ระบอบการปกครองแบบประชาธิปไตยวิวัฒนาการระบอบการปกครองแบบประชาธิปไตย1. การปกครองแบบประชาธิปไตยสมัยเริ่มแรกนั้น เกิดในนครรัฐเอเธนส์ของกรีกโบราณ เมื่อประมาณ 500 ปีก่อนคริสตกาล เป็นการปกครองแบบประชาธิปไตยโดยตรง กล่าวคือ ประชาชนชาวเอเธนส์ทั้งหมดเป็นผู้ใช้อำนาจในการปกครองโดยตรง ด้วยการประชุมร่วมกัน2. หลังจากที่ประชาธิปไตยโดยตรงได้ล่มสลายไปจากนครเอเธนส์ การปกครองแบบประชาธิปไตยหยุดชะงักไปนับพันปี จึงได้เริ่มก่อรูปขึ้นในยุโรป โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศอังกฤษ3. วิวัฒนาการของการปกครองระบอบประชาธิปไตยในประเทศอังกฤษ สืบเนื่องมาจาก(1) สภาพสังคมผู้ปกครองในอังกฤษเวลานั้น เป็นสังคมศักดินา บรรดาขุนนางเจ้าที่ดินหน้าที่รับใช้กษัตริย์ และเป็นผู้มีอภิสิทธิ์ในทางการเมือง(2) ในคริสต์ศตวรรษที่ 16 อังกฤษส่งแกะเป็นสินค้าออกประมาณปีละ 8 ล้านตัว ด้วยเหตุนี้บรรดาขุนนางเจ้าที่ดินต่างหันมาเลี้ยงแกะในที่ดินของตน และได้ประกอบธุรกิจร่วมกับพ่อค้าและนายหน้าตัวแทน ซึ่งเป็นชนชั้นกลาง จนในที่สุดกลายเป็นพวกเดียวกัน(3) ทัศนคติแบบศักดินาของบรรดาขุนนางเจ้าที่ดินทั้งหลายเริ่มเปลี่ยนไปเป็นทัศนคติแบบนายทุน ที่ดินกลายเป็นทุนในการผลิตและเป็นแหล่งที่มาของรายได้(4) ชนชั้นกลางจึงมีบทบาทและอำนาจในรัฐสภาเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากมีบรรดาขุนนางเจ้ที่ดินเป็นพวกด้วย รัฐสภาได้เปลี่ยนแปลงบทบาทไปเป็นเครื่องถ่วงดุลอำนาจกษัตริย์มากขึ้น จนเกิดระบบการปกครองที่เรียกว่า “ระบบกษัตริย์มีอำนาจจำกัด” กล่าวคือ- กษัตริย์ยังคงเป็นประมุขของประเทศ และเป็นหัวหน้ารัฐบาล- กษัตริย์ต้องยอมรับอำนาจอิสระของผู้พิพากษาและของรัฐสภา(5) ปี ค.ศ.1647 พระเจ้าชาร์ลที่ 1 ถูกดำเนินคดีและถูกประหารชีวิต รัฐสภามีวิวัฒนาการไปอีกรูปแบบหนึ่ง โดยเปลี่ยนรูปแบบการปกครองจากกษัตริย์มีอำนาจจำกัด ไปเป็นระบบรัฐบาลแบบรัฐสภา กล่าวคือ มีองค์กรที่เรียกว่า “คณะรัฐมนตรี” ซึ่งมีนายกรัฐมนตรีเป็นหัวหน้ารัฐบาลบริหารประเทศ(6) ต้นคริสต์ศตวรรษที่ 18 กษัตริย์ยอมสละอำนาจในการลงนามในกฎหมายที่รัฐสภาเสนอ และนับแต่นั้นมา รัฐสภามีอำนาจเต็มที่ในการบัญญัติกฎหมาย ส่งผลให้ในเวลาต่อมา ประเทศอังกฤษมีการปกครองในระบอบประชาธิปไตย(7) ภายหลังการปฏิวัติใหญ่ในสหรัฐอเมริกาและฝรั่งเศส การปกครองในระบอบดังกล่าวจึงแพร่หลายไปทั่วในประเทศยุโรปตะวันตก
ไม่มีความเห็น