พัฒนาความรู้มุ่งสู่นักวิจัย 3 วันกับการฝึกการเขียนเรื่องเล่าของเยาชน+นักพัฒนาฝีมือสุดยอดหรือพูดให้น่าขำแมมมอส(ใครไม่ไปไม่รู้)มันคงจะไม่ง่ายนักที่ฝึก/พัฒนาตัวเองให้พูดกันรู้เรื่องกับนักพัฒนาหรือแม้แต่ชาวบ้านบางครั้งต้องใช้จิตวิทยา มันคงยังน้อยไป เมื่อเทียบกับพ่อ ๆที่ทำงานวิจัยมาทั้งชีวิต เรากับมีเวลาทำการเพียงแค่ 3 ปีกว่า เรื่องเล่าที่น่าประทับใจที่สุดของการสัมมนา การจัดการความรู้ของชาวรุ่น 5 คือ
1 การเดินทางที่สุดโต่ง เดินว่าเดินทางอ้อม มันก็จริง แต่การเดินทางอ้อมมันนำไปสู่การรู้จักอีกหลายจังหวัด
2 ในที่พักมีประโยคเด็ดที่น่าฟัง " ใครอาบน้ำอุ่นเหมือนไม่ได้มาน้ำหนาว เป็นประโยคที่ให้ชวนคิดน่าดู "
3 พี่ ๆ นักวิจัย/พัฒนากร/วิทยากร/พี่เลี้ยง หรืออะไรก็แล้วแต่ที่เรียกกัน การเดินทางครั้งนี้มันคุ้มค่าจริงๆยิ่งกว่าการเดินทางครั้งไหนๆทำให้เราสนิทกัน/คุ้นเคยกันหรือแม้แต่...ซึ่งมันเป็นครั้งแรกที่เดินทางคนเดียวที่คุ้มเกินคุ้ม
สุดท้ายอยากขอบคุณพี่แขก พี่หน่อยที่ห่วงใยคอยดูแลเอาใจใส่ ขอบคุณทีมพี่อรรณพที่ให้ความรักความอบอุ่นคอยหาอาหารให้ทาน คุณพูนสินที่รำวงนานจริงๆ แม่อร พี่ปรางค์ แม่สาคร พี่ตุ๊กตา พี่ต่าย(นางรำ รำสวยมาก) จริงๆอยากให้มาร่วมรำวงแต่ไม่เห็นหน้าเลยทั้งคืน พี่เปิ้ลพี่สาวที่น่ารัก ที่ชอบมั่วอยู่กลางวงรำวงด้วยกันกับน้อง และอยากบอกว่าพี่รำสวยแต่กลัวพี่หลงตัวเองเลยไม่ชมต่อหน้า พ่อพิบูลย์ที่มาส่งที่ขอนแก่น คุณสายัน พี่ประชา รู้แล้วนะศีลฟาดคืออะไร พี่สมใจ ชอบหาเมล็ดแปลกๆมาปลูก พี่วิน พ่อสมชัยแม่มนิตาที่ให้ซีดีมาดู พ่อเกริกที่บอกว่าต้นว่าน 30 เป็นยารักษา โรคมะเร็ง พี่ศาศวัตพูดน้อยมาก พ่อใหญ่จีระศักดิ์ขี้เมาหมดเหล้า 3 ไห ทีมทำอาหาร ทีมเจ้าบ้านอุทยาน พี่ที่อยู่หน้าด่านที่นั่งเป็นเพื่อนจนสว่าง พี่ปลัดที่ให้ข้อแนะนำแบบสุดยอดแล้วจะเอาไปใช้ อาจารย์ทวัส วิทยากรสุดหล่อ และเก่งจริง ๆ และคนอื่นๆที่จำชื่อไม่ได้อย่าน้อยใจหละ โทรมาหาได้เลยแล้วจะแก้/เพิ่มชื่อให้ ถึงแม้มันจะไม่พิมพ์ออกมาเป็นตัวอักษร แต่มันยังตราตรึงใจเสมอและตลอดไป ขอบคุณทุกคน
ไม่มีความเห็น