ทุกสิ่งทุกอย่างในโลกนี้ จะมีประโยชน์...หรือไม่มีประโยชน์ ขึ้นอยู่กับมุมมองและการนำไปใช้ เช่น พิษของงู ถ้ามองในด้านไม่ดี...มันก็คือยาพิษอย่างหนึ่ง แต่ถ้าเปลี่ยนมุมมอง เพื่อให้เกิดประโยชน์ก็สามารถนำมาสกัดเซรุ่มเพื่อรักษาคนถูกงูกัดได้
ผมจึงเห็นด้วยว่าบางครั้งการทะเลาะกันบ้าง ก็ก่อให้เกิดประโยชน์ แต่จะเกิดประโยชน์มากหรือน้อยขึ้นอยู่กับตัวบุคคล หากมีการโต้แย้งกันด้วยเหตุผล โดยมีอารมณ์...อคติ...อัตตา...เจือปนอยู่น้อย ก็ย่อมที่จะก่อให้เกิดประโยชน์อย่างมากในการทำงาน เพราะจะได้รับฟังความคิดเห็นและมุมมองที่หลากหลาย...ที่สำคัญทุกฝ่ายต้องพร้อมที่จะรับฟังเหตุผลคนอื่นด้วยเช่นกัน...เพราะเมื่อไหร่ก็ตาม...หากเริ่มมีประเด็นที่แตกต่างทางความคิด...และมีการโต้แย้งเกิดขึ้น...หากมีฝ่ายใดที่ยึดมั่นว่าความคิดของตนเองถูกต้องที่สุด...การทะเลาะนั้นก็คงไม่ก่อให้เกิดประโยชน์อันใดเลย
สำหรับสังคมไทย...ยังเป็นเรื่องยากน่ะครับ...ที่จะเกิดประโยชน์จากการโต้แย้งหรือทะเลาะ...เพราะวัฒนธรรมของสังคมไทย ไม่ได้เป็นเช่นนั้น เรามีวัฒนธรรมเคารพผู้อาวุโส พูดจากันด้วยความสุภาพ ลองนึกเหตุการณ์ดูน่ะครับ...ถ้าในการประชุม คุณเป็นพนักงานระดับอาวุโส กำลังเสนอความคิดเห็นต่อหัวหน้า และมีพนักงานใหม่หรือรุ่นน้องโต้แย้งว่า...ความคิดของเราไม่ถูกต้อง...จะมีสักกี่คนที่จะยอมรับเรื่องเหล่านี้ได้...โดยไม่มีอคติกับรุ่นน้องคนนั้น
ดังนั้นสิ่งที่ดีที่สุด...หากคุณจะโต้แย้งความคิดเห็นกับใคร...คุณควรจะมีศิลปในการนำเสนอ...ไม่ให้ผู้ถูกโต้แย้งเสียหน้าและมีทางถอยให้เขาด้วย...เพราะคนไทย...หน้าตาคือสิ่งสำคัญที่สุด ลองดูจากวัฒนธรรมการจัดงานของคนไทยก็ได้ครับ จัดงานบวช งานแต่งงานกันยิ่งใหญ่มาก...เพราะว่าอะไร เพราะว่าหน้าตาเป็นสิ่งสำคัญสำหรับคนไทยส่วนใหญ่
เพราะฉะนั้น...อาจจะต้องใช้เวลาอีกสักระยะหนึ่ง...ที่การทะเลาะกัน...จะก่อให้เกิดประโยชน์ที่แท้จริงในสังคมไทย...แต่ไม่ได้หมายความว่าเราไม่ควรจะโต้แย้งความคิดเห็นของใครน่ะครับ...แต่ขอให้โต้แย้งอย่างมีศิลปและให้เกียรติผู้ร่วมสนธนา...แล้วคุณจึงจะได้รับประโยชน์จากการทะเลาะหรือโต้แย้งอย่างแท้จริง