คำถามยอดฮิตในยุคมอดกินเมือง
ไม่ใช่เพราะว่าไม่เอาคนนี้แล้วจะเลือกใครต่อไป เพราะคนนี้ดี ทีมนี้ดีหรอกครับ แต่เพราะคนเคยคิดจะลอง อยากลองในช่วงต้นชีวิตทางการเมือง จนมาบัดนี้เวลามันผ่านไปเร็วเสียเหลือเกินจนเราต้องมานั่งพิจารณาว่าที่เลือกกันไปนี่ผิดหรือเนี่ย
จริงๆ แล้วคำถามนี้ไม่จำเป็นต้องตอบเลย หากเรารู้ว่าเรามีอะไรอยู่ในมือ หากเป็นของปลอมเราก็ควรจะทบทวนไม่ใช่หรือครับ
คนดีในกรุงยังมีอีกเยอะ เรายังหาคนดีมาเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดกันได้ ตั้งเจ็ดสิบกว่าคน แล้วจะหาคนมาเป็นผู้นำไม่ได้เชียวหรือ ที่สำคัญตราบใดก็ตามที่เราเห็นอำนาจวัตถุนำ อำนาจธรรมตามเนี่ย เราจะไม่พอเลย เพราะวัตถุไม่ยั่งยืนพอของใหม่เก่า ของใหม่ๆ ก็ออกมา แล้วก็วนเวียน เวียนว่ายตายเกิดจนไม่มีจุดจบ ต่างจากการที่ความเป็นธรรมนำ ซึ่งธรรมไม่วนเวียนเลยครับ ธรรมคือความจริงที่เป็นอยู่ มันจะคงที่เสมอ
หากคนเราเอาธรรมเป็นตัวยึด เราจะทราบเสมอว่าสิ่งที่เราจะทำนั่นอะไรถูกหรือผิด
บ่อนที่จ่ายภาษีคือถูกต้องตามกฏหมาย แล้วคนก็ยอมรับว่านี่คือถูกต้องใช่ไหมครับ
แล้วหากเอาธรรมมาพิจารณาหล่ะครับ ก็จะรู้ว่ามันผิด แล้วจะตามธรรมหรือว่าตามกฏ
หากคนไทยไม่ตื่น แล้วเราก็จะหลับไหลในวัฏจักรวัตถุนิยมตลอดไป แล้ววันหนึ่งเราจะต้องซื้ออากาศหายใจ
ใครเป็นไม่สำคัญ สำคัญว่าดีจริงหรือเปล่า หากประเทศนำด้วยความดี แล้วประเทศจะเจริญธรรมเอง
เมื่อวานนี้ดูแดจังกึม ... (พระมเหษี) ว่า หมอที่มีความรู้มาก รู้จริง แต่เจตนาร้าย กับหมอที่เจตนาดี แต่ไม่รู้จริง น่ากลัวเท่ากัน
(ขอด้วย) ผู้นำที่มีคุณธรรม แต่ขาดความรู้จริง ในงานบริหาร ก็พาประเทศ ไปล่มจม พอ ๆ กับผู้นำที่มีวิศัยทัศน์ รู้จริง แต่ขากคุณธรรม
การ "นำ" ประเทศ กับการทำหน้าที่หมอดูแลผู้ป่วยไม่เหมือนกันครับ หมอทำงานคนเดียว แต่ผู้ "นำ" ประเทศ ที่เก่งจริงๆ และประสบความสำเร็จสูงในประวัติศาสตร์คือผู้ใช้คนเป็น และ "นำ" แบบฟังคนอื่น ผู้ "นำ" ที่ manipulate เพื่ออำนาจของตนคนเดียว ในที่สุดก็พังทุกคน ไปอ่านประวัติศาสตร์ดูเถิดครับ เรื่องของบ้านเมืองมันซับซ้อนมากกว่าการดูแลผู้ป่วยเป็นคนๆ ครับ
วิจารณ์ พานิช