เวทีแลกเปลี่ยนเทคนิคการจัดการเรียนรู้ของเพื่อนครู


เชิญชวนคุณครูใช้เวทีนี้ เล่าเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยในการจัดการเรียนรู้ที่ตนประสบผลสำเร็จและภาคภูมิใจ อย่างย่นย่อ เพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้ เป็นวิทยาทานแก่กันและกันครับ
วันนี้ผมได้คุยกับ “ครูลำพอง จันทร์ถาวร” ครูชำนาญการพิเศษ(ด้านการสอนคณิตศาสตร์ชั้นประถมศึกษา) โรงเรียนวัดบางไกรนอก จังหวัดนนทบุรี เธอเป็นครูคณิตศาสตร์ดีเด่น(หลายรางวัล) ครูมาตรฐานการสอนดีเด่น ข้าราชการดีเด่น ครูดีในดวงใจ ฯลฯ และทำให้นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนคณิตศาสตร์สูงขึ้นทุกปี
ครูลำพองเล่าประวัติให้ฟังว่า ตอนเด็กเรียนหนังสือไม่เก่ง เกลียดวิชาคณิตศาสตร์เข้ากระดูกดำ และไม่ชอบเป็นครู แต่เมื่อสอบตกชั้นม.ศ.5 ได้กลับมาอยู่ที่บ้าน จับพลัดจับผลูถูกขอร้องให้มาเป็นครูช่วยสอนและสอบชุดครู พ.กศ.และ พ.ม.ได้ทั้ง 5 ชุด แต่เลี่ยงไม่สอบวิชาคณิตศาสตร์สอบบรรจุได้เป็นครูที่นี่
ถูกบังคับให้สอนคณิตศาสตร์ เพราะไม่มีครูสอน ทุกข์ใจอย่างมาก แต่เมื่อเลี่ยงไม่ได้ จึงศึกษาคู่มือครู ศึกษาหาความรู้ด้านคณิตศาสตร์อย่างจริงจัง ตอนแรกก็สอนแบบลองผิดลองถูก แล้วปรับปรุงพัฒนาไป แต่เนื่องจากเป็นคนช่างสังเกต ชอบประเมินตนเอง โดยไม่โทษเด็ก พบปัญหาก็นำมาวิเคราะห์สาเหตุ แล้วหาทางแก้ ด้วยความเอาใจใส่ ในที่สุดก็ประสบผลสำเร็จเป็นครูดีเด่นดังกล่าวข้างต้น
ครูลำพองบอกเทคนิคการสอนคณิตศาสตร์ชั้นประถมศึกษาไว้ว่า ต้องทำให้ผู้เรียน“สมองเปิด” ก่อน คือต้องมีสมาธิก่อนเรียน จึงจะตั้งใจเรียนและเรียนรู้เรื่อง วิธีทำให้สมองเปิดคือการให้เด็กร้องเพลงบ้าง ปรบมือบ้าง เล่นเกมบ้าง ฯลฯ จะใช้เวลาไม่เกิน 5 นาที วิธีสอนที่นิยมใช้คือ การให้เรียนแบบร่วมมือ (Cooperative Learning) โดยแบ่งกลุ่มนักเรียนแบบคละความสามารถ กลุ่มละ 5-6 คน ครูจะอธิบายให้นักเรียนเข้าใจอย่างชัดเจนแล้วจึงให้ทำแบบฝึกหัด โดยให้เรียนแบบร่วมมือช่วยกัน ด้วยบรรยากาศที่สนุกสนาน ครูคอยสังเกตไม่ให้นักเรียนเบื่อหรือเครียด จะคอยปรับเปลี่ยนกิจกรรมบ่อยๆ ที่สำคัญคือต้องรักเขา อดทน ดูแลเอาใจใส่ช่วยเหลือเขาตามจริตตามอาการอย่างทั่วถึง ถ้าคนใดเรียนไม่ทันเพื่อนก็จะสอนเสริมให้ในช่วงเช้าก่อนเรียน หรือตอนพักกลางวัน เทคนิคการสอนก็มีแค่นี้
ครูลำพองกล่าวในตอนท้ายว่า “ทุกวันนี้ครูเราชอบให้นักเรียนทำโครงงานแต่ผลงานออกมาเป็นแค่รายงานที่มีแต่ข้อมูล โดยไม่มีการให้นำข้อมูลมาวิเคราะห์ สังเคราะห์ หรือจัดหมวดหมู่จัดประเภทต่อ   แล้วจะเรียกว่าสอนให้เด็กคิดวิเคราะห์ได้อย่างไร “
หมายเลขบันทึก: 15624เขียนเมื่อ 15 กุมภาพันธ์ 2006 21:35 น. ()แก้ไขเมื่อ 21 มิถุนายน 2012 17:21 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (7)

อยากให้เอาเคล็ดลับเล็กๆ น้อยๆ ในการจัดการเรียนรู้ มา ลปรร. ครับ

วิจารณ์ พานิช

ท่านที่อ่านเทคนิคการจัดการเรียนของครูลำพองแล้ว  ท่านเองอาจมีเทคนิคที่ดี หรือมีเคล็ดลับเล็กๆน้อยๆที่ดีในการจัการเรียนรู้ จึงอยากเชิญชวนให้มาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ (ลปรร.)ดังที่ท่าน ศจ.นพ.วิจารณ์ พานิช เสนอแนะครับ...
ผมไปประเมินวิทยฐานะครูที่โรงเรียนวัดเขมาภิรตาราม ก็พยายามใช้กระบวนการ KM ให้ครูเล่าเรื่องความสำเร็จและได้ดูเอกสารผลงานเขาด้วย  ผมพบครูหลายคน(ไม่อยากเอ่ยชื่อเพราะเดี๋ยวคนอื่นที่ทำดีเหมือนกันจะน้อยใจ) มีความกล้าหาญชาญชัย และใจกว้าง โดยให้นักเรียนเขียนประเมินตนเองอย่างอิสระ ไม่ต้องลงชื่อ บอกถึงความรู้สึก ความเห็น และสิ่งที่เขาอยากให้ครูปรับเปลี่ยนโดยบอกกับเด็กว่าจะไม่โกรธหรือตำหนิใดใดทั้งสิ้น และรู้สึกขอบใจด้วยซ้ำที่ให้ข้อมูลครู  มีครูคนหนึ่งท่านบอกว่าท่านมีข้อมูลนักเรียนทุกคนในห้องทุกแง่ทุกมุม ท่านจะหาทางดูแลช่วยเหลือนักเรียนทุกวิถีทาง โดยเฉพาะการประสานกับผู้ปกครอง โทรศัพท์ถึงกันตลอดจนผู้ปกครองไว้วางใจ ดึกดื่นเที่ยงคืนผู้ปกครองก็โทรมาปรึกษาเกือบทุกเรื่อง เช่นทะเลาะกับลูกก็ขอให้ครูช่วย ลูกไม่ยอมกลับบ้านก็ขอให้ครูช่วยตามให้ ฯลฯ และครูคนนี้แกก็กัดไม่ปล่อยจริงๆ เอาจริงเอาจัง จนเด็กยอมสยบ  ด้วยความเก่งของท่าน โรงเรียนจึงให้เป็นครูที่ปรึกษาห้องที่เกเรที่สุด ...ลองนึกภาพดูซิว่า ครูผู้หญิงคนเดียว กล้าทำถึงขนาดนี้แล้วผลการประเมินจะเป็นอย่างไร...ผลปรากฎว่า เด็กส่วนใหญ่จะเขียน(ตามภาษาเด็ก) มีสาระทำนองว่า "แรกๆไม่ชอบครูเลยที่รู้เรื่องของตัวเองไปเสียทุกอย่าง ฉลาดเป็นกรด ทำอะไรผิดไม่เคยรอดสายตา ยิ่งกว่า FBI เสียอีก ใจกล้าบ้าบิ่นอีกต่างหาก ตอนนี้รู้ตัวแล้วว่าถ้าไม่มีคุณครูคอยทำอย่างนี้ ชีวิตตัวเองจะหลงผิดเป็นอะไรไปแล้วก็ไม่รู้ จึงรู้สึกขอบคุณและรักคุณครูมากเลย" นี่แหละครูมืออาชีพจริงๆ ถ้าผมมีอำนาจให้วิทยฐานะเชี่ยวชาญพิเศษ(ระดับ 10-11เดิม)ผมจะให้ครูคนนี้โดยไม่ลังเลใจเลย
ผมไปประเมินวิทยฐานะครูที่โรงเรียนวัดเขมาภิรตาราม ก็พยายามใช้กระบวนการ KM ให้ครูเล่าเรื่องความสำเร็จและได้ดูเอกสารผลงานเขาด้วย  ผมพบครูหลายคน(ไม่อยากเอ่ยชื่อเพราะเดี๋ยวคนอื่นที่ทำดีเหมือนกันจะน้อยใจ) มีความกล้าหาญชาญชัย และใจกว้าง โดยให้นักเรียนเขียนประเมินตนเองอย่างอิสระ ไม่ต้องลงชื่อ บอกถึงความรู้สึก ความเห็น และสิ่งที่เขาอยากให้ครูปรับเปลี่ยนโดยบอกกับเด็กว่าจะไม่โกรธหรือตำหนิใดใดทั้งสิ้น และรู้สึกขอบใจด้วยซ้ำที่ให้ข้อมูลครู  มีครูคนหนึ่งท่านบอกว่าท่านมีข้อมูลนักเรียนทุกคนในห้องทุกแง่ทุกมุม ท่านจะหาทางดูแลช่วยเหลือนักเรียนทุกวิถีทาง โดยเฉพาะการประสานกับผู้ปกครอง โทรศัพท์ถึงกันตลอดจนผู้ปกครองไว้วางใจ ดึกดื่นเที่ยงคืนผู้ปกครองก็โทรมาปรึกษาเกือบทุกเรื่อง เช่นทะเลาะกับลูกก็ขอให้ครูช่วย ลูกไม่ยอมกลับบ้านก็ขอให้ครูช่วยตามให้ ฯลฯ และครูคนนี้แกก็กัดไม่ปล่อยจริงๆ เอาจริงเอาจัง จนเด็กยอมสยบ  ด้วยความเก่งของท่าน โรงเรียนจึงให้เป็นครูที่ปรึกษาห้องที่เด็กเกเรที่สุด ...ลองนึกภาพดูซิว่า ครูผู้หญิงคนเดียว กล้าทำถึงขนาดนี้แล้วผลการประเมินจะเป็นอย่างไร...ผลปรากฎว่า เด็กส่วนใหญ่จะเขียน(ตามภาษาเด็ก) มีสาระทำนองว่า "แรกๆไม่ชอบครูเลยที่รู้เรื่องของตัวเองไปเสียทุกอย่าง ฉลาดเป็นกรด ทำอะไรผิดไม่เคยรอดสายตา ยิ่งกว่า FBI เสียอีก ใจกล้าบ้าบิ่นอีกต่างหาก ตอนนี้รู้ตัวแล้วว่าถ้าไม่มีคุณครูคอยทำอย่างนี้ ชีวิตตัวเองจะหลงผิดเป็นอะไรไปแล้วก็ไม่รู้ จึงรู้สึกขอบคุณและรักคุณครูมากเลย" นี่แหละครูมืออาชีพจริงๆ ถ้าผมมีอำนาจให้วิทยฐานะเชี่ยวชาญพิเศษ(ระดับ 10-11เดิม)ได้ผมจะมอบให้ครูคนนี้โดยไม่ลังเลใจเลย

