Proceedings มหกรรมจัดการความรู้แห่งชาติ ครั้งที่ ๒ (๒๖)_๒
อนึ่ง
ในการสังเกตปฏิกิริยาของผู้คนที่มีปฏิสัมพันธ์กับนิทรรศการ พบว่า
ผู้เข้าเยี่ยมชมนิทรรศการส่วนใหญ่ให้ความสนใจจดบันทึก
ขอเอกสารและถ่ายรูปเก็บไว้
และมีบางส่วนที่ให้ความสนใจซักถามแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับองค์กรเกี่ยวกับกระบวนการจัดการเครือข่ายที่ดำเนินการอยู่
2.4 เครือข่ายชุมชนนักปฏิบัติการจัดการความรู้เพื่อพิจิตรเข้มแข็ง
พิจิตรประสบปัญหาที่สำคัญ 2 ด้านคือ
ปัญหาด้านสุขภาพอันเนื่องมาจากการตกค้างของสารเคมีในเลือด
และปัญหาด้านเศรษฐกิจ เนื่องจากดินเสื่อมทำการเกษตรไม่ได้ผล
มีภาระหนี้สินเพิ่มมากขึ้น อันเป็นผลจากการใช้สารเคมีในการทำเกษตรกรรม
ดังนั้นสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดพิจิตรและมูลนิธิร่วมพัฒนาพิจิตรร่วมกันผลักดันให้เกิดเครือข่ายเกษตรปลอดสาร
โดยใช้การจัดการความรู้เป็นเครื่องมือในการส่งเสริมกระบวนการเรียนรู้ของเกษตรกรบนพื้นฐานชุมชนและองค์ความรู้ที่มีอยู่
เพื่อนำไปสู่การลด ละ เลิกการใช้สารเคมีอย่างสิ้นเชิง
การดำเนินงานจัดการความรู้ของเครือข่ายเกษตรปลอดสารเริ่มด้วย
การศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับการจัดการความรู้
กำหนดตัวบุคคลในการทำหน้าที่ “คุณอำนวย”และ “คุณลิขิต”
จัดเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกันจากประสบการณ์จริง
ร่วมเรียนรู้และศึกษาดูงานจากแหล่งเรียนรู้ภายนอก
พัฒนาศักยภาพทีมงาน/กลไกการขับเคลื่อน
มีทีมบริหารในการกำหนดทิศทางการทำงาน การขับเคลื่อนและการเรียนรู้
และนำเครื่องมือชุดธารปัญญามาใช้ในกระบวนการจัดการความรู้
การดำเนินการดังกล่าวเกิดผลลัพธ์ที่สำคัญ คือ
มีการประยุกต์ใช้การจัดการความรู้เข้ากับงานประจำ
ทั้งในกลุ่มของเกษตรกรและกลุ่มของเจ้าหน้าที่สาธารณสุข
เกิดชุมชนนักปฏิบัติในประเด็นต่าง ๆ
เกิดเครือข่ายการเรียนรู้ร่วมกันระหว่างเครือข่ายเกษตรปลอดสารพิษเชื่อมโยงไปสู่เครือข่ายสุขภาพ
ทำให้สามารถนำความรู้ที่ได้ไปต่อยอดเพื่อมุ่งสู่เป้าหมายในการพัฒนาจังหวัดร่วมกัน
อนึ่ง
การสังเกตปฏิกิริยาของผู้เข้าร่วมประชุม พบว่า
ส่วนใหญ่ให้ความสนใจอ่านป้ายนิทรรศการ จดบันทึก ขอเอกสาร
และมีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้กันระหว่างผู้เยี่ยมชมนิทรรศการกับหน่วยงานไม่มากนัก
2.5 “ไม้เรียง”
ชุมชนนักจัดการความรู้
ชุมชนตำบลไม้เรียง
อำเภอฉวาง
จังหวัดนครศรีธรรมราชเป็นหนึ่งในไม่กี่ชุมชนที่มีแผนการพัฒนาชุมชนเป็นของตนเอง
มีศูนย์การศึกษาและพัฒนาอาชีพชุมชนไม้เรียงที่ตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ.
2535 เป็นศูนย์กลางของการเรียนรู้
และมีกิจกรรมการเรียนรู้ที่ดำเนินมาอย่างต่อเนื่อง
การจัดการความรู้เป็นสิ่งที่ชุมชนไม้เรียงปฏิบัติมาอย่างต่อเนื่อง
เป็นวิถี
เป็นอัตโนมัติเพื่อมุ่งแก้ปัญหาในการดำเนินชีวิต(หนี้สิน)เป็นหลัก
หากพิจารณากระบวนการในการจัดการความรู้ของชุมชนไม้เรียงจะเริ่มต้นด้วยการวิเคราะห์ปัญหาและค้นหาแนวทางการแก้ไขปัญหา
โดยใช้แผนชุมชนเป็นเครื่องมือในการกำหนดทิศทางในการพัฒนาชุมชน
มีขบวนการรวมกลุ่มที่ยืดหยุ่น
ใช้กระบวนการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในกลุ่มคนที่มีปัญหาเหมือนกัน
เน้นการบริหารจัดการที่ง่ายสอดคล้องกับวิถีชีวิตของคนในชุมชนและประสานหน่วยงานภาครัฐเข้ามาหนุนเสริม
ระดมความคิดเห็น ค้นหาแนวทางแก้ไขปัญหา และนำไปลงมือปฏิบัติ
ผลการดำเนินงานดังกล่าว เกิดศูนย์ศึกษาและพัฒนาชุมชนไม้เรียง
มีการพัฒนาหลักสูตรอาชีพที่หลากหลายให้แก่ชาวบ้าน
มีหลักสูตรและตำราฝึกอาชีพต่าง ๆ
มีการยกระดับจากการปฏิบัติการเรียนรู้โดยสมาชิก
อีกทั้งยังมีการทบทวนและสรุปผลร่วมกันสม่ำเสมอ
เกิดเป็นคลังความรู้ของชุมชนคนไม้เรียง
ในการสังเกตปฏิกิริยาของผู้เข้าร่วมประชุม พบว่า
ส่วนใหญ่ให้ความสนใจอ่านป้ายนิทรรศการ จดบันทึก ขอเอกสาร
และมีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้กันระหว่างผู้เยี่ยมชมนิทรรศการกับหน่วยงานไม่มากนัก
2.6 การจัดการความรู้เพื่อพัฒนา
“กุดขาคีม”อย่างยั่งยืน
กุดขาคีมเป็นแหล่งน้ำธรรมชาติขนาดใหญ่ที่เชื่อมต่อกับลำน้ำมูล
เป็นกุดที่มีน้ำขังตลอดทั้งปี
ในอดีตเป็นแหล่งน้ำสาธารณะชาวบ้านมาใช้ประโยชน์ในการดำเนินชีวิต
ทั้งในเรื่องการทำเกษตร เป็นที่เลี้ยงสัตว์ เป็นแหล่งอาหารตามธรรมชาติ
อีกทั้งยังเป็นสถานที่ในการจัดกิจกรรมของชุมชนอีกด้วย
แต่ปัจจุบันการดำรงชีวิตของชาวบ้านมีการปรับเปลี่ยนรูปแบบไป
ทำให้รูปแบบการใช้ประโยชน์ในบริเวณกุดขาคีมเปลี่ยนแปลงไป
ระบบนิเวศน์รอบกุดขาคีมเปลี่ยนแปลงไป รวมถึงผลกระทบต่าง ๆ
ที่เกิดจากการพัฒนาภายใต้โครงการของหน่วยงานภาครัฐ
ที่ส่งผลถึงวิถีชีวิตของชุมชน
โดยเฉพาะอย่างยิ่งผลกระทบจากการสร้างเขื่อนราษีไศล
กระบวนการจัดการความรู้ของชุมชนรอบกุดขาคีมเริ่มจากการค้นพบปัญหาของนักพัฒนาจากภายนอกเข้ามาดำเนินการ
โดยสร้างการมีส่วนร่วมของคนในชุมชนผ่านเครื่องมือ ”กระบวนการงานวิจัยเพื่อท้องถิ่น”
เพื่อนำข้อมูล/ผลการศึกษาดังกล่าวไปใช้ในกระบวนการแก้ปัญหาการจัดการแหล่งน้ำของชุมชน
กระบวนการเริ่มด้วยการตั้งทีมวิจัยที่เกิดจากคนในชุมชนและแกนนำชุมชน
ดำเนินการรวบรวมข้อมูลด้านกายภาพ สำรวจปัญหา
เพื่อรู้จักสภาพสถานที่จริง จัดทำแผนที่กุดขาคีม
เพื่อเป็นสื่อประกอบการจัดประชุมเพื่อแลกเปลี่ยนและนำเสนอข้อมูล
ศึกษาข้อมูลเชิงลึก ในกลุ่มเป้าหมายต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง
จัดเวทีเพื่อเติมเต็มข้อมูล รวมถึงการศึกษาดูงาน
ในการดำเนินการดังกล่าว
ทำให้มีการจัดตั้งคณะกรรมการในการดูแลจัดการน้ำ
บังคับใช้กฎในการใช้น้ำร่วมกันระหว่างชุมชน มีการสร้างจิตสำนึก
สร้างแนวร่วมในการอนุรักษ์ ดูแลการใช้ประโยชน์จากกุดขาคีมอย่างยั่งยืน
มีการใช้ประโยชน์จากพื้นที่อย่างเหมาะสมเพื่อสร้างอาชีพ
มีการกำหนดแนวทางในการดำเนินงานร่วมกัน
อีกทั้งยังได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากหน่วยงานภายนอกในการอนุรักษ์ฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติในกุดขาคีมอีกด้วย
ในการสังเกตปฏิกิริยาของผู้เข้าร่วมประชุม พบว่า
ส่วนใหญ่ให้ความสนใจอ่านป้ายนิทรรศการ จดบันทึก ขอเอกสาร
และถ่ายรูปเก็บไว้
2.7 โครงการความร่วมมือเพื่อพัฒนาสถาบันการจัดการความรู้ท้องถิ่น
ผลสืบเนื่องจากการดำเนินงานของโครงการเสริมสร้างการเรียนรู้เพื่อชุมชนเป็นสุข
(สรส.)ภาคกลาง
ที่มีการสร้างและพัฒนานักจัดการความรู้ท้องถิ่นขึ้นมา
โดยมีเป้าหมายที่จะให้นักจัดการความรู้ดังกล่าวไปทำหน้าที่ในการจัดการความรู้ในท้องถิ่นของตนเอง
ทำหน้าที่ในการเชื่อมประสานพันธมิตรในชุมชน นอกชุมชน
และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเพื่อสร้าง “คุณกิจ” และ
“คุณอำนวย” ให้กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในมิติต่างๆ
โดยใช้การจัดการความรู้เป็นเครื่องมือสร้างการเรียนรู้ร่วมกันระหว่างชุมชน
องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและสถาบันการศึกษา
เพื่อไปสู่การพัฒนาหลักสูตรของสถาบันการศึกษาที่เอื้อต่อการส่งเสริมความเข้มแข็งของการเรียนการสอนในสถาบันการศึกษา
และความเข้มแข็งของ
“สถาบันการจัดการความรู้ของชุมชนท้องถิ่น”
พัฒนาคน เสริมสร้างศักยภาพให้กับกลุ่มเป้าหมาย
อีกทั้งพัฒนาองค์ความรู้
ในการจัดกระบวนการเรียนรู้
เริ่มด้วยการชี้แจงวัตถุประสงค์จากนั้นจึงวิเคราะห์ทุนทางสังคม
โดยใช้กระบวนการถอดบทเรียน วิเคราะห์สถานการณ์พื้นที่ ทุนทางสังคม
กำหนดวัตถุประสงค์
เป้าหมายและพัฒนาแนวทางโครงการร่วมกับนักจัดการความรู้ท้องถิ่นและภาคีที่เกี่ยวข้องในพื้นที่
ทำความเข้าใจเกี่ยวกับเป้าหมายและวัตถุประสงค์ของโครงการร่วมกับองค์การบริหารส่วนท้องถิ่น
ดำเนินการคัดเลือกผู้เข้าร่วมโครงการ (คุณเอื้อ, คุณอำนวย, คุณกิจ)
พัฒนาหลักสูตรและแผนการดำเนินงานกับองค์การบริหารส่วนท้องถิ่น
จัดทำหลักสูตรการพัฒนา "คุณอำนวย"
เพื่อจัดการเรียนรู้ระดับพื้นที่
จัดการเรียนรู้ระดับเครือข่าย เปิดตลาดนัดความรู้
และลงนามความร่วมมือระหว่างสถาบันส่งเสริมการจัดการความรู้เพื่อสังคม(สคส.)
โครงการเสริมสร้างการเรียนรู้เพื่อชุมชนเป็นสุข (สรส.)
และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น นำแผนไปปฏิบัติ
ถอดบทเรียนและรายงานผลการดำเนินงานต่อองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
สถาบันส่งเสริมการจัดการความรู้เพื่อสังคม(สคส.) และสาธารณชน เป็นระยะ
ๆ
ซึ่งในแต่ละขั้นตอนยังอยู่ในระหว่างดำเนินการจึงยังไม่ปรากฏผลที่ชัดเจนนัก
อนึ่ง
การสังเกตปฏิกิริยาของผู้เข้าร่วมประชุม พบว่า
ส่วนใหญ่ให้ความสนใจอ่านป้ายนิทรรศการ จดบันทึก ขอเอกสาร
และมีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้กันระหว่างผู้เยี่ยมชมนิทรรศการกับหน่วยงานไม่มากนัก
2.8 การจัดการความรู้
ชุมชนอาคารสงเคราะห์ อยุธยา
ชุมชนอาคารสงเคราะห์
จังหวัดพระนครศรีอยุธยาเป็นอีกชุมชนหนึ่งที่ดำรงสภาพการเป็นชุมชนแออัด
มีปัญหาความยากจน
เป็นหนึ่งในชุมชนเป้าหมายที่ต้องการถูกรื้อย้ายเมื่ออยุธยากลายเป็นเมืองมรดกโลก
แต่อย่างไรก็ตามคนในชุมชนแออัดทุกคนอยากมีชีวิตที่ดีขึ้น
มีคุณภาพชีวิตที่ดี ดังนั้นชุมชนอาคารสงเคราะห์
จังหวัดพระนครศรีอยุธยาจึงใช้การจัดการความรู้สร้างความเข้มแข็งของชุมชนด้วยกระบวนการเรียนรู้ที่ให้คนในชุมชนเข้ามามีส่วนร่วม
โดยมุ่งหวังเพื่อรวบรวมองค์ความรู้ของชุมชนเกี่ยวกับการพัฒนาที่อยู่อาศัยด้วยกระบวนการมีส่วนร่วมของคนทั้งชุมชน
เกิดการส่งต่อองค์ความรู้และสร้างความสามัคคีของคนในชุมชน
ในการดำเนินงานดังกล่าวชุมชนอาคารสงเคราะห์ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
เริ่มด้วยการจัดตั้งทีมวิจัย มีการกำหนดประเด็นในการศึกษาร่วมกัน
และแบ่งหน้าที่รับผิดชอบตามประเด็นที่ต้องการศึกษา
จากนั้นจึงดำเนินการเก็บรวบรวมข้อมูลโดยนำเด็กและเยาวชนในชุมชนเข้ามามีส่วนร่วมในกระบวนการเก็บรวบรวมข้อมูล
เด็กและเยาวชนในชุมชนทำแผนที่ชุมชน และผังเครือญาติของคนใน
มีการตรวจสอบข้อมูลร่วมกันระหว่างเด็กในชุมชน ผู้ใหญ่และนักวิชาการ
เป็นการใช้ระบบพี่เลี้ยง (peer assist)
และมีการให้รางวัลโดยการพาไปดูงาน นำข้อมูลมาสรุปร่วมกัน
และจัดเก็บไว้ในรูปแบบที่หลากหลาย ทั้งบันทึก ภาพวาด แผนที่
ผังเครือญาติ ฯลฯ เกิดเป็นขุมความรู้ของชุมชน
ผลการดำเนินงานการจัดการความรู้ทำให้ชุมชนมีชุดความรู้ของตนเองเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของชุมชน
แผนที่ชุมชนและผังเครือญาติ
นอกจากนี้เด็กและเยาวชนยังได้รับการพัฒนาระบบการทำงานเป็นกลุ่ม การคิด
การเขียน เป็นกระบวนการเรียนรู้นอกโรงเรียน
ในขณะเดียวกันชุมชนอาคารสงเคราะห์
จังหวัดพระนครศรีอยุธยายังเผยแพร่องค์ความรู้ต่าง ๆ
ที่ได้จากการจัดการความรู้ผ่านเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้กลางชุมชนและเสียงตามสายในชุมชนอีกด้วย
อย่างไรก็ตามในการสังเกตปฏิกิริยาของผู้เข้าร่วมประชุม พบว่า
ส่วนใหญ่ให้ความสนใจอ่านป้ายนิทรรศการ จดบันทึก และขอเอกสาร
และมีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้กันระหว่างผู้เยี่ยมชมนิทรรศการกับหน่วยงานไม่มากนัก
2.9 การจัดการความรู้เพื่อพัฒนาองค์กรการเงินชุมชนจังหวัดนครศรีธรรมราช
ในการดำเนินงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองที่ได้รับการส่งเสริมจากรัฐบาล
เพื่อสร้างความเข้มแข็งของระบบเศรษฐกิจการเงินฐานราก
และเปิดโอกาสให้องค์กรประชาชนบริหารจัดการกันเองนั้น
พบว่าในบางหมู่บ้านยังขาดประสิทธิภาพในการบริหารจัดการเงินกองทุน
ด้วยเหตุนี้เองหน่วยจัดการความรู้ฯ
มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์จึงได้จัดทำโครงการ
“การจัดการความรู้เพื่อพัฒนาองค์กรการเงินชุมชน
จังหวัดนครศรีธรรมราช”ขึ้นโดยใช้แนวคิดการจัดการความรู้เป็นเครื่องมือในการขับเคลื่อน
โดยมุ่งหวังให้เกิดการพัฒนาการบริหารจัดการเงินกองทุนของชุมชนให้มีประสิทธิภาพและสร้างความเข้มแข็งให้กับองค์กรการเงินชุมชน
และเกิดการบูรณาการการทำงานหน่วยงานราชการต่าง ๆ
ในจังหวัดนครศรีธรรมราชโดยยึดพื้นที่เป็นตัวตั้ง
คนได้รับการพัฒนาทักษะด้านการจัดการความรู้สามารถนำไปใช้ถ่ายทอดและพัฒนาบุคคลอื่นๆ
ให้มีคุณภาพขึ้น
กระบวนการในการจัดการความรู้
เริ่มด้วยการพัฒนาทักษะความรู้ด้านการจัดการความรู้ให้กับตัวแทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและแกนนำชาวบ้านโดยแบ่งกลุ่มการเรียนรู้เป็น
3 กลุ่ม คือ
กลุ่มคุณเอื้อเป็นกลุ่มของหัวหน้าหน่วยงานที่จะเอื้ออำนวยการมองวิสัยทัศน์
การจัดสรรงบประมาณ,กลุ่มคุณอำนวยจะมาจากหน่วยงานที่มาร่วมมือ
และกลุ่มคุณกิจเป็นกลุ่มของชาวบ้านผู้ปฏิบัติ
ใช้แบบจำลองปลาทูเป็นตัวขับเคลื่อนกระบวนการเรียนรู้
ซึ่งในกิจกรรมการเรียนรู้แต่ละครั้งมีการกำหนดเป้าหมาย
วัตถุประสงค์และกระบวนการทุกครั้ง
และมีการสรุปบทเรียนที่ได้จากการทำกิจกรรมในแต่ละครั้ง
และจัดเก็บเป็นคลังความรู้
นอกจากนี้ยังมีเวทีแลกเปลี่ยนในแต่ละกลุ่มเรียนรู้
ได้ชุดความรู้เพื่อปรับปรุงบทบาทของแต่ละกลุ่มในการจัดกระบวนการเรียนรู้ในพื้นที่ที่รับผิดชอบให้เหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมาย
นำประสบการณ์การจัดกระบวนการเรียนรู้มาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างกันโดยใช้ตลาดนัดความรู้เป็นช่องทางให้เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างกัน
ในการดำเนินการดังกล่าวเกิดผลลัพธ์ที่สำคัญคือ
การบูรณาการการทำงานร่วมกันระหว่างหน่วยงานราชการต่างๆ จำนวน 9
หน่วยงานภายในจังหวัดนครศรีธรรมราช
เกิดองค์ความรู้เกี่ยวกับการจัดการความรู้ในวงราชการ
ที่มีการบูรณาการการทำงานร่วมกันระหว่างหลายๆ
หน่วยงานทั้งแผนกิจกรรมและงบประมาณในการดำเนินการจัดกระบวนการเรียนรู้ให้กับชุมชนเป้าหมาย
และในแต่ละกลุ่มคุณเอื้อ
คุณอำนวยหรือคุณกิจสามารถนำความรู้ที่ได้รับจากการจัดกระบวนการเรียนรู้มาปรับปรุงการทำหน้าที่ของตนเองให้ดีขึ้น
อนึ่ง
การสังเกตปฏิกิริยาของผู้เข้าร่วมประชุม พบว่า
ส่วนใหญ่ให้ความสนใจอ่านป้ายนิทรรศการ จดบันทึก ขอเอกสาร
และมีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้กันระหว่างผู้เยี่ยมชมนิทรรศการกับหน่วยงานไม่มากนัก
3. การจัดการความรู้ภาคราชการไทย
(จัดการความรู้มีรูปแบบ)
3.1 การจัดการความรู้ของกรมอนามัย
ย่างก้าวสู่การพัฒนาองค์กร
วิสัยทัศน์ของกรมอนามัยกำหนดไว้ว่า
จะเป็นผู้นำในการสร้างเสริมสุขภาพของประเทศ โดยมีพันธกิจ คือ
เป็นหน่วยงานหลักในการผลักดันให้เกิดการสนับสนุนให้การส่งเสริมสุขภาพประชาชน
โดยการผลิต ถ่ายทอดความรู้และเทคโนโลยี
ตลอดจนสนับสนุนให้การส่งเสริมสุขภาพเป็นไปตามมาตรฐาน
จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องพัฒนาระบบบริการความรู้ของกรมอนามัยให้เป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้
ดังนั้นกรมอนามัยจึงออกแบบการบริหารความรู้ออกเป็น 2 ส่วนคือ
ระบบและกลไกการบริหารความรู้ และกิจกรรมการพัฒนาศักยภาพ
สมรรถนะบุคลากรด้านต่าง ๆ
โดยใช้การจัดการความรู้เป็นเครื่องมือในการดำเนินการดังกล่าว
ในการดำเนินงานจัดการความรู้
เริ่มด้วยการจัดตั้งคณะกรรมการเพื่อทำงานเรื่องการบริหารองค์ความรู้ในองค์กร
จัดประชุมสัมมนาเชิงปฏิบัติการเพื่อจัดทำแผนบริหารจัดการความรู้ของหน่วยงาน
สร้างกิจกรรมจัดการความรู้ใน 3 ส่วน ได้แก่
การจัดการความรู้ของบุคคลในหน่วยงานย่อยจัดความรู้ในเรื่องการปฏิรูประบบราชการ
จัดทำคลังความรู้ข้อมูล
ซึ่งกิจกรรมจัดการความรู้ส่วนใหญ่ใช้การจัดเวทีแลกเปลี่ยนประสบการณ์ระหว่างกัน
นอกจากนี้ยังมีระบบในการประเมินผลการบริหารจัดการความรู้ทั้งในระดับหน่วยงานและระดับกรม
เพื่อให้เกิดการพัฒนาการจัดการความรู้อย่างต่อเนื่องอีกด้วย
ในการดำเนินการดังกล่าวพบผลลัพธ์ที่สำคัญ กล่าวคือ
ความสัมพันธ์ระหว่างบุคลากรในองค์กรดีขึ้น
ทุกคนเข้ามามีส่วนร่วมในกระบวนการเรียนรู้อย่างเท่าเทียมกัน
บุคลากรเกิดการพัฒนาตนเอง
และหน่วยงานย่อยของกรมอนามัยสามารถใช้การจัดการความรู้มาพัฒนากระบวนการทำงานในหน่วยงานของตนเองได้มากขึ้น
อนึ่ง
การสังเกตปฏิกิริยาของผู้เข้าร่วมประชุม พบว่า
ส่วนใหญ่ให้ความสนใจอ่านป้ายนิทรรศการ จดบันทึก ขอเอกสาร
และมีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้กันระหว่างผู้เยี่ยมชมนิทรรศการกับหน่วยงานไม่มากนัก
3.2 กรมส่งเสริมการเกษตรจัดการความรู้
ควบคู่การส่งเสริมการเกษตร
กรมส่งเสริมการเกษตรใช้จัดการความรู้เป็นเครื่องมือเพื่อให้บรรลุเป้าหมายใน
3 ด้าน คือ การพัฒนางาน
การพัฒนาคนและการพัฒนาองค์กรไปสู่การเป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้
กระบวนการจัดการความรู้ของกรมส่งเสริมการเกษตรมี 3 ระดับ คือ ส่วนกลาง
จังหวัดและพื้นที่
ซึ่งในแต่ละระดับมีกระบวนการในการจัดการความรู้ที่คล้ายคลึงกัน
กล่าวคือ เริ่มต้นด้วยการสร้างความรู้
ความเข้าใจในการดำเนินงานจัดการความรู้แก่บุคลากรขององค์กร
กำหนดวิสัยทัศน์และเป้าหมายในการจัดการความรู้ร่วมกัน
จัดหาและรวบรวมความรู้ที่ต้องการใช้ จัดทำแผนการเรียนรู้
นำแผนการเรียนรู้ไปปฏิบัติ ติดตามประเมินผลการปฏิบัติ
ร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้และสังเคราะห์เป็นองค์ความรู้
ในการจัดการความรู้จะมีการประยุกต์ใช้เทคนิคและวิธีการที่หลากหลาย
เครื่องมือหนึ่งที่ใช้ในกระบวน การจัดการความรู้คือ
เครื่องมือชุดธารปัญญา ในการจัดการความรู้พบผลลัพธ์ที่สำคัญคือ
การประยุกต์ใช้การจัดการความรู้เข้ากับการส่งเสริมการเกษตร
บุคลากรได้รับการพัฒนาเพิ่มขึ้น
มีการปรับบทบาทจากการเป็นนักส่งเสริมและการส่งเสริมการเกษตรแบบเดิม ๆ
มาเป็นนักวิจัยเชิงปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วม เป็นต้น
นอกจากการประยุกต์ใช้ความรู้เพื่อพัฒนาบุคลากรและองค์กรของตนเองแล้ว
ยังมีการเผยแพร่ความรู้ผ่านทาง web board และ KM webpage
อีกด้วย
สำหรับแนวทางในการดำเนินงานในระยะต่อไปจะขยายพื้นที่ในการนำการจัดการความรู้ร่วมกับการส่งเสริมการเกษตรให้เพิ่มมากขึ้น
อนึ่ง
การสังเกตปฏิกิริยาของผู้เข้าร่วมประชุม พบว่า
ส่วนใหญ่ให้ความสนใจอ่านป้ายนิทรรศการ จดบันทึก ขอเอกสาร
และมีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้กันระหว่างผู้เยี่ยมชมนิทรรศการกับหน่วยงานไม่มากนัก
3.3 การจัดการความรู้ในคณะแพทย์ศาสตร์ศิริราชพยาบาล
คณะแพทย์ศาสตร์ศิริราชพยาบาลเป็น 1 ใน 4
หน่วยงานนำร่องที่เข้าร่วมโครงการ “การจัดการความรู้ในองค์กร”
ของสถาบันเพิ่มผลผลิตแห่งชาติ
มีจุดมุ่งหมายเพื่อใช้การจัดการความรู้เป็นเครื่องมือหนึ่งในการสนับสนุนให้คณะแพทย์ศาสตร์
ศิริราชพยาบาล
สามารถบรรลุวิสัยทัศน์คือการเป็นสถาบันทางการแพทย์เป็นเลิศ
และบุคลากรในคณะเป็น knowledge worker ที่สามารถสร้าง รวบรวม
แสวงหาความรู้
และประยุกต์ใช้ในงานของตนเองได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ในการดำเนินการดังกล่าวเริ่มด้วย (1)
สร้างความตระหนักถึงความสำคัญของการจัดการความรู้ในองค์กรโดยการประชาสัมพันธ์
(2) แลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างกันผ่านระบบสารสนเทศ
โดยใช้อินเตอร์เนตในการรวบรวมความรู้และจัดระบบความรู้ (3)
สร้างชุมชนนักปฏิบัติการ(community of practice : CoP)
เริ่มด้วยการกำหนดเป็นนโยบายของหน่วยงาน จัดตั้งทีมดำเนินการ
กำหนดแนวทางเน้นคนเป็นชุมชนนักปฏิบัติการ
แบ่งบทบาทและพัฒนาศักยภาพตามบทบาทโดยการอบรมทักษะที่จำเป็น
จัดเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้ กำหนดหัวข้อ (domain)
รวมตัวกันเป็นชุมชน เกิดแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างกัน
วิเคราะห์ความรู้ สะสมความรู้ แบ่งปันความรู้ผ่านทาง IT
นำมาปรับปรุงการปฏิบัติและประเมินผลการปฏิบัติ เกิดเป็นองค์ความรู้
และ (4) จัดทำแผนปฏิบัติ 4 แผนงานได้แก่ การจัดเก็บ
รวบรวมความรู้การพัฒนาศักยภาพอย่างต่อเนื่อง CQI (continuous quality
improvement) ที่ผ่านมาเพื่อให้เกิดขุมความรู้, ให้ความรู้
เป็นที่ปรึกษา
ประสานงานและอำนวยความสะดวกให้เกิดเวทีในการแลกเปลี่ยนเรียนรู้, ค้นหา
พิจารณาการปฏิบัติที่เป็นตัวอย่างที่ดี (best practice)
และเผยแพร่ขยายผลไปหน่วยงานอื่น และสร้างเครือข่าย KM
ผลจากการดำเนินการจัดการความรู้ดังกล่าว
ทำให้ความสัมพันธ์ภายในองค์กรดีขึ้น มีการยกระดับการปฏิบัติงาน
ทำให้คุณภาพการดูแลผู้ป่วยดีขึ้น
นอกจากนี้ยังพบว่ามีการเผยแพร่ผลลัพธ์ดังกล่าวผ่านทาง KM website
ของคณะฯ โดยที่ทุกชุมชนนักปฏิบัติการ (CoP) มี subsite
ของตนเองเพื่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างกัน
อนึ่ง
การสังเกตปฏิกิริยาของผู้เยี่ยมชมนิทรรศการ พบว่า
ส่วนใหญ่ให้ความสนใจอ่านป้ายนิทรรศการ จดบันทึก
ขอเอกสารและถ่ายรูปเก็บไว้
มีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้กันระหว่างผู้เยี่ยมชมนิทรรศการกับหน่วยงานเล็กน้อย
3.4 การจัดการความรู้ในโรงพยาบาลบ้านตาก
โรงพยาบาลบ้านตาก
เป็นโรงพยาบาลชุมชนขนาดเล็กที่ประสบกับความเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจและสังคม
ทำให้ต้องมีการปรับตัวเพื่อพัฒนาคุณภาพของโรงพยาบาลอย่างมากภายใต้ข้อจำกัดของทรัพยากรทั้งด้านคน
เงิน เครื่องมือ และอาคารสถานที่
อย่างไรก็ตามทุนเดิมที่โรงพยาบาลบ้านตากมีอยู่คือ ศักยภาพของบุคคลากร
และเมื่อโรงพยาบาลได้เข้าร่วมเป็นเครือข่ายการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในโครงการพัฒนาการจัดการความรู้ในโรงพยาบาลภาคเหนือตอนล่าง
จึงมีการนำการจัดการความรู้มาเป็นเครื่องมือในการพัฒนาคุณภาพโรงพยาบาล
หลักการในการจัดการความรู้ของโรงพยาบาลบ้านตาก คือ
การสร้างเป้าหมายร่วมให้ชัดเจน
ผสมผสานการจัดการความรู้เข้าไปในงานประจำและสร้างสิ่งแวดล้อมที่เอื้อต่อการเรียนรู้
องค์ประกอบในการจัดการความรู้ของโรงพยาบาลบ้านตากประกอบด้วย
ทีมบริหารเป็น “คุณเอื้อ” ผู้คอยสนับสนุน
มีหัวหน้างานและทีมงานคุณภาพเป็น “คุณอำนวย”
โดยมีบุคคลากรทั้งโรงพยาบาลเป็น “คุณกิจ”
โรงพยาบาลบ้านตากใช้ LKASA model
เป็นรูปแบบในการจัดการความรู้ในโรงพยาบาล
โดยเริ่มจากการกระตุ้นให้เกิดการเรียนรู้
(learning)การค้นหาและสร้างองค์ความรู้ที่จำเป็นในการพัฒนาองค์กรในการให้บริการประชาชน
(knowledge organization)
การนำความรู้นั้นไปปฏิบัติ (knowledge acting)
การนำสิ่งที่ไปปฏิบัติไม่ว่าจะประสบความสำเร็จหรือล้มเหลวมาแลกเปลี่ยนความรู้กัน
(knowledge sharing) ทั้งภายในหน่วยงานและข้ามหน่วยงาน มี “ผู้ให้”
และ “ผู้รับ” ซึ่งเปลี่ยนบทบาทกันในแต่ละเรื่อง และมี
“คุณลิขิต”คอยจดบันทึก
จากนั้นจึงมีการนำสิ่งที่แลกเปลี่ยนเรียนรู้กันมาเก็บไว้ในรูปของคู่มือต่างๆ
ระบบการทำงานและนวัตกรรมที่เป็นสิ่งประดิษฐ์ (knowledge assets)
และเผยแพร่องค์ความรู้ต่าง ๆ ผ่านทางเวทีจริงและเวทีเสมือน (website
ของโรงพยาบาล)
ไม่มีความเห็น