มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต จัดสัมมนาทางวิชาการ “การบริหารจัดการภาครัฐตามแนวทางพระราชดำริเพื่อประเทศไทยในอนาคต” โดย ฯพณฯ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ได้เป็นองค์ปาฐกแสดงปาฐกถาเรื่อง “แนวทางพระราชดำริสู่การบริหารจัดการภาครัฐ”
... เรียนอธิการบดี และผู้มีเกียรติทุกท่าน ผมขอขอบคุณ
ที่ระลึกถึงกัน และชวนผมมาพูดกับนักศึกษาของมหาวิทยาลัยในวันนี้
นักศึกษาของมหาวิทยาลัยนี้ ไม่ว่าจะระดับปริญญาตรี โท หรือเอก
ถือว่าเป็นปัญญาชน เป็นกำลังสำคัญของชาติ
และมีบทบาทสำคัญในการกำหนดอนาคตของบ้านเมืองของเรา
เป็นพลังประชาธิปไตยที่ชาติกำลังเฝ้ามองด้วยความหวัง
ผมหวังว่านักศึกษาทั้งหลายจะสำนึกรู้ถึงความสำคัญของตนเอง
และจะไม่ทำให้คนที่เขาเฝ้ามองผิดหวัง
หัวข้อปาฐกถาที่อธิการบดีกรุณากำหนดให้
เป็นหัวข้อที่มีความสำคัญและลึกซึ้งมาก
พระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
ที่พระราชทานให้แก่พสกนิกรของพระองค์ นับตั้งแต่เสวยราชย์จนจะครบ 60
ปี ในวันที่ 9 มิถุนายนนี้ มีเป็นจำนวนมาก พวกเราทั้งหลาย
คณะบุคคลต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นองค์กรอิสระ สมาชิกรัฐสภา คณะรัฐมนตรี
ข้าราชการ นักธุรกิจสาขาต่างๆ บัณฑิตทั้งหลายที่จบจากสถาบันต่างๆ
ต่างก็ได้ฟัง ได้ยิน มาโดยต่อเนื่อง
มีคนเป็นจำนวนมากที่รับใส่เกล้าใส่กระหม่อมไปปฏิบัติ
มีคนจำนวนมากที่เข้าใจชัดเจน มีจำนวนน้อยที่เข้าใจไม่ชัดเจน
และบางคนก็ไม่เข้าใจเลย
แต่ถ้าพวกเราทั้งหลายจะพิจารณาให้ลึกซึ้งถี่ถ้วนแล้ว จะเห็นได้ชัดว่า
พระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เหล่านั้น
ล้วนทรงคุณค่ามหาศาล มีประโยชน์อย่างยิ่ง
และมีลักษณะสำคัญยิ่งประการหนึ่ง
ลักษณะสำคัญยิ่งประการนั้นก็คือ
ทรงยึดหลักการที่สอดคล้องกันมาโดยตลอด หลักการที่ผมพูดถึงก็คือ
ทรงย้ำเตือนให้ผู้รับผิดชอบในการบริหารชาติบ้านเมืองทุกระดับ
นำไปตรึกตรอง พิจารณา และปฏิบัติ เพื่อให้เกิดประโยชน์สุขแก่ประชาชน
เพื่อความเจริญก้าวหน้าของประเทศ และเพื่อความมั่นคงของชาติ
แนวพระราชดำริที่ผมเชิญมาเล่าให้พวกเราทั้งหลายฟังในวันนี้
ผมได้พยายามรวบรวมเฉพาะส่วนที่เกี่ยวกับการบริหาร
ได้พยายามรวบรวมให้ครบถ้วนมากที่สุด แต่อย่างไรก็ย่อมขาดไปบ้าง
ผมมีความภูมิใจจริงๆ
ที่ท่านทั้งหลายสนใจในการนำเอาพระราชดำริมาพูดกัน
เพราะว่าพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เป็นสิ่งบริสุทธิ์
สะอาด และศักดิ์สิทธิ์ ผู้ใดรับไปปฏิบัติย่อมเป็นมงคลแก่ชีวิต
เป็นเกราะป้องกันความเสื่อมเสีย
ขอเรียนว่า
การปฏิบัติตามแนวพระราชดำริที่พระราชทานลงมาทั้งหมด ยากมาก
ผู้ใดสามารถปฏิบัติได้ครบถ้วน ต้องได้รับการยกย่องสรรเสริญ
เพราะผู้ที่จะปฏิบัติได้ครบถ้วน จะต้องเป็นคนที่สะอาด มีความเพียร
เพียบด้วยคุณธรรมและจริยธรรมสมบูรณ์ แต่พวกเราไม่ต้องท้อถอย
เพราะแม้แต่จะยากลำบากสักเพียงใด พวกเราก็สามารถปฏิบัติได้
ผมดีใจที่ขณะนี้พวกเราคนไทยทุกระดับพูดกันถึงเรื่องคุณธรรมและจริยธรรมกันมาก
ซึ่งเราไม่ค่อยพูดถึงกันมามากนักในสมัยก่อนๆ นี้ ความเก่ง ความฉลาด
เป็นเรื่องที่ดี แต่ความเก่ง ความฉลาดที่ไม่มีคุณธรรม ไม่มีจริยธรรม
ไม่น่าจะดี
พวกเราทั้งหลายที่อยู่ ณ
ที่นี้ ล้วนเป็นนักการศึกษา เป็นนักศึกษา
พวกเราทั้งหลายรู้ดีอยู่แก่ใจว่าการศึกษานี้คือการสอนวิธีทำคนให้เป็นคนดี
สอนให้เป็นคนที่รู้จักเกิดมาต้องตอบแทนบุญคุณแผ่นดิน การศึกษา
ไม่ว่าจะเป็นการศึกษาในระบบ นอกระบบ นอกตำรา หรือจากประสบการณ์ชีวิต
ย่อมเป็นประโยชน์ทั้งนั้น การนำแนวพระราชดำริมาศึกษาก็เช่นเดียวกัน
ผู้ปฏิบัติตามย่อมต้องเป็นคนดี เป็นคนมีประโยชน์
เป็นคนที่ชาติต้องการ
การเชิญแนวพระราชดำริมาเล่าสู่ให้พวกเราฟังในวันนี้
ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับภาครัฐนั้น
ย่อมกระทบต่อการบริหารของภาครัฐระดับต่างๆ บ้าง ถ้าเป็นเช่นนั้น
ผมขอยืนยันว่า
ลองศึกษาแนวทางดูครับ/JJ
ไม่มีความเห็น