หมอบ้านนอกไปนอก(47): สยามโศกาดูร


สมเด็จพระเจ้าพี่นางฯทรงสนพระทัยและมีพระอัจฉริยภาพเป็นเลิศทั้งในด้านการอ่าน-เขียน การกีฬา การถ่ายภาพ ด้านศิลปวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์โบราณคดี ทรงสนพระทัยในสวัสดิภาพของประชาชนเป็นอย่างยิ่ง ทรงเสด็จเยี่ยมและพระราชทานพระอนุเคราะห์แก่ราษฎรผู้ยากไร้ในท้องถิ่นทุรกันดารมาโดยตลอดพระชนม์ชีพของพระองค์

               ในช่วงเทศกาลปีใหม่ ที่คนทั่วโลกมีความเชื่อคล้ายๆกันว่าเป็นวันเริ่มต้นรับสิ่งดีงามสิ่งใหม่ๆ จึงถือเป็นเทศกาลแห่งความสุข การนับด้วยปีนักษัตรปีนี้ถือเป็นปีชวดซึ่งสัตว์ประจำปีนักษัตรนี้ก็คือ หนู เรื่องเกี่ยวกับหนูมีอยู่มากมายทั้งในรูปนิทาน ตัวการ์ตูนหรืออยู่ในสุภาษิตหรือคำพังเพย ส่วนในทางการแพทย์ก็พูดถึงหนูที่เป็นพาหะนำโรคสู่คนได้เช่นโรคฉี่หนู สำหรับปีนี้จะเป็นปีหนูทองหรือปีหนูไฟ ก็คงแล้วแต่ใจของแต่ละคน ส่วนผมก็ได้กลับมาอยู่บ้านกับครอบครัวถึง 15 วัน ปลอดจากภารกิจการเรียนและการงาน ก็ถือเป็นเวลาที่มีคุณค่าเป็นอย่างมากรวมทั้งได้ไปหา โทรศัพท์คุยกับญาติผู้ใหญ่ ผู้บังคับบัญชา ผู้มีพระคุณและเพื่อนสนิทด้วย

              วันเสาร์ที่ 5 มกราคม 2551 ตื่นเช้าสบายๆตอนเที่ยงไปส่งขิมเรียนดนตรี (ตีขิม)ที่ตากกันทั้งครอบครัวแล้วแวะทานก๋วยเตี๋ยวร้านตรงข้ามวัดพร้าวกับทานไอติมร้านเต็มแก้ว ทั้งสองร้านเป็นร้านที่เราไปทานกันบ่อยๆ ตอนเย็นพาภรรยาไปจ่ายตลาดร้อยโทล้วนที่บ้านตาก น้องขิมสามารถตีขิมได้หลายเพลงแล้ว เป็นความต้องการของลูกเองที่อยากเรียนดนตรี ผมชวนน้องแคนให้เรียนดนตรี เขาบอกว่ายังไม่อยากเรียน อยากว่ายน้ำมากกว่า แต่ขอเรียนว่ายน้ำกับพ่อ ให้พ่อสอนและไปว่ายด้วยกัน น้องขลุ่ยบอกว่าจะเรียนเป่าขลุ่ยแต่รอให้โตกว่านี้ก่อน

               วันอาทิตย์ที่ 6 มกราคม 2551 ตอนเช้าไม่ได้ไปไหน แคนกับขลุ่ยเปิดวีซีดีดูหนังเรื่องตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ผมนั่งดูกับลูกไปด้วย ผมบอกลูกว่าสมัยก่อนต่อสู้กันด้วยพละกำลังและอาวุธเป็นหลัก ต้องเรียนรู้การต่อสู้ไว้ป้องกันตัวและเอาตัวรอดแต่ปัจจุบันนี้สู้กันด้วยความรู้และปัญญา เราจึงต้องหมั่นเรียนรู้เสมอๆ ตอนกลางวันพาครอบครัวไปทานสุกี้ที่ร้านฮอตพ็อดเพราะน้องแคนบอกว่าไม่ได้ไปทานนานแล้ว ต่อด้วยไปร้านหนังสือซีเอ็ดและแวะสักการะศาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชก่อนกลับบ้านพัก

                วันจันทร์ที่ 7 มกราคม 2551 เช้าไปส่งน้องขิมกับขลุ่ยที่โรงเรียน แล้วไปขอข้อมูลที่ สสอ.บ้านตาก พอสี่โมงครึ่งก็ขับรถพาภรรยาไปทำพาสปอร์ตราชการที่ศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ ใช้เวลาทำพาสปอร์ตไม่ถึงยี่สิบนาทีแต่ขับรถไปกลับหกชั่วโมง ได้เจอพี่แมว (สินีนาฏ จิตต์ภักดี หัวหน้าพยาบาลสถาบันพัฒนากรเด็กราชนครินทร์) โทรศัพท์คุยกับหมอบูรณ์ (สมบูรณ์ พันธวงค์ ผอก. ร.พ. เวียงป่าเป้า) หมอปลา (จันทร์ทิพย์) พี่เครือ (อดีตหัวหน้าฝ่ายบริหาร ร.พ.บ้านตาก) และโทรสวัสดีปีใหม่อาจารย์หมอผจญ อาจารย์ดวงสมร อาจารย์หมออนุวัฒน์ พี่ออฟ (นพ.วัชรพล ภูนวล) ขากลับแวะบ้านภรรยาที่ลำปาง สวัสดีคุณพ่อคุณแม่ภรรยาก่อนเดินทางกลับเบลเยียม

                   วันอังคารที่ 8 มกราคม 2551 ตื่นเช้าลูกๆไม่ยอมไปโรงเรียนบอกว่าลาครูประจำชั้นแล้วเนื่องจากจะไปส่งพ่อเดินทางกลับเบลเยียมและครูอนุญาตแล้ว ผมไปที่สสจ.ตากขอข้อมูลเตรียมทำวิทยานิพนธ์ กลับถึงบ้านตากก็ขึ้นไปทักทายพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ที่ห้องประกันสุขภาพ คุยกับหมอสุวิชัย พี่แจ๋ว พี่ตุ้ย พี่สีนวล กลางวันทานข้าวบ้าน หลังทานอาหารกลางวันแล้วนอนหนุนตักแม่อยู่พักหนึ่ง โทรคุยกับอาจารย์ทัศนีย์ เทียนทอง วันแรกที่กลับเมืองไทยผมโทรไปหาอาจารย์เพื่อสวัสดีและสอบถามสุขทุกข์กันและบอกว่าอาจไม่ได้ไปหา อาจารย์ทัศนีย์บอกผมว่ามีเวลากลับมาพักที่บ้านไม่มากนัก อย่าไปมัวนึกถึงคนอื่นๆ ให้อยู่กับครอบครัวให้มาก

                 พี่ตุ๋ยเอาน้ำพริกมาให้ ชัยกับกุ้งมารอส่งที่บ้านพัก สามโมงเย็นขับรถมอมแมมไปที่สนามบินสุโขทัยที่อยู่ห่างประมาณ 150 กิโลเมตร มีแม่ เอ้ แคน ขิม ขลุ่ยและเจ้าป้อมไปส่งด้วย ถึงสนามบินสี่โมงครึ่ง เช็คอินแล้วก็นั่งคุยกัน เจอพี่ช้าง (สุพัตรา ศรีวณิชชากร) มาบรรยายการบริการปฐมภูมิให้ สสจ.สุโขทัยและเจอคุณอุดร ตันติสุนทร ได้คุยกันสักพัก นพ (มานพ แสนเขียววงศ์) เพื่อนสนิทสมัยมัธยมก็มาส่งที่สนามบินพร้อมนำพระเครื่องและวัตถุมงคลของวัดคลองเขนง อำเภอศรีสำโรงมาให้ด้วย ขณะนั่งรถลำเลียงไปขึ้นเครื่องบินหันกลับไปพบภรรยาและลูกๆกำลังโบกมือให้ บนเครื่องบินมีเสิร์ฟอาหารเย็นเป็นผัดไทย อร่อยมาก ลงเครื่องบินที่สุวรรณภูมิรับกระเป๋าประมาณหนึ่งทุ่มครึ่ง

