“ระบบการประกันคุณภาพในสถานศึกษา” เป็นเรื่องหนึ่งที่ไม่มีการสอนในสถานศึกษามาก่อน ดังนั้นการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกันจึงเป็นหนทางที่ช่วยกันพัฒนาได้อย่างรวดเร็วและไปให้ถึงคุณภาพตามที่ตั้งไว้ โดยอยู่บนพื้นฐานการแข่งขันตนเอง(สถาบัน)ให้ได้คุณภาพที่สูงขึ้นทัดเทียมมาตรฐานสากล นั่นเอง
สำนักประกันคุณภาพมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ได้รับความกรุณาจากมหาวิทยาลัยนเรศวรภายใต้ความดูแลของ ผศ.ดร.วิบูลย์ วัฒนาธร รองอธิการบดีฝ่ายวิจัยและประกันคุณภาพ ให้ศึกษาดูงานและแลกเปลี่ยนเรียนรู้การประกันคุณภาพ ซึ่งได้จากประสบการณ์และการพัฒนาอย่างต่อเนื่องจนทำให้ได้เห็นถึงแนวปฏิบัติที่ดีและการจัดการระบบฐานข้อมูลเมื่อวันที่ 20 มกราคม 2549 ทำให้ได้ความรู้ฝังลึก(Tacit Knowledge)และ ความรู้ชัดแจ้ง(Explicit Knowledge) ที่เป็นประโยชน์สรุปได้ดังนี้
1. ผู้บริหารให้ความสำคัญกับการประกันคุณภาพ โดยรองอธิการฝ่ายวิจัยและการประกันคุณภาพเป็นผู้กำกับดูแลและอธิการบดีให้การสนับสนุน ซึ่งได้นำการจัดการความรู้(KM) มาใช้ในการพัฒนาคุณภาพของหน่วยงาน หลักการดำเนินงานคือ พยายามทำเรื่องยากให้เป็นเรื่องง่าย ใช้การจัดการความรู้(KM)ทำความเข้าใจให้กับประชาคม
2. มีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างผู้ปฏิบัติงาน เป็นประจำ เพื่อทำความเข้าใจที่ตรงกันและสร้างความสัมพันธ์ที่ดีด้วยระบบเครือข่ายของผู้ปฏิบัติงานเพื่อประโยชน์ในการประสานงานที่ดี
3. ผู้บริหารให้ระบบการประกันคุณภาพเป็นของทุกหน่วยงาน โดยทุกหน่วยงานมีส่วนร่วมในการร่วมคิดร่วมทำ ให้กำลังใจแก่ผู้ปฏิบัติงานและให้ทุกหน่วยงานเห็นความสำคัญของการประกันคุณภาพซึ่งเป็นเครื่องมือในการพัฒนาองค์กร
4. มีการพัฒนาความรู้ในการจัดทำระบบฐานข้อมูลเพื่อการประกันคุณภาพ ส่วนกลาง เพื่อให้หน่วยงานจัดเก็บข้อมูลดิบส่งส่วนกลาง โดยส่วนกลางจะทำหน้าที่ประมวลข้อมูลเพื่อจัดทำรายงานประจำปีต่อไป
ปัจจัยที่มีส่วนให้เกิดของความสำเร็จในการประกันคุณภาพของมหาวิทยาลัยนเรศวร ที่เห็น
ได้ชัด คือ
1. ผู้บริหาร ผู้ปฏิบัติงานส่วนใหญ่เป็นคนรุ่นใหม่ วัยที่ไม่แตกต่างกันมาก สามารถรับความรู้ใหม่ๆและนำมาประยุกต์ใช้ได้อย่างรวดเร็ว
2. ขนาดของสถาบันที่ไม่ใหญ่มากนัก ยังสามารถบริหารจัดการได้ง่ายทั้งจำนวนบุคลากรและข้อมูล
3. บุคลากรมีทุ่มเทในการทำงานประกอบกับสถานที่ทำงาน อยู่ใกล้กับที่พักของบุคลากร คือบุคลากรพักอาศัยในมหาวิทยาลัย จึงสามารถทำงานได้ถึงช่วงค่ำ โดยเฉพาะผู้ปฏิบัติงานเป็นวัยหนุ่มสาวจึงไม่มีภาระทางครอบครัวมาก
การศึกษาดูงานครั้งนี้นับเป็นประโยชน์อย่างยิ่ง ในหลายประเด็นดังบทความความของฝ่าย
ต่างๆ ซึ่งต้องขอบคุณมหาวิทยาลัยนเรศวรเป็นอย่างสูง ณ ที่นี้ และขอชื่นชมมหาวิมยาลัยนเรศวรในความทุ่มเทเพื่อการพัฒนางานประกันคุณภาพได้ดียิ่ง สำนักประกันคุณภาพจะได้นำความรู้ที่ได้จากการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ทั้งที่เป็น Tacit Knowledge และ Explicit Knowledge มาปรับใช้ภายใต้เงื่อนไขของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ซึ่งบางประเด็นมีปัจัยที่เหมือนและแตกต่าง เพื่อการพัฒนาอย่างก้าวกระโดด(Surgery for Jumping)ไปสู่คุณภาพที่สามารถเทียบเคียงมาตรฐานสากลได้ในระยะเวลาอันใกล้
น.ส.วิไลรัตน์ วิริยะวิบูลย์กิ
เลขานุการสำนักประกันคุณภาพ
ไม่มีความเห็น