เราควรมีเวลาสักสองสามชั่วโมง
นั่งข้างๆ ลำธารหรือแม่น้ำ แล้วเรียนรู้จากน้ำ
น้ำไม่ต่อสู้ดิ้นรน มันเพียงไหลไปเรื่อย ๆ
เมื่อเวลาเผชิญหน้ากับอุปสรรคอย่างก้อนหิน
น้ำไม่เคยเสียใจหรือโมโหก้าวร้าว
เพียงแต่ผ่อนคลาย และไหลไปรอบๆก้อนหินนั้น
ถ้าคุณสังเกตนานพอ คุณจะเห็นว่าในที่สุดน้ำก็มีหนทางของมัน
และกัดเซาะก้อนหินนั้นได้
นักปรัชญาตะวันออกเคยกล่าวว่า
คุณไม่สามารถนำน้ำที่กำลังไหล มาเก็บไว้ในถัง
เพราะทันทีที่คุณตักน้ำนั้นใส่ถัง คุณจะได้น้ำนิ่ง
ถ้าคุณต้องการน้ำที่ไหลอยู่ตลอดคุณต้องปล่อยมันไป
สิ่งนี้เป็นสิ่งที่ยากที่สุดในชีวิตเราหลาย ๆ คน
ที่มา :
Forward
mail ที่มีค่าจากมิตรสหาย
อ่านชื่อเรื่องผมตีความความปร๊าดแรก เลยคิดว่าอาจารย์เรียนอะไรบางอย่างจาก "คุณน้ำ" PR สคส. แต่พออ่านปรากฏว่าเป็น "น้ำ" จริงๆ ครับ
เ
ถึงจะเป็นเพียงประโยชคสั้นๆ แต่ก็ทำให้คิดถึงอะไรได้หลายๆ อย่างเลยละครับ ดีจริงๆ
อ่านแล้วรู้สึกว่าทำยากมากๆเลยนะคะสำหรับปัจจุบัน เนื่องจากคนสมัยนี้ไม่ค่อยชอบปล่อยวางอะไรง่ายๆ
ดีใจที่ได้อ่าน สบายใจ และมีกำลังใจขึ้นค่ะ
... ใจสงบ ... ปัญญา ย่อมเกิด ... แต่ขอ สติ ช่วยน้อมนำปัญญา ...
เมื่อได้อ่านบทความข้างต้น ทำให้คิดถึงเพลงนี้ขึ้นมาทันที.... ขออนุญาตเอ่ยเนื้อเพลงนี้...ให้ฟัง
ก้อนหินก้อนนั้น ศิลปิน :
โรส
เคยมีใครสักคนได้บอกฉันมา
ว่าเวลาใครมาทำกับเราให้เจ็บช้ำใจ
ลองไปเก็บก้อนหินขึ้นมาสักอัน
ถือมันอยู่อย่างนั้นและบีบมันไว้
บีบให้แรงจนสุดแรง ให้มือทั้งมือมันเริ่มสั่น
ใครคนนั้นยิ้มให้ฉัน ถามว่าเจ็บมือใช่ไหม
ไม่มีอะไรจะทำร้ายเธอ ได้เท่ากับเธอทำตัวของเธอเอง
ให้เธอคิดเอาเอง ว่าชีวิตของเธอเป็นของใคร
ไม่มีอะไรจะทำร้ายเธอ ถ้าเธอไม่รับมันมาใส่ใจ
ถูกเขาทำร้าย เพราะใจเธอแบกรับมันเอง
ใครมาทำกับเธอให้เจ็บหัวใจ
ก็แค่ให้ก้อนหินก้อนนั้นให้เธอรับมา
เพียงเธอจับมันโยนให้ไกลสายตา
หรือเธอปรารถนาจะเก็บมันไว้
หากยิ่งยอมยิ่งแบกไป หัวใจของเธอก็ต้องสั่น
หากยังทำตัวแบบนั้น ถามว่าปวดใจใช่ไหม
ถูกเขาทำร้าย
เพราะใจเธอรับไว้เอง
ปรัชญาจากน้ำ
ปรัชญาจากก้อนหินในกำมือ
ขอปรัชญาดีๆ ต่อยอดความรู้สึกดีๆ อีก
ขออีก ขออีก ขออีก
อ่านแล้วได้แรงใจมากเลย