Proceedings มหกรรมจัดการความรู้แห่งชาติ ครั้งที่ ๒ (๒๘)_๒
อาจารย์สมควร
พรอยู่ศรี : โรงเรียนจิระศาสตร์วิทยา
พระนครศรีอยุธยา
กราบเรียนท่านผู้มีเกียรติทุกท่านที่เข้ามาร่วมกิจกรรมการจัดการเรียนรู้
โรงเรียนจิระศาสตร์วิทยา เป็นโรงเรียนเอกชนในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา
มีจำนวนนักเรียนทั้งหมด 4,000 กว่าคน มีบุคลากรทั้งหมด 306 ชีวิต
ผมจะเล่าประสบการณ์การเรียนการสอน
ในฐานะเป็นครูผู้สอนก็จะยกตัวอย่างวิชาที่สอนในเรื่องของการจัดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้
จังหวัดของเราเป็นจังหวัดที่มีแหล่งเรียนรู้มากมาย เป็นเมืองมรดกโลก
เพราะฉะนั้นเราเอาตรงนี้มาเป็นจุดยืนของเรา
การเรียนการสอนปกติแล้วเราจะมีทีม teaching ของแต่ละชั้น ชั้น ป.4
ก็จะมีทีม teaching ของ ป.4 ป.5 ก็จะมีทีม teaching
ของ ป.5 ป.6 ก็เช่นกัน
การดำเนินการครั้งแรกที่เราทำคือ เราจะเน้นชั้น ป.6 เรามีทีม teaching
เพื่อนำทีม
ซึ่งคุยกันก่อนว่าทำอย่างไรจึงจะให้เกิดการเปลี่ยนพฤติกรรมของเด็กให้เป็นคนเก่ง
เป็นคนดีและก็มีความสุขในการเรียน
เราคุยกันว่าจะบูรณาการสาระเน้นให้สอดคล้องกับสิ่งที่เรามีอยู่
แล้วก็ออกแบบการเรียนรู้ว่า จะออกแบบลักษณะแบบไหน ทุกคนในทีม teaching
ก็จะแสดงศักยภาพออกมาว่าคนนั้นคิดอย่างนั้น
คนนี้คิดอย่างนี้ มารวมกันก่อน
เพราะต่างคนก็ต่างคิดไม่เหมือนกัน
แล้วก็มาดูว่าความคิดของแต่ละคนก็ดีทั้งนั้น
เราก็มาดูว่าอันไหนที่เราสามารถปฏิบัติได้จริงจะมาคุยกันและออกแบบกัน
พอดีว่าเรามีศูนย์การเรียนรู้ของเรา
มีกลุ่มอาจารย์วิชาวิทยาศาสตร์ ศิลปะ คณิตศาสตร์
เราก็ออกแบบเป็นตัวการเรียนรู้
ให้ครูในแต่สาขาออกแบบเขียนการเรียนรู้แบบบูรณาการได้มา 4 ตัวความรู้
โดยตั้งเป็นฐาน จัดนักเรียนออกเป็นกลุ่ม
เราจะคุยกับนักเรียนก่อนว่า
เมื่อจะออกไปเรียนบทบาทของนักเรียนจะเป็นอย่างไร
และนักเรียนจะออกไปเป็นทีมเพื่อเรียนรู้ร่วมกัน
เรานำนักเรียนไปเรียนกันทีละ 3 ห้องเรียน โดยจัดแบ่งจำนวนคนให้เท่าๆ
กัน คือคละกันหมด ตัวที่ 1 เลือกประมาณ 20 คน
ใน 20 คนนี้ก็จะแบ่งออกเป็นกลุ่มย่อย 5 กลุ่ม
แต่ละกลุ่มก็ประจำตามฐานที่เราตั้งวัตถุประสงค์ไว้ในส่วนของการเรียนรู้
นักเรียนก็จะไปศึกษา ช่วยกันทำงาน ปรึกษากันเป็นทีมของเขา
เมื่อเสร็จตรงนั้นแล้ว นักเรียนกลุ่มฐานที่ 1
ก็จะได้นำเสนอความรู้ที่เขาได้ เพราะต่างคนก็ได้ไม่เหมือนกัน
เสนอแนวคิดหรือความรู้ที่ได้ share กันในกลุ่ม อันนี้คือ ตัวที่
1
ตัวที่ 2
เราจะไม่มีการหมุนฐาน เราจะเรียนไปเลย ตัวที่ 2
เราจะแยกออกเป็นอีกกลุ่มหนึ่ง ฐานนี้เรามองดูว่า
ในส่วนของเรามีเพื่อนๆ มากมาย
ทำยังไงถึงจะนำเพื่อนมาช่วยประดิษฐ์ เป็นอะไรก็ได้
ให้นักเรียนออกแบบ มีการออกแบบ มีการประดิษฐ์
ซึ่งจะมีเรื่องของสมุนไพร ซึ่งมีหลากหลาย
เพื่อให้นักเรียนศึกษาต่อ
เมื่อศึกษาเสร็จแต่ละกลุ่มก็จะนำชื่อสมุนไพรมาทำเมนูอาหาร
เราอยากทำเมนูอาหารเป็นอย่างนี้
แล้วก็ให้นักเรียนปฏิบัติต่อไป บางคนก็ทำเป็นสมุนไพรชุบแป้งทอด
บางคนก็ทำเป็นรูปของน้ำผลไม้
อีกกลุ่มหนึ่งก็จะเกี่ยวกับบริเวณสถานที่มีต้นไม้
นักเรียนก็จะทำเป็นฐานต้นไม้พูดได้
นักเรียนจะแบ่งกลุ่มของตัวเอง
แต่ละกลุ่มจะสนทนาเป็นภาษาอังกฤษ เขาจะคิดเอง ทำเอง
แต่งบทสนทนากันเอง จะมีการแสดงให้ชม ให้ฟังกันในกลุ่ม
เมื่อเสร็จสิ้นกระบวนการเรียนรู้ทั้งหมดแล้ว
จะให้นักเรียนเข้าห้องประชุมใหญ่
ตัวแทนแต่ละกลุ่มออกมานำเสนอผลงานให้กลุ่มทั้งหมดฟัง คือทั้ง 3
ห้องเรียนได้ฟัง ได้ share ความรู้กัน
ทำให้เรารู้ว่าเด็กของเรามีศักยภาพ เด็กของเราเก่ง
มีความภูมิใจทำให้เด็กกล้าแสดงออกมาก โรงเรียนของเรามีทั้งหมด
11 ห้องเรียน จะฝึกเหมือนกัน คือ ไปเรียนทีละ
3 ห้อง
ซึ่งทั้งหมดนี้เราใช้ฐานกระบวนการเรียนรู้ทุกรูปแบบทั้งศิลปะ
วิทยาศาสตร์ และคณิตศาสตร์
ซึ่งเราใช้ชื่อของโรงเรียนตั้งชื่อเป็นฐานของการเรียนรู้ทั้งหมด
อาจารย์จีรัฐกาล
พงศ์ภคเธียร: โรงเรียนสัตยาสัย ลพบุรี
สวัสดีท่านผู้มีเกียรติทุกท่าน
โรงเรียนสัตยาสัยตั้งอยู่ที่อำเภอชัยบาดาล จังหวัดลพบุรี
เป็นโรงเรียนประจำที่สอนตั้งแต่ระดับชั้นอนุบาลจนถึง ม.6
โรงเรียนสัตยาสัยจะเน้นการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนที่ทำให้ส่วนดีๆ
ให้ตัวเด็กเกิดการพัฒนา โดยครูจะต้องเป็นตัวอย่างที่ดี
ครูทำได้เด็กก็จะทำตาม
ประกอบกับครูต้องมีความรักความเมตตาความปรารถนาดีให้กับเด็ก
เพราะเวลาที่เด็กเขารู้ว่าเรารักเขา จะแสดงกิริยาท่าทางออกมา
จะสื่ออารมณ์จากจิตใจของเด็กได้
เหมือนกับเรารักใครสักคนก็ต้องอย่าทำให้เขาเสียใจ
ทำให้เขามีความสุข การจัดการเรียนการสอนหรือจัดกิจกรรมอะไร
ต้องคำนึงถึงว่ากิจกรรมเหล่านั้นจะทำให้เด็กดีขึ้น ตั้งใจ
หรือว่ามีการพัฒนาอย่างไรบ้าง
เราก็จัดการเรียนรู้โดยคำนึงถึงวัยของเขา
เพื่อให้เขารู้สึกสนุกสนานในสิ่งที่เราจัดไว้ให้
เคยสอนวิชาคุณค่าความเป็นมนุษย์
ซึ่งเป็นวิชาหลักของโรงเรียนที่จะให้นักเรียนเป็นวิชาแรก
ตอนนี้เอาเด็ก ม.4-5 มารวมกัน
เพราะว่าเราเพิ่งเปิดสอนมาเป็นปีแรก
เด็กยังน้อยเลยเอามาเรียนรวมกัน
และเป็นช่วงเปิดเทอมใหม่เด็กเข้ามาอยู่ใหม่ซึ่งยังไม่เข้าใจและรู้จักกันเท่าไร
เรายังนึกว่าควรจะให้เด็กๆ
รู้จักกันไว้ให้ดีว่าแต่ละคนมีสิ่งดีอะไรในตัวบ้าง
ความสามารถอะไรในตัวเราก็เลยจัดกิจกรรมที่อยู่ร่วมกัน คือ
แบ่งปันความสามารถพิเศษหรือความถนัดเฉพาะตัวของตัวเองมาให้กับเพื่อนๆ
ได้รู้ ทุก ๆ
วันเด็กจะผลัดกันนำเอากิจกรรมความสามารถพิเศษมาแสดงให้เพื่อนๆ
ได้ดูกัน อย่างเช่น บางคนเล่นเปียโนเก่ง
เขาก็จะเล่นเปียโนให้เพื่อนๆ ฟัง
บางคนเขาชอบศิลปะหรือวาดการ์ตูนเก่ง
เขาก็จะมาวาดรูปการ์ตูนให้เพื่อนดูพร้อมกับสอนเพื่อนและแจกกระดาษให้วาดตาม
หรือบางคนสนใจเกี่ยวกับเครื่องเปียโน
เขาก็จะมาอธิบายเกี่ยวกับเครื่องเปียโนรุ่นต่าง ๆ ให้เพื่อน
ๆ ฟัง ซึ่งสังเกตดูว่าเวลาเขาออกมาพูดอะไรให้ฟัง
มาแสดง เขาจะสนใจมากและตั้งอกตั้งใจฟัง
รวมทั้งร่วมกิจกรรมร่วมกันได้เป็นอย่างดี
หลังจากนั้นก็สังเกตว่าเด็กชั้น ม.4-5 ซึ่งเรียนรวมกัน
พบว่า มีความรักใคร่สนิทสนมกันมาก มีอะไรก็ช่วยเหลือเกื้อกูลกัน
บางทีรุ่นน้องก็ขอให้รุ่นพี่ช่วยติววิชาให้
หรือบางทีรุ่นพี่ก็ให้รุ่นน้องสอนเปียโนให้
ทำให้เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้กันเอง
ซึ่งเราแทบจะไม่ต้องทำอะไรมากมาย
หลังจากนั้นก็พบว่าหลังจากทำกิจกรรมแล้วก็พบว่าทำให้เขาได้รู้จักตัวเองมากขึ้น
จากที่เคยเป็นเด็กเงียบๆ
กลายเป็นเด็กกล้าแสดงออกคอยช่วยเหลือคนอื่นได้ดีขึ้น
หลังจากที่หลายๆ คนที่มาแสดงความสามารถหรือว่าความสนใจของตัวเอง
ก็พบว่าสามารถต่อยอดไปจนถึงเข้าระดับอุดมศึกษา
หรือว่าเด็กที่สอนวาดการ์ตูนก็สามารถสอบเข้าคณะมัณฑนศิลป์ของมหาวิทยาลัยดังๆ
ได้ ทำให้เราได้เห็นว่ากิจกรรมตรงนี้มันทำให้เกิดอะไรหลายๆ
อย่างในตัวเด็กคนนั้นเอง
อาจารย์ทองดี
แย้มสรวล: โรงเรียนคณะราษฎร์บำรุง
จังหวัดปทุมธานี
ขอบพระคุณมากครับ
ผมเองเป็นครูต้นแบบสอนในระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย
สอนวิชาฟิสิกส์ ประสบการณ์การสอนก็ 20 ปีแล้ว
ตัวผมเองสอนอยู่ในโรงเรียนคณะราษฎร์บำรุง ปทุมธานี
โรงเรียนนี้มีจุดเด่นพิเศษก็คือ เรื่องของสิ่งแวดล้อม
เป็นโรงเรียนที่ติดอยู่กับริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา
เชื่อว่าเป็นโรงเรียนแห่งหนึ่งที่มีทัศนียภาพสวยงามมาก
แต่ไม่มีแนวคิดในเรื่องของการใช้เวลากับสิ่งแวดล้อม
ตัวผมเองก็มาจับในเรื่องของสิ่งแวดล้อมต่างๆ กับนักเรียน
แต่แน่นอนไม่ได้อยู่ในห้องเรียน เป็นกิจกรรมนอกหลักสูตร
ที่ผมทำมา 15 ปีแล้ว จากประสบการณ์ในเรื่องของสิ่งแวดล้อม
เกี่ยวกับแม่น้ำเจ้าพระยา จริงๆ
แล้วต้องการปลูกฝังนักเรียนเพื่อให้เขาเกิดความตระหนักในเรื่องของสิ่งแวดล้อม
โดยยกตัวอย่างของเราเองเพื่อที่จะกระตุ้นให้เด็กเกิดจิตสำนึก
ต่อมาก็ได้จัดกิจกรรมต่างๆ มากมาย
ผมขออนุญาตยกตัวอย่างกิจกรรมที่ได้มีโอกาสทำ เช่น
โครงการเรารักเจ้าพระยา อาสาสมัครพิทักษ์เจ้าพระยา อนุรักษ์ป่าไม้
สำรวจคุณภาพน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา ยุวเนตรนารีอาสา เด็กไทยทำดี
รายงานภาวะสิ่งแวดล้อม หรือโครงการน้ำใสทั่วไทยถวายพระราชินี
เราทำกิจกรรมค่อนข้างเยอะ โครงการต่างๆ
ก็จะมีกิจกรรมค่อนข้างที่จะเยอะอยู่ทีเดียว
เป็นลักษณะกิจกรรมย่อยๆ กิจกรรมในวันแรกๆ
จะทำเป็นลักษณะกิจกรรมชุมชนซึ่งปกติจะอยู่ในกระทรวงศึกษาธิการ
แต่เราเป็นชุมชนอนุรักษ์พิทักษ์สิ่งแวดล้อม
ผมสอนฟิสิกส์แต่ว่ามาทำกิจกรรมในเรื่องของสิ่งแวดล้อม
เริ่มต้นก็หัดทำกิจกรรมกับนักเรียนไม่กี่คนแต่ด้วยเห็นว่าก่อให้เกิดกระบวนการเรียนรู้กับตัวนักเรียนเอง
ที่สำคัญก็คือกระบวนการเรียนรู้ในการทำงาน
และเป็นกระบวนการที่ทำงานร่วมกันไม่ว่าจะเป็นในเรื่องระดับเดียวกันหรือระดับที่เป็นลูกน้อง
หรือเป็นรุ่นที่พูดง่ายๆ ว่ามีการทำงานร่วมกันจากจุดตรงนี้
จากการทำงานร่วมกันเมื่อทำไปเรื่อยๆ
จะมีเพื่อนคุยเข้ามาร่วมงานมากขึ้น
เราก็เริ่มที่จะทำงานร่วมกับชุมชน จากโรงเรียนสู่ชุมชน
เมื่อเราทำงานนานขึ้นมีประสบการณ์มากขึ้น
เกิดกิจกรรมที่ก่อให้เกิดการเรียนรู้มากขึ้น
เราก็เริ่มมีเครือข่าย เราเคยจะนำเครือข่าย
เช่นที่ลุ่มน้ำพอง ที่นั่นจากลุ่มน้ำเจ้าพระยาไปสู่ลุ่มน้ำพอง