                 พี่อ้อ (ราเชนทร์ ทัพภวิมล อัยการประจำสำนักงานอัยการสูงสุด) ได้นัดกินข้าวเย็นที่สนามบิน เราเลือกร้านที่คนไม่มากนักชื่อTate café นั่งกินไปคุยกันไปหลายเรื่อง ทั้งงาน ครอบครัวและสุขภาพ พี่อ้อซื้อหนังสือ“ ชินบัญชร สวดมนต์อย่างไร ให้ใจเป็นสุข” ให้ผมเอาไปอ่านที่เบลเยียมและให้สวดชินบัญชรให้ได้ พี่อ้อเล่าเรื่องการเรียนรู้ภาษาอังกฤษจากเพลง ทำให้รู้จักวลีที่ใช้พูดกัน พี่อ้อชอบร้องเพลง ร้องเก่ง เล่นกีตาร์เก่งและชอบเล่นกีฬาโดยเฉพาะเทนนิส ผมเล่าให้พี่อ้อฟังว่าคนที่เล่นเทนนิสพออายุมากขึ้นกล้ามเนื้อแข็งแรงและยืดหยุ่นตัวน้อยลงอาจเป็นโรคปวดไหล่ ปวดหลังหรือเอวและปวดเข่าได้ง่าย

                   สี่ทุ่มผมเช็คอินที่แถวเอส เป็นสายการบินฟินแอร์ ลงต่อเครื่องที่เฮลซิงกิเพื่อสู่ปลายทางที่บรัสเซลส์ เป็นการเช็คผ่านตลอดจนถึงปลายทาง กระเป๋าสัมภาระหนัก 22 กิโลกรัม เกินที่กำหนดไป 2 กิโลกรัม ส่วนใหญ่ถ้าเกินไม่มากมักไม่มีปัญหา หลังเช็คอินแล้วก็เดินคุยกับพี่อ้อต่อสักพักก็แยกย้ายกัน ผมโทรศัพท์ไปคุยกับจุก (ศักดา ชูกลิ่น)แล้วผมเดินผ่านการตรวจพาสปอร์ตที่ประตูด้านทิศตะวันตก วีซ่าในพาสปอร์ตผมหมดอายุไปแล้วต้องใช้เรสิเดนซ์การ์ดแทน เราสามารถถือน้ำหรือเครื่องดื่มเข้าไปด้วยได้ แต่ผมก็ลืมไป ข้างในแพงกว่าเกือบสามเท่า เดินสำรวจดูร้านขายสินค้าปลอดภาษีแล้วก็ไปที่ประตูทางออกเอฟ3 (F3) เพื่อรอขึ้นเครื่องตอนเที่ยงคืนสิบนาที ผมมีความรู้สึกว่าการเดินทางครั้งนี้ผมมีความมั่นใจมากกว่าครั้งแรกมาก ก่อนขึ้นเครื่องผมใช้โทรศัพท์สาธารณะโทรกลับไปคุยกับภรรยาก่อนขึ้นเครื่องเติมเต็มกำลังใจส่งท้ายอีกรอบ

                  ขณะนั่งรอขึ้นเครื่องบิน ผมหวนคิดไปถึงวันที่ผมเข้าร่วมประชุมคณะกรรมการสถานศึกษา คณะครูและตัวแทนผู้ปกครองที่โรงเรียนอนุบาลรอดบำรุงเมื่อวันที่ 4 มกราคม ผมได้เห็นความมุ่งมั่นของผู้อำนวยการบุญกิ่ง ซิวตาวงศ์ที่พยายามดึงชุมชนเข้ามามีส่วนร่วม อยากให้มีชมรมศิษย์เก่า เตรียมการจัดทอดผ้าป่าเพื่อซื้ออุปกรณ์คอมพิวเตอร์เพื่อการศึกษา การจัดกิจกรรมวันเด็ก การแจกทุนการศึกษาและกิจกรรมการเรียนรู้นอกสถานที่โดยเฉพาะการนำเด็กนักเรียนให้ฝึกเป็นมัคคุเทศก์หรือยุวมัคคุเทศก์ที่อุทยานไม้กลายเป็นหินที่น้องแคนได้ไปร่วมด้วยและกลับมาเล่าให้พ่อกับแม่ฟังอย่างภาคภูมิใจ ใช้หลักการพัฒนาผู้เรียนโดยให้เด็กคิด เด็กทำ เด็กนำเสนอ ซึ่งเป็นไปตามหลักการเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ทำให้เด็กสนุกกับการเรียนที่ไม่ได้อยู่ในห้องเรียน บนกระดานดำและในตำราเท่านั้น จึงเป็นแบบเพลินหรือPlearn มาจาก Play + Learn น่าเสียดายที่การสนับสนุนทางด้านการศึกษาขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นไม่มากนัก อุปกรณ์สื่อคอมพิวเตอร์แค่สิบเครื่องสองสามแสนบาทหรือเครื่องดนตรีแค่สองสามหมื่นที่เสนอไปถูกตัดออก ในขณะที่จัดงานรื่นเริงวันลอยกระทงแค่สามสี่คืนหมดงบประมาณไปหลายล้านบาท การสร้างคนด้านการศึกษาและการซ่อมคนด้านสาธารณสุขยังคงเป็นความสำคัญอันดับหลังๆของการจัดสรรงบประมาณขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นไป

                  ผมอ่านหนังสือพิมพ์ คุณนิติภูมิ นวรัตน์ เขียนถึงเรื่องการพัฒนาอย่างก้าวกระโดดสู่ความรุ่งเรืองของประเทศจีนบนเวทีโลกเกิดจากปัจจัยหลัก 4 ปัจจัยคือหนึ่งรัฐบาลที่ทำเพื่อส่วนรวมไม่มีฝ่ายค้านมาทะเลาะด้วยจึงไม่ต้องเปลืองสมองมาเสียเวลาทะเลาะกัน สองการศึกษาที่มีคุณภาพ ค่าใช้จ่ายน้อย ทำให้คนจีนสามารถเข้าศึกษาได้ง่าย สามสื่อมวลชนทำหน้าที่เป็นแหล่งให้ความรู้ประชาชนได้อย่างดีและสี่การมีภาพพจน์และศักดิ์ศรีที่ดีในสายตานักลงทุน ระบบการศึกษาที่ไม่เป็นการค้าปริญญา รักษามาตรฐานทางการศึกษาไว้ได้ ทำให้ชาวเกาหลีใต้มาเรียนที่จีนเยอะมาก จบแล้วได้รับการยอมรับในการทำงานในเกาหลีได้โดยต้องสอบผ่านความชำนาญด้านภาษาอังกฤษ (Toefl) และสอบวัดความรู้ภาษาจีนกลาง(HSK

                    ที่เบลเยียม เรื่องการศึกษาของคนในประเทศ เขาถือเป็นเรื่องสำคัญอย่างมากที่ดูแลทั้งเขต (Region) และชุมชน (Community) ทั้งในส่วนกลางและส่วนท้องถิ่น หลักสูตรของเขาจัดให้คนเบลเยียมได้เรียนและพูดได้อย่างน้อย 3 ภาษาคือฝรั่งเศส ดัชท์และอังกฤษ มีการเรียนรู้ที่ฝึกให้คนของเขาได้เรียนรู้อย่างต่อเนื่อง ผมสังเกตว่าเด็กๆของเขาไม่ได้เรียนเฉพาะในโรงเรียนเท่านั้น ครูพาเด็กนักเรียนมาเรียนรู้ในสวนสาธารณะ เดินไปตามท้องถนน พาทัศนศึกษานอกสถานที่ ไม่มีการเรียนพิเศษเพื่อกวดวิชาแบบเร่งรัดเอาให้เข้ามหาวิทยาลัยได้ก็พอแบบบ้านเราที่เป็นธุรกิจที่มีมูลค่ามหาศาล  

                    โชคดีของคนไทย แม้ระบบราชการยังไม่ได้เห็นความสำคัญในเรื่องการศึกษาเพื่อพัฒนาคนมากนัก งบขุดสระ ทำถนน ทำเสาไฟริมถนนหรือจัดงานรื่นเริง มากกว่างบที่จัดสรรเพื่อการศึกษาและสาธารณสุข แต่องค์พระมหากษัตริย์ไทยและพระบรมวงศานุวงศ์ท่านได้ทรงเล็งเห็นคุณค่าของการศึกษาและด้านสาธารณสุขอย่างมาก

                    วันพุธที่ 2 มกราคม 2551 นับเป็นวันแห่งสูญเสียอันยิ่งใหญ่ของปวงชนชาวไทยอีกครั้งหนึ่ง ที่สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลป์ยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ทรงสิ้นพระชนม์อย่างสงบหลังจากที่เสด็จประทับรักษาพระอาการประชวร อาคารเฉลิมพระเกียรติ โรงพยาบาลศิริราช ตั้งแต่วันที่ 15 มิถุนายน 2550

                    สมเด็จพระเจ้าพี่นางฯทรงสนพระทัยและมีพระอัจฉริยภาพเป็นเลิศทั้งในด้านการอ่าน-เขียน การกีฬา การถ่ายภาพ ด้านศิลปวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์โบราณคดี ทรงสนพระทัยในสวัสดิภาพของประชาชนเป็นอย่างยิ่ง ทรงเสด็จเยี่ยมและพระราชทานพระอนุเคราะห์แก่ราษฎรผู้ยากไร้ในท้องถิ่นทุรกันดารมาโดยตลอดพระชนม์ชีพของพระองค์ ยังประโยชน์ให้ชาวไทยผู้อาศัยอยู่ในท้องถิ่นห่างไกลทุรกันดาร มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นอย่างมิทรงเห็นแก่ความเหน็ดเหนื่อย ดังจะเห็นได้จากโครงการในพระอุปถัมภ์หลากหลายโครงการทั้งด้านการแพทย์ การสาธารณสุข การศึกษา อาทิ มูลนิธิแพทย์อาสาสมเด็จพระศรีนครินทรา บรมราชชนนี (พอ.สว.) แห่งประเทศไทย, มูลนิธิส่งเสริมโอลิมปิกวิชาการ และพัฒนาการมาตรฐานวิทยาศาสตร์ศึกษา มูลนิธิโรคไตแห่งประเทศไทย มูลนิธิขาเทียมในพระบรมราชูปถัมภ์ มูลนิธิเด็กโรคหัวใจ เป็นต้น

                  กองทุนหมอเจ้าฟ้า คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ จัดตั้งในปี พ.ศ. 2527 เมื่อสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลป์ยาณิวัฒนา ได้เสด็จไปทรงบรรยายพิเศษหมอเจ้าฟ้าคือใคร หอประชุมใหญ่ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และมีผู้บริจาคเงินโดยเสด็จพระกุศลสมทบเริ่มต้นเพื่อจัดตั้งกองทุนขึ้นเพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณและเผยแพร่พระเกียรติคุณแห่งองค์สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก พระราชบิดาแห่งการแพทย์แผนปัจจุบันของไทยโดยตั้งชื่อกองทุนนี้ว่ากองทุนหมอเจ้าฟ้า สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ รับกองทุนไว้ในพระอุปถัมภ์เมื่อปี พ.ศ. 2529 และทรงมีพระเมตตาพระราชทานเงินจาก ทุนการกุศลสมเด็จย่า และ ทุนการศึกษา กว. เพื่อสมทบเข้ากองทุน เป็นประจำทุกปี กองทุนหมอเจ้าฟ้า นำดอกผลมาจัดสรรเป็นทุน 2 ประเภทคือกองทุนหมอเจ้าฟ้า 1 มอบให้อาจารย์แพทย์ไปศึกษาฝึกอบรมต่างประเทศมีผู้ได้รับทุนนี้แล้ว 24 ราย และกองทุนหมอเจ้าฟ้า 2 เป็นทุนอุดหนุนการศึกษาแก่นักศึกษาในสาขาวิทยาศาสตร์สุขภาพ 6 คณะ มีผู้ได้รับทุนนี้แล้ว 642 ทุน รายละเอียดศึกษาได้ที่ http://www.med.cmu.ac.th/etc/princefund/structure.php

                       มูลนิธิแพทย์ พอสว. เมื่อ 22 กุมภาพันธ์ 2512 สมเด็จพระบรมราชชนนีได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้จัดตั้งหน่วยแพทย์อาสาสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนีใช้ชื่อย่อว่า พอ.สว.” ขึ้นโดยเชิญชวนนายแพทย์ ทันตแพทย์ เภสัชกร และพยาบาลเข้ามาเป็นอาสาสมัคร เป็นหน่วยแพทย์อาสาเคลื่อนที่ในพระองค์เดินทางไปทำการรักษาพยาบาลผู้เจ็บป่วยในหมู่บ้านที่ห่างไกลทุรกันดาร ในปี 2517 สมเด็จย่าทรงพระราชทานเงินส่วนพระองค์ 1 ล้านบาท ตั้งมูลนิธิแพทย์อาสาสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ชื่อย่อว่า พอ.สว.”“The Prineess Mother’s Medicnl Volunteer F Foundation” จดทะเบียนที่กระทรวงมหาดไทย เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม 2517 เลขทะเบียน 802 มีสำนักงานใหญ่มูลนิธิที่วังสระปทุม ทรงเป็นองค์นายิกากิตติมศักดิ์ จวบจนเมื่อสมเด็จพระบรมราชชนนีเสด็จสวรรคต สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิ วาสราชนครินทร์ ทรงรับเป็นประธานกิตติมศักดิ์แทน ปัจจุบันมูลนิธิ พอ.สว ดำเนินกิจกรรมใน 51 จังหวัด ผู้สนใจสามารถศึกษารายละเอียดได้ใน http://www.geocities.com/medicalvolunteer/

                 ผมได้รับโอกาสที่ดีในชีวิตอย่างยิ่งสมัยเป็นนักศึกษาแพทย์ ผมได้รับทุนการศึกษาจากกองทุนหมอเจ้าฟ้าตั้งแต่ชั้นปี 1 จนจบการศึกษาได้เป็นแพทยศาสตรบัณฑิต และเมื่อเป็นแพทย์ได้ย้ายมาทำงานที่อำเภอบ้านตาก จังหวัดตาก ได้สมัครเป็นแพทย์อาสาสมัคร พอสว. ร่วมออกหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ห่างไกล ทุรกันดารในจังหวัดตากหลายครั้งจนครบ 30 ครั้ง ได้รับประทานโล่จากพระหัตถ์สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลป์ยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์เมื่อปี พ.ศ. 2548 ผมจำวันแห่งความปลาบปลื้มปีติของชีวิตนั้นได้ดีมาก วันนั้นมีผู้ที่ได้รับประทานโล่ 3 คน ผมเป็นคนแรกที่ได้เข้าไปรับเจ้าหน้าที่ผู้เชิญของประทานให้พระองค์ได้ส่งเป็นเหรียญประทานให้ผม พอทรงทราบได้ตรัสเรียกผมเข้าไปรับประทานโล่อีกครั้ง ทรงมีพระเมตตามาก ผมได้ตั้งปณิธานในใจไว้ว่าจะตั้งใจทำหน้าที่ของตนเองให้ดีที่สุดเพื่อแผ่นดินไทย ถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระองค์ท่าน

พิเชฐ  บัญญัติ, เวอร์บอนด์สแตรต 52, แอนท์เวิป, เบลเยียม,

10 มกราคม 2551, 19.25 น. (01.25 . เมืองไทย)

หมายเลขบันทึก: 158621เขียนเมื่อ 11 มกราคม 2008 01:37 น. ()แก้ไขเมื่อ 13 มิถุนายน 2012 16:26 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (5)

จังหวัด พอสว. ทั้ง 51 จังหวัด ประกอบด้วย

นครนายก ชลบุรี ฉะเชิงเทรา ปราจีณบุรี สระแก้ว ตราด จันทบุรี ระยองราชบุรี กาญจนบุรี เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ นครราชสีมา ชัยภูมิ บุรีรัมย์ สุรินทร์ ขอนแก่น เลย หนองคาย อุดรธานี สกลนคร หนองบัวลำภูอุบลราชธานี อำนาจเจริญ นครพนม มุกดาหาร ศรีสะเกษ ยโสธรตาก พิษณุโลก เพชรบูรณ์ น่าน อุตรดิตถ์ เชียงใหม่ เชียงราย พะเยา แม่ฮ่องสอน นครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี ชุมพร ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ สงขลา พัทลุง ตรัง สตูล ยะลา ปัตตานีและนราธิวาส

ต้องนับว่าเป็นบุญของคุณหมอนะคะ ที่ได้มีโอกาสรับใช้เบื้องยุคลบาท ดิฉันได้อ่านแล้วก็รู้สึกยินดีกับคุณหมอด้วยนะคะ ทั้งในด้านครอบดูคุณหมอก็มีความสุขตามอัตภาพ ด้านการงานก็ได้มีโอกาสรับใช้สังคม ส่วนดิฉันในฐานะคนไทยคนหนึ่ง ซึ่งอาจจะไม่มีโอกาสมากนัก อาจเป็นปัจจัยหลาย ๆ อย่าง แต่ดิฉันก็ได้ตั้งปนิธานว่า จะเป็นคนดีของสังคม และจะช่วยเหลือสังคมตามโอกาส และตามกำลังที่จะช่วยได้ และที่สำคัญจะใช้ชีวิตแบบ "พอเพียง"  ค่ะ

สวัสดีค่ะคุณหมอ

   วันนี้ ดิฉันกำลังจะเดินทางออกหน่วย พอ.สว.ค่ะ ที่ อ.สรีราชา จ.ชลบุรี เป็นสมาชิกมา ๒๗ ปีแล้ว วันนี้ ขอส่งกลอนที่แต่งประกอบภาพ ส่งเสด็จสู่สวรรคาลัย สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ มา ณ ที่นี้ค่ะ

 

........ส่งเสด็จสู่ สวรรคาลัย............

  สรวงสวรรค์บันเทิง บรรเจิดจ้า

ทิพย์สถานเทวาเปล่ง ราศี

ท่วงทำนองฆ้องสังข์ทั้ง ดนตรี

บรรเลงเพลงมโหรีกล่อม พระทัย

   ราชรถจรดลงส่ง เสด็จ

หยาดน้ำเพ็ชรโปรยละอองส่องแสง ใส

ผ้ากำพลปูลาดพระบาท ไป

ดวงหทัยพระพี่นางกระจ่าง จันทร์

  ก่อนเสด็จสู่พิมาน อลงกรณ์

ทรงอวยพรชาวไทยให้สุข สันต์

ถึงคราวต้องลาจาก..ฝาก เทวัญ

ช่วยปลอบขวัญ ปวงประชาอย่า กังวล

  สีเงินยวงแห่งเมฆามา ปรากฏ

ช่วยบังบด วิมานทองดั่ง ล่องหน

 หยาดน้ำตาข้าพระบาทสะกด ทน

ม่านมงคลลงกั้น สวร รคา.....

พลเดช  วรฉัตร................. ภาพ
บุญรุ่ง  ตันติราพันธ์............. ประพันธ์

สวัสดีครับ

ขอบคุณมากสำหรับบทกลอนที่มีคุณค่ายิ่งครับ ได้ตามไปอ่านในบล็อกด้วย เขียนถ่ายทอดได้ดีมากเลยครับ

นางสาวสาวิตรี โพธิ์แจ่ม

สวัสดีค่ะหนูชื่อนาวสาวสาวิตรี โพธิ์แจ่ม หนูอายุ16ปี หนูอยู่ จ.กำแพงเพชร หนูสนใจอยากเข้าร่วมโครงการ พอ สว.

แต่หนูอายุเท่านี้หนูสามารถสมัครเป็นสมาชิกได้ไหมค่ะ หนูอยากมีประสบการและอยากช่วยเหลือผู้อื่นบ้าง

คุณอาหมอมีคำแนะนำไหมคะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท