SIEMEN

"โลกนี้ไม่มีอะไรฟรี" ใน SIEMEN

           เคยตั้งคำถามกับตัวเองน่ะครับว่า...Knowledge Management...ซึ่งเป็นเครื่องมือ และกลไก ในการบริหารองค์กรให้มีประสิทธิภาพ...ซึ่งโดยปกติ จะเป็นนโยบายที่มาจากฝ่ายบริหาร  จะทำอย่างไรให้พนักงานมองเห็นคุณค่าของการ Sharing ความรู้...เป็นเรื่องที่ค่อนข้างยากน่ะครับ ที่จะให้พนักงานบางส่วนถ่ายทอดความรู้และประสบการณ์ เทคนิคการทำงานที่ได้ผล ให้แก่บุคคลอื่น...ถึงแม้ผู้บริหารจะบอกว่าเราต้องมีการ Sharing Knowledge กันเพื่อให้องค์กรของเราแข่งขันกับองค์กรอื่นได้

           แต่ขณะเดียวกัน...ก็อย่าลืมน่ะครับว่า...ในองค์กรเดียวกันพนักงานทุกคนก็มีการแข่งขันกัน  ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของเงินเดือน  ตำแหน่งหน้าที่ และการได้รับความสำคัญในองค์กร....แล้วเราจะแก้ไขปัญหาเหล่านี้อย่างไร...ช่างเป็นโจทย์ที่ท้าทายไม่น้อยน่ะครับ...สำหรับผู้บริหารที่กำลังพยายามใช้ Knowledge Management ในองค์กร

           ผมได้มีโอกาสอ่านตัวอย่างการจัดการ KM ในองค์กรของ SIEMEN ซึ่งมีการจัดการ KM ในองค์กรมาตั้งแต่ ปี 1999 ซึ่งอาจจะเป็นองค์กรแรกๆที่มีการจัดการ KM การจัดการ KM ของ SIEMEN ค่อนข้างน่าสนใจมาก  เพราะรูปแบบของการจัดการได้พยายามขจัดปัญหาที่ผมได้กล่าวมาแล้วข้างต้น  โดยแรกเริ่ม...ผู้บริหารได้แสดงออกอย่างชัดเจนว่า...จะส่งเสริมการจัดการ KM ในองค์กร ซึ่งเรื่องนี้เป็นสิ่งที่ถูกต้อง...เพราะจากประสบการณ์ในอดีตที่ผ่านมา...มีน้อยโครงการที่ไม่ได้รับกาส่งเสริมหรือเห็นความสำคัญจากฝ่ายบริหาร...แล้วสามารถประสบความสำเร็จ

           หลังจากนั้น...สัญญาณในการจัดการ KM ได้ถูกส่งต่อไปยัง MANAGER และถูกส่งต่อไปยัง WORKER ตามลำดับ โดย SIEMEN ได้จัดทำ Website ซึ่งเรียกว่า ShareNet  ใช้ภายในองค์กร เพื่อใช้แลกเปลี่ยนความรู้ ประสบการณ์ และเทคนิคการทำงาน ในกลุ่มบริษัทของ SIEMEN ทั่วโลก 

           โดย Concept ของการจัดการ KM ของ SIEMEN เรียกว่า Sharing the Wealth กล่าวคือ...สำหรับระดับ MANAGER จะได้ Bonus เมื่อมีการเข้าไปแสดงความเห็น ให้ความรู้ใน ShareNet และนำข้อมูลจาก ShareNet มาเพิ่มรายได้ให้กับองค์กรได้...สำหรับ WORKER จะได้รับเงินรางวัลเมื่อสามารถเข้าไปให้ความรู้และข้อมูลที่สามารถช่วยเหลือพนักงานคนอื่นแก้ไขปัญหาได้ใน ShareNet 

           จะเห็นว่ารูปแบบของการจัดการ KM ในองค์กรของ SIEMEN ใช้การสร้างแรงจูงใจให้กับพนักงานในรูปแบบของโบนัสและเงินรางวัล เป็นสิ่งกระตุ้นให้เกิดการ Sharing Knowledge  ซึ่งได้ผลในระดับที่น่าพอใจ  เพราะพนักงานทุกคนตระหนักในสิ่งที่ตนเองได้รับ...และก็จะให้ความสนใจกับการจัดการ KM โดยอัตโนมัติ

            อย่าเห็นว่าการสร้างแรงจูงใจเป็นสิ่งไม่สำคัญน่ะครับ...เพราะแรงจูงใจนี่แหล่ะที่จะเป็นตัวผลักดันให้มนุษย์กระทำหรือไม่กระทำอะไร ...

            มีข้อเท็จจริงที่อาจจะแสลงใจผู้บริหารบางคนอยู่ว่า...ผู้บริหารบางคนมักจะบอกกับพนักงาน...ให้เสียสละ ทุ่มเทให้กับองค์กร เพื่อให้องค์กรเข้มแข็ง ... แต่ไม่เคยบอกว่าพนักงานจะได้รับอะไรจากการเสียสละนั้น  บางคนอาจจะมองว่าถ้าพนักงานคนไหนเรียกร้องอะไรจากการเสียสละและทุ่มเทเพื่อองค์กร  แสดงว่าพนักงานเหล่านั้นเห็นแก่ตัว...ไม่รักองค์กร 

            อย่าลืมน่ะครับว่าตามหลักเศรษฐศาสตร์ "โลกนี้ไม่มีอะไรฟรี" ...มนุษย์ทุกคนจะยอมเสียบางอย่าง เพื่อแลกกับบางอย่างเสมอ ... หากเราเข้าใจข้อเท็จจริงนี้ ไม่ว่าจะเป็นการจัดการ KM หรือจัดการเรื่องอะไรก็ตามในองค์กร ก็คงจะไม่ใช่ปัญหาที่ยากอีกต่อไป...เรียกว่า  "ต้องเข้าใจให้ถึงแก่นแท้ของมนุษย์ และเข้าใจให้ถึงแก่นแท้ของปัญหา"