ประมงพื้นบ้าน "กู้ปลาโป๊ะเชือก"
หนึ่งเดียวของไทย
« เมื่อ:
มกราคม 11, 2006, 09:13:17 am
»
ประมงพื้นบ้าน "กู้ปลาโป๊ะเชือก"
หนึ่งเดียวของไทย สัมผัสได้ที่น่านน้ำหาดแม่รำพึง
จ.ระยอง
นับเป็นความประทับใจอีกครั้งในชีวิต
ที่ทีมงานท่องเที่ยวได้มีโอกาสสัมผัสถึงวิถีชีวิตของชาวประมงพื้นบ้าน
จังหวัดระยอง ที่ใช้ชีวิตอยู่แต่ในท้องทะเล ตื่นตี 3 ตี 4
เพื่อออกเรือไปจับสัตว์น้ำ ปลา ปู กุ้ง หอย ปลาหมึก ฯลฯ
ซึ่งแล้วแต่ละครอบครัวว่าใครจะหยิบเครื่องมือชนิดไหนมาใช้จับสัตว์น้ำอะไรไปขาย
เพื่อหารายได้มาจุนเจือครอบครัว ซึ่งส่วนใหญ่ยึดอาชีพ "พรานทะเล"
สืบทอดกันมาถึงรุ่นลูก รุ่นหลาน บางครอบครัวก็มีรายได้แค่พอมีพอกิน
การจับสัตว์น้ำของชาวประมงพื้นบ้านยังคงเป็นอาชีพที่เป็นแบบหาเช้ากินค่ำ
จนวันหนึ่งก็เกิด "โครงการโป๊ะเชือกระยอง" ซึ่งทางกรมประมง
โดยศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงทะเลอ่าวไทยฝั่งตะวันออก จังหวัดระยอง
ร่วมกับศูนย์พัฒนาการประมงเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (SEAFDEC)
และกลุ่มชาวประมงพื้นบ้าน 7 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มคลองกระเฌอ
ชุมชนบาง-กระเฌอ ป่าคั่น หินขาว หินดำ หัวรถช่น และก้นอ่าว
ได้ทำการศึกษาทดลองใช้โป๊ะเชือกเพื่อการจัดการการประมงชายฝั่งอย่างยั่งยืน
ส่งเสริมให้ชาวประมงพื้นบ้านได้จับปลากันแบบอนุรักษ์และไม่ทำลายพันธุ์ปลา
ลุงมาโนช ปัสเสนะ ประธานกลุ่มโป๊ะ เล่าให้ฟังว่า
"การประมงโป๊ะเชือกถือเป็นทางเลือกใหม่ของพวกตน ที่ยึดอาชีพประมงมานาน
ทุกวันต้องนำเรือออกหาปลากันตั้งแต่เช้ายันค่ำ
การจับปลาก็แล้วแต่ว่าจะได้มากน้อยแค่ไหน บางวันรายได้อาจจะไม่คุ้มทุน
ค่าน้ำมันแพง นับว่าโชคดีที่ได้นำโป๊ะเชือกมาใช้
เป็นการประมงที่อยู่กับที่ ไม่ต้องออกเรือไปตระเวนหาปลา
ทางกรมประมงก็ได้ให้การช่วยเหลือนำเทคโนโลยีจากญี่ปุ่นมาใช้
ให้ทางเรารวมกลุ่มกันเป็นสหกรณ์ ประมาณ 11 คน
ทดลองกู้ปลาด้วยโป๊ะเชือก นำปลาไปขาย
ทำให้เรามีรายได้ต่อวันเป็นค่าตอบแทนและแบ่งเงินปันผลกันตอนปลายปี
ซึ่งถือว่าเป็นทางเลือกใหม่ในยุคน้ำมันแพง
การกู้ปลาแต่ละครั้งก็ใช้เวลาแค่ชั่วโมงเดียว"
ในวันที่ทีมงานท่องเที่ยวได้ไปชมการจับปลาด้วยโป๊ะเชือก
ซึ่งมีแห่งเดียวในประเทศไทย
ก็ได้เดินทางออกจากท่าเรือนวลทิพย์กันในช่วงเช้า เวลา 08.00 น.
พร้อมกับสื่อมวลชนท่านอื่นๆ และคณะของ คุณไพรัตน์ อรุณเวสสะเศรษฐ
นายกเทศมนตรีตำบลบ้านเพ
เจ้าหน้าที่ของศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงทะเลอ่าวไทยฝั่งตะวันออก โดยมี
คุณธีรยุทธ ศรีคุ้ม นักวิชาการประมง 6
เป็นผู้ให้ความรู้และข้อมูลแก่ทีมงานท่องเที่ยว และ คุณสกล แสงจันทร์
นายเรือ 3 เป็นผู้นำทาง พาเรือของสื่อมวลชนและคณะไปสู่ที่หมาย
ซึ่งห่างจากท่าเรือแถวบ้านเพประมาณ 5 กิโลเมตร การเดินทางใช้เวลา 1
ชั่วโมงเศษ
เราก็ได้เห็นกลุ่มของชาวประมงพื้นบ้านกำลังกู้ปลาด้วยโป๊ะเชือกขนาดกลาง
ที่ชาวประมงเลือกนำมาวางอยู่นอกฝั่งบ้านหินขาว ประมาณ 5,000 เมตร
ระดับน้ำลึก 13 เมตร ที่หาดแม่รำพึง ตำบลเพ อำเภอเมือง จังหวัดระยอง
ที่ถือว่าเป็นแหล่งมีปลาอยู่ชุกชุม
โป๊ะเชือกเป็นโป๊ะที่ใช้อวนทำเป็นตัวและปีกโป๊ะ
ชาวประมงจะประกอบในทะเลมีการทิ้งสมอขึงให้อวนกางเป็นรูปโป๊ะและลอยทุ่นให้เนื้ออวนไม่จมน้ำ
ใช้ปีกโป๊ะเป็นเครื่องล่อปลา
โดยปลาจะว่ายมากินแพลงตอนที่ติดอยู่กับปีกโป๊ะ
และว่ายวนมาตรงปากอวนรูปหัวใจ พอเข้ามาแล้วทำให้ปลาออกไม่ได้
จึงทำให้ปลาติดอยู่ในอวน พอถึงเวลาชาวประมงก็มากู้โป๊ะ
โดยใช้เรือเพียง 4 ลำ ในการออกหาปลา ชาวประมงค่อยๆ
ดึงอวนให้เรือมาบรรจบกันตรงกลาง
ในช่วงอึดใจเราก็ได้เห็นปลาน้อยใหญ่เต้นอยู่ในอวนเป็นจำนวนมาก
ทำให้คณะที่ไปชมต่างเพลิดเพลินไปกับการกู้โป๊ะของชาวประมง
วันนั้นปลาที่จับได้มีทั้งปลาจะละเม็ด ปลาหมึก ปลาหลังเขียว
ปลาลูกกล้วย ปลากระทุงเหวแบน ปลาสลิดหิน ฯลฯ
จากนั้นก็ใช้กระชอนตักปลาออกจากอวน
นำลงเรือเอาไปขายที่หาดขายปลาส่วนตัวแถวบริเวณบ้านก้นอ่าว หาดแม่รำพึง
เป็นปลาที่สดจากทะเลจริงๆ และชาวประมงยังใจดี
แบ่งปลาที่จับมาได้ให้กับคณะที่เดินทางไปชม
นำติดไม้ติดมือมาปรุงอาหารรับประทานกันที่บ้านอีกครับ
คุณธีรยุทธ ได้ให้ข้อมูลกับเราว่า
"ทางศูนย์ได้ให้กลุ่มชาวประมงจัดตั้งเป็นสหกรณ์ดำเนินการเองโดยศูนย์มีหน้าที่คอยเป็นพี่เลี้ยง
และมีสมาคมประมงโป๊ะเชือกเมืองฮิมิ ประเทศญี่ปุ่น
ให้การสนับสนุนด้านวัสดุอุปกรณ์
เครื่องมือและเทคโนโลยีทางการประมงโป๊ะเชือกต่างๆ
พร้อมกับสนับสนุนให้ชาวประมงและเจ้าหน้าที่ของศูนย์เข้ารับการอบรมและดูงานโป๊ะเชือกที่เมืองฮิมิ
โดยในอนาคตคงมีการพัฒนาโป๊ะเชือกจาก 1 ลูก เป็น 2 ลูก
เพื่อสามารถจับปลาได้ในปริมาณที่มากขึ้นกว่าเดิม
ปัจจุบันชาวประมงกู้โป๊ะเพียง 1 ลูก และไม่ได้ทำการกู้ทุกวัน
และทางศูนย์ยังคาดหวังที่จะพัฒนา "โครงการโป๊ะเชือกระยอง"
ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางน้ำที่จะดึงดูดให้นักท่องเที่ยวได้มาสัมผัสถึงวิถีชีวิตของชาวประมงพื้นบ้าน
ชมการจัดทำโป๊ะเชือก การรุกโป๊ะเชือก การซ่อมโป๊ะ ฯลฯ
โดยปัจจุบันโครงการนี้ยังได้รับการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์น้อยมาก
มีเพียงสถานีวิทยุกรมประมง 100.75 MHz
ที่ออกอากาศแถวน่านน้ำบริเวณชายฝั่งเท่านั้น
เมื่อได้มีการประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อมวลชนเพิ่มขึ้น ก็คิดว่า
"โครงการโป๊ะเชือกระยอง"
คงได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ด้านการประมงมากขึ้น
หากนักท่องเที่ยวที่สนใจเข้าชมเป็นกรุ๊ป
ก็สามารถติดต่อได้กับทางศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงทะเลอ่าวไทยฝั่งตะวันออก
จังหวัดระยอง โทร. (038) 651-764
ที่มา:
เทคโนโลยีชาวบ้าน
แหล่งที่มา:
http://www.nicaonline.com/webboard/index.php?board=4;action=display;threadid=3655
ไม่มีความเห็น