ซึ่งผู้ใหญ่ก็ได้เปิดโอกาสให้เราทำเครือข่าย
รวมทั้งได้ทำเครือข่ายโรงเรียนที่อยู่ใกล้ๆ กับคลองแสนแสบ
หรือคลองดำเนินสะดวก
เมื่อมีโอกาสที่จะแลกเปลี่ยนประสบการณ์ตรงนี้ระหว่างครูกับชุมชน
ต่างความคิด ต่างถิ่น โดยนำเอาความรู้มาแลกเปลี่ยนกัน
และเราได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐและเอกชน
ซึ่งจุดนี้ถือว่าเป็นจุดที่เราเองพยายามทำตรงนี้
พยายามทำให้เกิดการเรียนรู้กับหลาย ๆ กลุ่ม
ในเวลาที่จำกัดก็อยากสรุปรูปแบบการเรียนรู้ของผมที่ได้ทำมา 6
รูปแบบจากการทำกิจกรรมมาประมาณ 15 ปี
ในเรื่องของสิ่งแวดล้อม คือ หนึ่ง
เรามีการเรียนรู้ในสภาพจริงและเป็นการเรียนรู้นอกสถานที่
ตรงนี้ถือว่าเป็นจุดหลักซึ่งเด็กเองจะได้รู้และชอบที่จะเรียนรู้ในลักษณะที่อิสระจริงๆ
สอง เด็กเองได้เรียนรู้ในลักษณะเป็นการเสาะหา
แสวงหาความรู้ด้วยตนเอง
ได้ค้นพบองค์ความรู้ด้วยตนเองในลักษณะที่เราบอกว่าเป็นลักษณะอควาเรียม
นอกจากนั้น
การเรียนรู้มีลักษณะการเรียนรู้ในประเด็นที่สาม
การเรียนรู้แบบร่วมไม้ร่วมมือ
เขาจะเรียนรู้แบบการเรียนรู้ร่วมกันและก็เป็นการถ่ายทอดความรู้ของกลุ่มจากรุ่นพี่สู่รุ่นน้อง
ทำมาหลายรุ่นมาก การเรียนรู้นี้จะแฝงไปด้วยประเด็นที่สี่
การเรียนรู้อย่างมีความสนุกสนานตามกระบวน การต่างๆ
ไม่ว่าจะเป็นเกมส์หรือเป็นการเล่าเรื่องและก็การทำกิจกรรมรวมกัน
การเรียนรู้ที่เกิดขึ้นในประเด็นที่ห้า
เป็นรูปแบบก็คือเป็นเรื่องที่เราให้ความสำคัญมากๆ
คือการพัฒนาทักษะการวิเคราะห์และคิดอย่างมีสติปัญญา เช่น
เมื่อนักเรียนสำรวจคุณภาพน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา
ข้อมูลที่ได้จะเป็นข้อมูลมวลดัชนีชี้วัดว่าคุณภาพน้ำ ณ
เวลานี้เป็นอย่างไร
และก็ไปทำการคิดว่าจะทำกิจกรรมอะไรต่อเนื่องอะไรดี เช่น
กิจกรรมขยะแลกของใช้ กิจกรรมหลายๆ อย่าง
แล้วแต่นักเรียนคิดอะไรขึ้นมา
สุดท้ายการเรียนรู้ที่ใช้ทักษะกระบวนการและใช้ความรู้ในหลายๆ วิชา
หลายๆ
กลุ่มสาระการเรียนรู้เข้ามาทับในภาพรวมของการเรียนรู้ทั้งหมดทุกวันนี้เราได้รับความร่วมมือจากตัวเอง
ตัวครู ตอนนี้ก็มีคุณครูเข้ามาช่วยทำงานตรงนี้มากยิ่งขึ้น
จากเดิมแค่คนสองคนตรงนี้ก็มีคุณครูเข้ามาช่วยและก็เกิดการเรียนรู้
และต่อยอดกันไปจำนวนมาก
ไม่มีความเห็น