ก็ได้พิมพ์ตัวเลข 23456 ค่ะ บางวันเลขสลับไปมาทำให้ต้องใช้สมาธิเล็กน้อย แต่วันนี้สบายมากเพราะจิ้มได้เร็วปรื๋อเลยค่ะ
   
เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา พี่เม่ยก็ได้เข้าร่วมสัมนาที่จัดโดยภาควิชาพยาธิวิทยาด้วย ซึ่งรายละเอียดกิจกรรมและข้อคิดเห็นต่างๆ ก็ได้มีผู้เข้าร่วมสัมนาช่วยกันเล่าเรื่องราวให้อ่านกันหลายบันทึกแล้ว พี่เม่ยมาไตร่ตรองดู..เอ..ถ้าไม่เขียนเสียบ้าง ประเดี๋ยวจะตกเทรนด์ไปหน่อย อีกอย่างเกรงว่าท่าน CKO จะเข้าใจไปว่า....พี่เม่ยนอนหลับเวลาฟังบรรยาย หรือแอบหนีไปเที่ยวตอนทำ story telling หรือเปล่าหนอ? (เป็นตัวอย่างที่ไม่ดีนะคะ เพราะไม่ได้คิดทางบวก) เอาน่ะ..เขียนถึงสักหน่อย พร้อมกับเอารูปมายืนยันว่า "ทำงานอยู่ค่ะ"
  
   เพราะเริ่มต้นด้วยความง่าย ก็เลยนึกขึ้นมาได้ถึงประเด็นหนึ่งเกี่ยวกับความยาก..ง่าย ที่พี่เม่ยจับได้ จากการทำกิจกรรมกลุ่ม storytelling กลุ่ม 5 ก็คือเรื่องเล่าของ คุณเพ็ญแข คงทอง (ขออนุญาตเอ่ยนามค่ะ) จากการทำโครงการกล่องใส่สิ่งส่งตรวจจากแกนกระดาษทิชชู 
   "เพ็ญ" เล่าว่าครั้งแรกที่ต้องออกไปประสานกับหน่วยงานอื่น (เวชนิทัศน์) เพื่อขอความช่วยเหลือ  เพ็ญบอกว่ารู้สึกเกรงใจ เป็นกังวลและไม่กล้าเลยค่ะ เพราะวันๆเราก็ทำงานอยู่ในหน่วยงานของตัวเองไม่ได้มีโอกาสพบปะผู้คนมากนัก แต่โชคดีที่เพ็ญได้มีโอกาสไปทัศนศึกษากับสหกรณ์ออมทรัพย์เมื่อปีที่แล้ว และได้รู้จักกับพี่ที่ไปทัศนศึกษาด้วยกัน รู้ว่าทำงานอยู่หน่วยงานนั้น จึงได้ติดต่อกับพี่เขา ปรากฎว่าได้รับความช่วยเหลือเป็นอย่างดี และต่อเนื่องยาวนานจนสิ้นสุดโครงการ
   ประเด็นอยู่ตรงนี้ค่ะ เพ็ญกำลังบอกว่า การที่เราได้มีโอกาสพูดคุย ปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่นบ้าง ไม่ใช่เฉพาะเรื่องงานอย่างเดียวเนี่ย มีประโยชน์นะ เพราะบางครั้งเมื่อต้องการติดต่อประสานงาน เราก็อาศัยความเป็นมิตรนี่แหละ ช่วยให้เราก็จะกล้าที่จะไปปรึกษา หรือขอความช่วยเหลือจากเขาได้สะดวกขึ้น พูดง่ายๆก็คือ หาโอกาสเปิดตัวเองบ้างค่ะ สังคมรอบข้างยังมีสิ่งที่น่าสนใจอีกเยอะ 
อีกประเด็นก็คือ เพ็ญเล่าว่า ก่อนไปก็กลัวจะไม่ได้รับความร่วมมือ แต่พอได้ไปพูดคุยปรึกษากับพี่เขาแล้วก็พบว่า "ไม่ยาก..อย่างที่คิด" พี่เม่ย จับ ทันทีเลยค่ะ นี่เป็นการ คิดทางบวก ที่ดีที่สุดเท่าที่เคยได้ยินมา ถ้าเราจะทำอะไรก็ตามแล้วคิดว่ายาก ทุกอย่างก็จะดำเนินไปด้วยความเครียด กังวลและต้องใช้พลังงานอย่างมากในการขับเคลื่อน แต่ถ้าเราคิดว่าไม่ยาก (แต่อาจจะไม่ง่าย) เราก็จะมีกำลังใจมากขึ้นในการที่จะทำงานให้บรรลุเป้าหมายได้

   เป็นความบกพร่องของพี่เม่ย (โดยสุจริต เพราะ..ลืมค่ะ) ในวันสัมนา เพราะทั้งที่ตัวเองก็ได้มีโอกาสเป็นผู้ดำเนินรายการในช่วงของการนำเสนอของกลุ่มต่างๆ แต่ก็ไม่ได้นำประเด็นนี้มาพูดถึง ขออนุญาตแก้ตัวด้วยการนำมาเล่าในบันทึกนี้ก็แล้วกันนะคะ

หมายเลขบันทึก: 15886เขียนเมื่อ 17 กุมภาพันธ์ 2006 10:30 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 17:16 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)
อยากให้คุณลิขิต หรือ คุณอำนวย (facilitator) หรือสมาชิกในกลุ่ม ที่ได้ฟังเรื่องเล่าในวันนั้น เขียนเรื่องเล่าที่ประทับใจ แบบที่พี่เม่ยเขียนในบันทึกนี้
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท