วันแรกของการประชุมปขมท. เรื่อง ดัชนีวัดผลการปฏิบัติงานของบุคลากรสายสนับสนุน บรรยากาศในงานคึกคัก ผมทานข้าวเสร็จ ก็มาเก็บภาพบรรยากาศในงาน ที่จัดบอร์ดแสดงผลงานของบุคลากรสายสนับสนุนดีเด่น ทราบจากเอกสารที่ประชุมว่า ปีนี้เป็นปีแรกที่มีการมอบรางวัล ให้กับบุคลากรสายสนับสนุน ผู้มีผลงานดีเด่น ประจำปี 2548 และการจัดงานในครั้งนี้มีผู้เข้าร่วมประชุม 1,200 คน มีผลให้มีผู้ท่องเที่ยวในภาคเหนือตามเทศกาลทะลุเป้า ของททท. ผมดูจากเอกสารประชาสัมพันธ์ ปขมท.สัมพันธ์ เจอบุคลากรจากม.นเรศวรเยอะอยู่เหมือนกัน ไปสำรวจรายชื่อที่ลงทะเบียนแล้วเยอะกว่าจำนวนที่ผมตรวจรายชื่อจากการเข้าพักเมื่อวาน แต่มีบางคนมีชื่อแต่ไม่ได้มาเข้าร่วม
เริ่มต้นงานด้วยการฉายภาพวิดีทัศน์ของปขมท. กำหนดการเดิมดร.สรุเกียรติ์ เสถียรไทย รองนายกรัฐมนตรี จะมาเป็นประธานเปิดงาน แต่เนื่องจากท่านติดภารกิจเร่งด่วน จึงไม่สามารถมาได้ และท่านอธิการบดีมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ได้ให้เกียรติมาเป็นประธานในพิธี และได้บรรยายพิเศษ เกี่ยวกับ มหาวิทยาลัยในกำกับ หลังจากท่านบรรยายจบ มีการมอบรางวัลให้กับบุคลากรสายสนับสนุนดีเด่น ทางพิธีกรประกาศว่าความจริงมีทั้งหมด 4 รางวัล (ด้านสร้างสรรค์นวัตกรรมดีเด่น ด้านบริการดีเด่น ด้านวิชาชีพดีเด่น และด้านบริหารดีเด่น) แต่รางวัลด้านการบริหารดีเด่น ในครั้งนี้ไม่มีครับ
หลังจากนั้นผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ดร.พีรพันธุ์ พาลุสุข)ได้บรรยายถึงปัจจุบัน อนาคต มหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐ พูดถึงการเตรียมออกนอกระบบของมหาวิทยาลัยต่าง ๆ ด้วย สำหรับม.นเรศวร ท่านได้พูดถึงเรื่องชื่อเรียกของบุคลากรในมหาวิทยาลัยที่ออกนอกระบบว่า ยังไม่ชัดเจนในเรื่องชื่อเรียก ทำให้ล่าช้าไปนิดหนึ่ง และได้พูดตลกเกี่ยวกับการเรียกอาจารย์ว่า สวัสดีครับพนักงาน (อาจารย์) อาจจะทำให้รู้สึกแปลก ๆ แต่ความจริงไม่มีอะไรครับ วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2549 (วันแห่งความรัก) จะมีการเปิดตัว อย่างเป็นทางการ เกี่ยวกับระบบ ICL
สิ่งสำคัญที่ผมรอคอยอยู่ คือ การบรรยายเรื่อง ดัชนีวัดผลการปฏิบัติงานของบุคลากรสายสนับสนุน 6 สายงาน โดย ศ.นพ.ดร.ประสิทธิ์ วัฒนาภาพ (ผอ.ร.พ.ศิริราช ม.มหิดล) ประทับใจกับการบรรยายของอาจารย์ เพราะอาจารย์พูดตั้งแต่เริ่มต้นว่า สิ่งที่บรรยายในวันนี้ไม่ได้เป็นการให้ปลาทุกคนไปทาน แต่เป็นการให้วิธีตกปลา เป็นโมเดลให้ไปทำ
ผมขอเล่าประเด็นที่น่าสนใจ และได้เก็บเกี่ยวมาจากการประชุมในรูปแบบภาษาบอย คือ
โดยเฉพาะเรื่องการเอาใจใส่ในงาน (Empathy) เป็นสิ่งสำคัญที่วิทยากรเน้นว่า จำเป็นที่จะต้องมี ไม่ใช่เมื่องานได้ส่งไปแล้ว ต้องมีการติดตามงาน และตอบผู้รับบริการได้ว่า งานอยู่ในขั้นตอนไหน และจะทราบผลได้เมื่อไร (ไม่ใช่ตอบเพียงว่าอยู่ที่มหาวิทยาลัย)
การประเมินผลการปฏิบัติงานนั้นจะใช้กับบุคลากรสายสนับสนุนทุกตำแหน่ง แต่การประเมินคุณสมบัติและศักยภาพของบุคลากร (Competency) นั้นจะใช้กับบุคลากรระดับบริหาร ตั้งแต่ระดับกลางขึ้นไป (ไม่ได้ใช้กับทุกตำแหน่ง) Competency วัดเป็นตัวเลขไม่ได้ แต่ประเมินได้
KPIs เป็นเครื่องมือสำคัญที่สามารถเปลี่ยนวัฒนธรรมในการทำงานของบุคลากรได้ และเมื่อมีการประเมินผลการปฏิบัติงานแล้ว ระบบค่าตอบแทนต้องรองรับด้วย ไม่เช่นนั้นเมื่อทำ KPIs และนำมาใช้ประเมินผลการปฏิบัติงานของบุคลากรแล้วไม่ได้นำมาเชื่อมโยงกับระบบค่าตอบแทน การทำ KPIs ก็ไม่มีผลอะไร
สิ่งสำคัญคือ การดึงสิ่งที่มีคุณค่าของแต่ละคนออกมา เพื่อประโยชน์ขององค์กร ผู้สนใจสามารถดูรายละเอียดได้ที่ www.cuast.org
บอย
ชุมชนสำนักงานเลขานุการ
ไม่มีความเห็น