ของฝากจากคุณบุญคลี ปลั่งศิริ (ตอนที่ 2)


...ทำให้ต้องเหลียวกลับมาดูสิ่งที่กำลังทำอยู่ที่ สคส. ว่าการส่งเสริมเรื่อง KM ในสังคมไทยที่กำลังทำอยู่นี้ เป็นวิธีที่คิดมาจาก Chip ของคน 3 แสนคนหรือเปล่า?...

     เมื่อวานผมสรุปไว้ 9 ประเด็น วันนี้จะขอต่ออีก 5 ประเด็น นะครับ

     (10) คุณบุญคลี บอกว่าต้องสร้างนิสัยให้ลูกน้องกล้าที่จะ "ท้าทาย" หัวหน้า (ท่านใช้คำว่า Challenge หัวหน้า) เช่น ตั้งคำถามที่ว่า "เป้าหมายสุดท้าย (Ultimate goal) ของเรื่องนี้คืออะไร?" เป็นต้น

     (11) ท่านเตือนว่า การทำงานในยุค IT ต้องระวังให้ดี อย่าเผลอตกไปใน "IT Trap"  คือ "ติดกับ" อยู่ในขั้นตอน หรือ Process ของ IT ท่านยกตัวอย่างว่าบางเรื่อง การใช้คน (ทำแบบ Manual) อาจเหมาะกว่าก็ได้ เช่น การ Launch Product ใหม่ โดยที่ไม่ได้ทำ Full Scale นั้น อาจทำด้วยวิธีการ Manual (ไม่ต้องรอให้ทุกอย่างพร้อม 100%)

     (12) ในโครงสร้างองค์กรของคุณบุญคลี จะไม่มีฝ่ายวางแผน ไม่มีหน่วย Corporate Planning ที่อยู่ตรงส่วนกลาง (เพราะพวกนี้ทำไปเรื่อยๆ แล้วมักจะ "กร่าง" ชอบอ้าง "เจ้านาย" ทำไปทำไปจะเกิด "Gap" กับฝ่ายอื่นๆ) ท่านบอกว่าเรื่อง Vision, Strategy และ Creativity เป็นสิ่งที่ต้องมาจาก Business Unit โดยตรง

     (13) การแยกฝ่ายขาย (Sale) กับฝ่ายการตลาด (Marketing) มักจะนำมาซึ่งการโทษซึ่งกันและกัน  ทั้งๆ ที่จริงๆ แล้ว Marketing นั้นก็คือ Process และ Sale นั้นเป็น Result  จำเป็นต้องใช้การคิดแบบเชื่อมโยงซึ่งก็ตรงกับ Concept   "Systems Thinking"  นั่นเอง

     (14) คุณบุญคลี ได้ตั้งคำถามกับผู้ฟังว่า "คนในประเทศไทยที่มีรายได้เกิน 50,000 บาทต่อเดือนนั้นมีจำนวนสักเท่าใด?"  บางคนก็ตอบว่าหนึ่งล้านคน....สองล้านคน.... แต่คำตอบที่ท่านให้ก็คือ 3 แสนคน  ปัญหาที่พบในเรื่องการตลาดส่วนใหญ่ก็คือ เรามักจะลืมนึกถึง "Mass Market" เราอาจจะเคยชินอยู่กับตลาดของคน 3 แสนคนนี้  เพราะ Chip ที่ติดอยู่ในหัวของพวกเรา (หรือในทีม Marketing) นั้นเป็น Chip ของคน 3 แสนคนนี้  โอกาสที่เราจะเข้าใจตลาดที่เป็น Mass นั้นจึงเป็นเรื่องยาก นอกจากนั้นท่านยังได้ฝากเรื่องการทำตลาดแบบ Niche ไว้ด้วยว่า "ถ้าจะทำตลาด Niche ได้ จะต้องเข้าใจตลาด Mass ก่อน"

        สำหรับประเด็นข้อสุดท้ายนี้ ผมรู้สึกสะดุดใจขึ้นมาทันทีเลยครับ ...ทำให้ต้องเหลียวกลับมาดูสิ่งที่กำลังทำอยู่ที่ สคส. ว่าการส่งเสริมเรื่อง KM ในสังคมไทยที่กำลังทำอยู่นี้ เป็นวิธีที่คิดมาจาก Chip ของคน 3 แสนคนหรือเปล่า?

       ....บอกแล้วครับ การฟังคุณบุญคลี ในวันนั้นทำให้ผมได้อะไรมาคิดต่ออีกมากมาย ผมก็ได้แต่หวังว่าท่านจะได้ประโยชน์จากแนวคิดเหล่านี้ด้วยเช่นกัน ข้อสำคัญท่านคงต้องฟัง (อ่าน) สิ่งที่คุณบุญคลี "ให้" นี้ด้วยใจที่ "ว่างพอ" จะต้องก้าวข้ามความเป็น "ชินคอร์ป" ไปให้ได้นะครับ

คำสำคัญ (Tags): #uncategorized
หมายเลขบันทึก: 15361เขียนเมื่อ 15 กุมภาพันธ์ 2006 06:38 น. ()แก้ไขเมื่อ 28 พฤษภาคม 2012 16:55 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

อ่าน 2 ตอน แล้วให้อะไรดีๆ ครับ

Great tips ka, Ajarn Prapon. I think we in the education circle need to take all these dimensions to serious consideration, meaning that we need to make sure our kids learn to be equipped with necessary skills since the very young age ka.

I love the 'challenge your boss' part mak mak ka. This is what I've always challenged my team to do it. Once they can, I think the boss-sub-ordinate barrier is successfully tackled while many more good ideas and interactions could be seen. Really like it that way ka.

Ptk

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท