(7-12 ก.พ. 49) ร่วมไปกับคณะทัศนาจร 36 คน สู่เมืองโตเกียวและซับโปโร
(Sapporo) ประเทศญี่ปุ่น จุดเด่นที่ไปชมคือ “เทศกาลหิมะ” (Snow
Festival) ที่ซับโปโร ซึ่งเขาจัดติดต่อกันมานานแล้วโดยใช้ช่วงเวลา 2
สัปดาห์ในเดือนกุมภาพันธ์ของทุกปี
สังเกตว่าประเทศญี่ปุ่นมีความสะอาด เป็นระเบียบ
มีความปลอดภัยในที่สาธารณะสูงมาก ซึ่งน่าชื่นชมที่เขาทำได้เช่นนั้น
ถ้าจะวิเคราะห์ก็เป็นไปได้ว่า
ความที่เขามีเนื้อที่จำกัดมากสำหรับการอยู่อาศัย
ช่วยฝึกให้เขาต้องมีความเป็นระเบียบ ความมีวินัย และความสะอาด
รวมทั้งเกิดการพัฒนาศิลปะวัฒนธรรม เช่น การจัดสวนแบบญี่ปุ่น
การจัดดอกไม้แบบญี่ปุ่น (Ikebana) การจัดอาหารแบบญี่ปุ่น เป็นต้น
ซึ่งล้วนแล้วแต่มีคุณค่าน่าประทับใจทั้งสิ้น
ผมสรุปในใจว่าคนญี่ปุ่นเขามีดีที่ความขยัน ความมุ่งมั่น ความประหยัด
ความสะอาด ความมีระเบียบ ความมีวินัย และความใฝ่เรียนรู้
ซึ่งคุณสมบัติเหล่านี้เป็นของดี
ทุกประเทศควรพัฒนาให้มีขึ้นมากๆรวมทั้งประเทศไทยของเรา
ที่เมืองโตเกียวได้ไปชมพิพิธภัณฑ์ ชื่อ “Edo – Tokyo Museum”
แสดงชีวิตตั้งแต่สมัยเมืองโตเกียวยังใช้ชื่อว่า Edo
โดยเป็นเมืองที่ตั้งศูนย์การบริหารของโชกุน (Shogun) ในตระกูล
Tokugawa จนต่อมาถึงสมัยการฟื้นฟูอำนาจขององค์จักรพรรดิ ที่เรียกว่า
Meiji Restoration เริ่มในปี ค.ศ. 1868 (หรือ พ.ศ. 2411
ซึ่งเป็นปีเดียวกับที่รัชกาลที่ 5 ของไทยเสด็จขึ้นครองราชย์)
และเปลี่ยนชื่อเมือง Edo เป็น Tokyo
กลายเป็นเมืองหลวงที่ยิ่งใหญ่มาจนถึงปัจจุบัน
ผมคิดในใจว่ากรุงเทพฯของเราน่าจะมีพิพิธภัณฑ์ทำนองนี้ด้วย
จะช่วยให้เราได้เรียนรู้ เกิดความภาคภูมิใจ ความผูกพัน
และความคิดในทางพัฒนามากขึ้น นอกจากกรุงเทพฯแล้ว
ทุกท้องถิ่นก็น่าจะพยายามมีอะไรทำนองนี้ได้ทั้งสิ้นแม้กระทั่งในระดับหมู่บ้าน
(ผมเคยได้ชม “พิพิธภัณฑ์หมู่บ้าน” ที่บ้านศีรษะกระบือ ต.บ้านหัน
อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา และเห็นว่าดีมากน่าชื่นชม)
ไพบูลย์ วัมนศิริธรรม
14 ก.พ. 49
ไม่มีความเห็น