เมื่อวานมีโอกาสได้พบกับผู้เป็นเบาหวานที่เคยสอนฉีดยาเมื่อกลางปี 48ชื่อ คุณ นุช เธอมีปัญหาเรื่องเบาหวานขึ้นตาจนมองแทบจะไม่เห็น เราสอนกันแบบใช้ประสาทสัมผัสทางมือและหูจนสำเร็จฉีดเองได้ เจอกันคราวนี้ด้วยเรื่องcallusที่เท้าไม่มาก เธอจำดิฉันได้จากเสียงพูด ดิฉันแนะนำเรื่องการดูแลcallusแล้วก็ถามถึงสุขภาพกัน
เราเริ่มจากเรื่องฉีดยา ดิฉันถามว่ามีอาการน้ำตาลต่ำบ้างหรือไม่ คุณ นุช บอกมีเป็นตอนตื่นปัสสาวะกลางคืน ถามต่อมาเรื่อยๆจึงรู้ว่าอาทิตย์หนึ่งเป็น 3- 4 ครั้งซึ่งถือว่ามาก ดิฉันก็อดไม่ได้ที่จะสืบหาสาเหตุต่อโดยต้องอาศัยข้อมูลที่มีในประวัติช่วยนำทาง เห็นสิ่งผิดปกติจาก labคือ uric เดิม 6.5 เพิ่มเป็น 14.1 และ cr เดิม 0.8เพิ่มเป็น 1.1 แต่ระดับ BS และ Hba1c ปกติ ข้อมูลที่ได้คิดว่าคงเกี่ยวกับอาหารจึงสืบต่อ ถามเมนูอาหารจากมื้อเย็นถอยมาลงได้ความว่า
ทานอาหารวันละ 2 มื้อ มื้อแรก10.00 น มื้อที่2 19.00 น อาหารมื้อละ 2จาน เป็นผัดผัก 1 จานหลัก อีกจานอาจเป็นยำวุ้นเส้นหรือต้มจืดผักหรือผัดผักทั้ง 2 จาน ไม่มีข้าว เนื้อสัตว์กับผลไม้น้อยมาก บ่ายๆอาจมีคุกกี้ครีม 4 - 5 ชิ้น เคยดื่มน้ำวันละ 8 ลิตรตามคนแนะนำปัสสาวะมากจนเพลียจึงเลิกไป ทำให้ทราบว่าคุณ นุช มีความตั้งที่จะดูแลเบาหวานของตนให้ดีแต่ได้แหล่งข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง ดิฉันจึงบอกเธอว่าการที่อดไม่กินข้าวแป้งหรือลดเนื้อสัตว์และผลไม้ลง จากที่เคยได้รับแบบเดิมแล้วไม่ได้เลย ก็จะเหมือนเด็กเคยได้เงินกินขนมทุกวัน แล้วอยู่ดีๆก็อดได้ซื้อขนมกิน เด็กก็จะหงุดหงิดและมีอาการหิว เหมือนกับที่คุณ นุช มีอาการน้ำตาลต่ำตอนกลางคืน ซึ่งร่างกายเราทุกคนต้องการอาหารทั้ง 5หมู่เสมอ ตราบใดที่ระบบในร่างกายยังทำงาน ถ้าระบบใดทำงานน้อยลงก็จะต้องป้อนวัตถุดิบให้เหมาะกับระบบ อาจจะลดอย่างเหมาะสมโดยมีนักกำหนดอาหารคอยแนะนำไม่ใช่เอาออกไม่ให้ทำงานนะคะ คุณ นุช จึงได้รับโอกาสที่ดีในการรับคำปรึกษาจากนักกำหนดอาหารต่อ
ยุวดี มหาชัยราชัน