กาแฟโบราณ1
ภูมิปัญญาด้านโภชนา
กาแฟโบราณ 1
1. เรื่องที่ศึกษา กาแฟโบราณ
2. ที่ตั้ง บ้านเลขที่ 449 ตำบลแม่กลอง อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสงคราม
3. ประวัติความเป็นมา กาแฟหรือโกบี้ อยู่คู่กับคนไทยมานานนับร้อยปีแล้ว รวมกันกับเมล็ดกาแฟแท้ กาแฟโบราณนั้นไม่สามารถระบุได้ว่ามีต้นกำเนิดมาจากที่ไหน เมื่อใด แต่ถ้าถาม คุณตา คุณยาย พวกท่านจะบอกว่าเห็นมาตั้งแต่ท่านยังเด็ก ที่ร้านอาโกหรือตาเรือพายขายตามคุ้งน้ำ
4. องค์ความรู้ของเรื่องที่ศึกษา
ด้านสาระ กาแฟโบราณคือ กาแฟผสมไม่ใช่กาแฟแท้ 100% แบบกาแฟสด เกรด 1 กาแฟโบราณ 100% จะประกอบด้วย กาแฟคั่วที่เคลือบด้วยน้ำตาลผสมกับงา เกรด 2 กาแฟโบราณที่มีส่วนผสมแบบต่าง ๆ ประกอบด้วย ข้าวโพดคั่ว ข้าวคั่วเคลือบน้ำตาล และกาแฟเกรด 1
คุณค่า เริ่มต้นต้มน้ำ น้ำต้องเดือดมาก ๆ ยิ่งร้อนจะทำให้คั้นกลิ่นและรสชาดได้มากกว่าน้ำร้อนธรรมดา เวลาชงต้องมีไอน้ำออกมา ต้องเลือกกาแฟที่มีเนื้อกาแฟมาก ความหอมและรสชาดจะดีกว่า
ด้านการปฏิบัติ รถเข็น หม้อต้มน้ำ ชุดเตาแก๊ส แก้วน้ำสำหรับชงกาแฟ ถุงชง กระป๋องชง (สำหรับตักน้ำร้อน) ช้อนสำหรับคน แก้วพลาสติก ลังใส่น้ำแข็ง ผงกาแฟและเครื่องดื่มอื่น ๆ นมสด นมข้นหวาน น้ำตาลทราย
ด้านการจัดทำ
1. จัดเรียงอุปกรณ์ทั้งหมดใส่ในรถเข็น
2. นำน้ำใส่ในหม้อต้ม รอจนเดือด
การผลิต
1. นำผงกาแฟใส่ถุงชง ก่อนจะนำไปใส่ในกระป๋องชง วางไว้บนหม้อต้ม
2. เทนมข้นหวานลงในแก้วชง ก่อนจะตามด้วยน้ำตาลทราย และน้ำกาแฟที่ชงเรียบร้อยแล้ว
3. เทนมสดลงไปพอประมาณ
4. คนให้เข้ากัน ก่อนจะเทใส่ถุง หรือแก้วที่มีน้ำแข็ง จัดเรียงอุปกรณ์ทั้งหมดใส่ในรถเข็น
5. การสืบทอด
สาเหตุที่มาขายกาแฟเริ่มต้นจากการที่แม่สามีเคยมีอาชีพขายกาแฟมาก่อน และได้เลิกขายจึงยกกิจการให้ลูกชายเพื่อสืบทอดกาโบราณไม่ให้สูญหาย
6. ลักษณะของความรู้
- ความรู้ชัดแจ้ง (Explicit Khowledge)
+ เลือกกาแฟคั่วที่เคลือบด้วยน้ำตาลผสมกับงา
+ เลือกซื้อชาที่มีฉลากสีเขียวยี่ห้อตรามือ
+ น้ำควรใช้น้ำฝน ไม่ควรใช้น้ำประปา
_ ความรู้โดยนัย (Tacit Khowledge)
+ ปริมาณนมข้นหวาน และน้ำตาลทราย ขึ้นอยู่กับรสชาดที่ลูกค้าต้องการ
+ ต้องต้มน้ำให้เดือดมาก ๆ จะทำให้กลิ่นและรสชาดดี
+ วิธีชงกาแฟใส่ผงกาแฟ 3 ช้อนโต๊ะ ใส่น้ำ 2 กระบวย
+ คนให้กาแฟเข้ากัน
+ ควรใช้เตาถ่าน เพราะเตาถ่านจะให้ความหอมของถ่าน และเมื่อชงกาแฟจะทำให้กาแฟมีความหอมมากขึ้น
7. การพัฒนา สร้างสรรค์ ความรู้เพิ่มขี้น
นอกจากการขายกาแฟโบราณ อาจมีอย่างอื่นมาช่วยเสริมการขาย เช่น ขนมปังสังขยา โอวัลติน นมสดร้อน โกโก้ เนสกาแฟ น้ำหวานเฮลบลูบอย ฯลฯ
8. การดำเนินการเกี่ยวกับเรื่องนี้
+ ต้องเตรียมกาแฟคั่วที่เคลือบด้วยน้ำตาลผสมกับงา
+ ต้องเตรียมอุปกรณ์ เช่น หม้อต้มน้ำ ชุดเตาแก๊ส แก้วน้ำ ถุงชา ฯลฯ
+ ต้องเตรียมถุงกาแฟใส่ถุงชง ก่อนจะนำไปใส่ในกระป๋องชง วางไว้บนหม้อต้ม
9. ปัญหา อุปสรรค
ถ้าเป็นฤดูฝน ลูกค้าจะไม่ค่อยมีซึ่งจะทำให้รายได้ลดลง
การจำหน่าย
การทำกาแฟขายทำวันต่อวัน จะขายกาแฟ 2 รอบ รอบเช้า ตั้งแต่เวลา 05.30 –10.30 น. บริเวณหน้าห้างหุ้นส่วนจำกัดรวมทุน รอบเย็น ตั้งแต่เวลา 15.30 – 02.00 น. บริเวณหน้าวัดเพชรสมุทรวรวิหาร จำหน่ายเป็นกาแฟร้อน แก้วละ 8 บาท และถุง ถุงละ 8 บาทจำหน่ายเป็นกาแฟเย็น แก้วละ 10 บาท และถุง ถุงละ 10 บาท
การขายกาแฟนั้นต้องอาศัยสภาพอากาศด้วย ถ้าเป็นฤดูร้อนจะขายดีมีลูกค้ามากว่าฤดูอื่น ฤดูฝน ลูกค้าจะไม่ออกมาซื้อสินค้าทำให้รายได้ลดลง ส่วนฤดูหนาวนั้นกาแฟร้อนจะขายดีกว่ากาแฟเย็น แต่ขายสู้ฤดูร้อนไม่ได้เงินลงทุน ประมาณ 10,000 บาท
รายได้ ประมาณ 400 -1,500 บาท (ขึ้นอยู่กับทำเล)
เสน่ห์ของกาแฟโบราณ ก็คือความโบราณ ชงกับกระป๋องนม
คำสำคัญ (Tags): #กาแฟโบราณ1
หมายเลขบันทึก: 157067เขียนเมื่อ 2 มกราคม 2008 20:17 น. ()ความเห็น (2)
ชนิดาภา กวีสุทธิกุล
ถ้าเราจะซื้อกาแฟโบราณต้องใช้ยี่ห้ออะไรราคาประมาณเท่าไหร่ถึงจะหอม
ดีจังเลยนะครับที่มีการ โพสท์ เรื่องราว และขั้นตอนเกี่ยวกับกาแฟโบราณไว้เช่นนี้ นับว่าเป็นวิทยาทาน ที่เยี่ยมมาก ส่วนตัวก็กำลังจะเปิดร้านขายกาแฟโบราณอยู่พอดี แต่ไม่ทราบรายละเอียดอะไรเลย แฟรนชายส์ก็พบแต่ราคาสูงถึง 30,000.-เพิ่มอีกนิดหน่อยก็ได้ราคาเดียวกับการแฟสดแล้ว ผมก็กำลังหาที่เรียนอยู่เหมือนกัน ตามศูนย์ฝึกอาชีพของรัฐบาลลงทะเบียนไว้ ก็ประมาณ 3 เดือนจึงจะเรียก แต่เห็นเค้าว่า เรียนแค่ 2 วัน แต่ไม่รู้ว่าจะมีงบให้มาถึงคิวผมหรือเปล่า เฮ้อลุ้นมากเลย มีที่ไหนสอนที่ราคาไม่แพงบ้างมั้ยครับ