สวัสดีคะอาจารย์  ธเนศ  ที่เคารพ

ลองสมัครสมาชิก gotoknow แล้วนะคะตามที่ได้รับคำแนะนำจากอาจารย์  แต่ยังไม่ได้ศึกษาการทำ บล็อก  ไว้โอกาสต่อไปนะคะ  แต่มีข้อสงสัยเรื่องการส่งผลงาน  ขำนาญการพิเศษ  ในเรื่องการส่งผลงานทางวิชาการนั้น  ตกลงว่าส่งไปตรวจที่ไหนกันแน่คะ  ที่เขตพื้นที่  หรือศุนย์ตรวจแต่ละจังหวัด  ที่น่ากลัวที่สุดคือที่กรุงเทพ ฯ  เพราะมีแต่ผู้เชี่ยวชาญ  ไม่ผ่านกันหลายราย

ชำนาญการพิเศษประเมินที่เขตพื้นที่  ส่วนเชี่ยวชาญขึ้นไปจึงประเมินโดยกรรมการที่ตั้งโดย ก.ค.ศ.ครับ

เรียนท่าน ธเนศค่ะ

ดิฉันขอความกรุณาให้ความกระจ่างในเรื่องต่อไปนี้ค่ะ

1. ได้ คศ.3  เชิงประจักษ์รุ่นเยียวยา  สอบได้เดือนมีนาคม 50 อนุมัติ ย้อนหลัง 1 เม.ย.50 จะส่ง คศ.4 ได้เมื่อไร ผลงานต้อง 2 ปี ต้องเป็นปีใด-ปีใดค่ะ

2. ต้องการทราบวิธีสอนแบบ KWDL เพราะดูจากเน็ตว่าเหมาะสมกับวิชาคณิตศาสตร์

ขอขอบคุณค่ะ

 

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท