หน้าแรก
สมาชิก
reality nut nut
สมุด
"The Development ...
เทคนิควิธีในการปร...
reality nut nut
สมุด
บันทึก
อนุทิน
ความเห็น
ติดต่อ
เทคนิควิธีในการประเมินหลักสูตร
ประเมินหลักสูตร
หลังจากที่มีการประกาศใช้พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ
.
ศ
. 2542
แนวโน้มการประเมินหลักสูตรในอนาคตจะต้องสอดคล้องกับ พ
.
ร
.
บ
.
การศึกษา โดยจะต้องมีการประเมินที่หลากหลายและครอบคลุม การประเมินวัตถุประสงค์ เนื้อหาสาระ วิธีการสอน การวัดและประเมินผลผู้เรียนแม้กระแส ที่สวนทางว่าพรบ.นี้จะไม่ได้ผลและเป็นการสร้างเงื่อนไขเพื่อการแข่งขันในธุรกิจการศึกษา ของนักวิชาการ(ค้า)ที่เก็บค่าเรียนแพง ต่อไปคนจนจะไม่มีสิทธิเข้ารับการศึกษาที่ดี ซึ่งถูกจับจองจากคนมีเงินเพื่อชุบตัวเหตการณ์นี้กำลังรุนแรงแม้ในกิจการทหารนเองก็ได้รับผลพลวงอันนี้ ภาพลักษณ์อันสง่างาม สมเกียรติ ของบัณฑิตไทย ทั้งพลเรือนและทหาร จางหายไปที่ละน้อยภายใต้กรอบทฤษฎีของชาวตะวันตก ที่นักวิชาการปลายแถวของไทยรับและส่งเข้ามานำเสนอให้อยู่ในกรอบของต่างชาติทั้ง ๆ ที่ภูมิปัญญาไทย ดีๆ มีมากมาย ที่นำมาประยุกต์ใช้ ในการประเมินได้ ส่วนการประเมินหลักสูตรที่จะกล่าวต่อไปเป็นหนึ่งในการประกันคุณภาพที่สำคัญและต้องประเมิน ดังรายละเอียด
1.
การประเมินวัตถุประสงค์ ตาม พ
.
ร
.
บ การศึกษาแห่งชาติ หมวดที่
23
กำหนดระบบการจัดการศึกษาไว้
3
รูปแบบ คือ การศึกษาตามพระราชบัญญัติการศึกษาในระบบ การศึกษานอกระบบ และการศึกษาตามอัธยาศัย โดยการศึกษาในระบบเป็นการศึกษาที่กำหนดจุดมุ่งหมาย วิธีการศึกษาหลักสูตร ระยะเวลาการศึกษา การวัดและการประเมินผลซึ่งเป็นเงื่อนไขของการสำเร็จการศึกษาที่แน่นอน การจัดการศึกษาทุกระบบต้องเน้นความสำคัญทั้งความรู้ คุณธรรม กระบวนการเรียนรู้ และบูรณาการตามความเหมาะสมของแต่ละระดับในเรื่อง ดังนี้
1.1
ความรู้เกี่ยวกับตนเอง ความสัมพันธ์ของตนเองกับสังคม ได้แก่ ครอบครัว ชุมชน ชาติและสังคมโลก รวมถึงความรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ความเป็นมาของสังคม และทางการเมืองการปกครองในระบบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
1.2
ความรู้และทักษะด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รวมทั้งความรู้ความเข้าใจ และประสบการณ์เรื่องการจัดการ การบำรุงรักษา และการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอย่างสมดุลยั่งยืน
1.3
ความรู้เกี่ยวกับศาสนา ศิลป วัฒนธรรม การศึกษาภูมิปัญญาไทย และการประยุกต์ใช้ภูมิปัญญา
1.4
ความรู้ และทักษะด้านคณิตศาสตร์ และด้านภาษาเน้นการใช้ภาษาไทยได้อย่างถูกต้อง
1.5
ความรู้ และทักษะในการประกอบอาชีพ และการดำรงชีวิตอย่างมีความสุข
2.
การประเมินส่วนที่เป็นเนื้อหาวิชา ซึ่งแบ่งเป็นส่วนที่เป็นวิชาการศึกษาทั่วไป วิชาชีพหรือวิชาเฉพาะ และส่วนที่เป็นวิชาการศึกษาตามความสนใจของผู้เรียน ซึ่งเน้นการศึกษา ตามความสนใจและความถนัด เมื่อพิจารณารายละเอียดของ พ
.
ร
.
บ
.
การศึกษาแห่งชาติ พ
.
ศ
. 2542
หลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน ได้กำหนดสาระการเรียนรู้ไว้
8
กลุ่ม ซึ่งประกอบด้วยการพัฒนาคน สุนทรียศิลป์ สังคมศึกษา ภาษาไทย คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี การงานและอาชีพ และภาษาต่างประเทศ
3.
การประเมินผลการเรียนรู้ใน
2
ระดับ คือระดับสถานศึกษา และระดับชาติ เป็นการประเมินเพื่อตรวจสอบความก้าวหน้าด้านการเรียนรู้เป็นรายชั้นปีและช่วงชั้น
4.
การประเมินหลักสูตรท้องถิ่น หลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐานและหลักสูตรระดับอุดมศึกษา
5.
การประเมินผู้สอน
สาระสำคัญส่วนนี้ ได้ชี้แนะการปรับเปลี่ยนบทบาทของครูที่จะต้องคิดค้นเทคนิควิธีการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนอย่างมีประสิทธิภาพ ให้เอื้ออำนวยต่อการส่งเสริมให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ทั้งองค์ความรู้ ความสามารถทักษะการปฏิบัติ ทักษะกระบวนการคิดแก้ปัญหา การจัดการกระบวนการเรียนรู้ด้วยตนเอง คุณธรรมจริยธรรมเน้นการจัดการเรียนการสอนที่ให้ความเอาใจใส่ผู้เรียนรายบุคคลที่มีความแตกต่างกันในความสามารถ ความถนัด ให้ผู้เรียนแต่ละบุคคลบรรลุผลการเรียนรู้เต็มศักยภาพ
ดังนั้น ในอนาคต การประเมินผลการสอนของครู จะต้องครอบคลุมเทคนิควิธีการสอนที่หลากหลาย เน้นการจัดการเรียนการสอนที่เอาใจใส่ผู้เรียนเป็นรายบุคคล ตามที่พ
.
ร
.
บ
.
การศึกษากำหนด
6.
การประกันคุณภาพหลักสูตร
สาระสำคัญของ พ
.
ร
.
บ
.
การศึกษาแห่งชาติ หมวดที่
6
ได้กำหนดให้มีระบบประกันคุณภาพภายในและภายนอกสถานศึกษา โดยให้หน่วยงานต้นสังกัดและสถานศึกษา มีหน้าที่พัฒนาระบบประกันคุณภาพภายใน สำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา
(
สมศ
.)
เป็นผู้ประเมินภายนอก
ดังนั้นในอนาคต การประกันคุณภาพหลักสูตร การประกันคุณภาพการศึกษา จะต้องมีการดำเนินการที่เป็นระบบเครือข่าย ครอบคลุมทั้งหน่วยงานภายในและภายนอกกระทรวง ตั้งแต่ระดับชาติ เขตพื้นที่ และสถานศึกษา ในรูปแบบของคณะกรรมการที่มาจากบุคคลทุกระดับ เพื่อให้การจัดการศึกษามีคุณภาพอย่างแท้จริง
กล่าวโดยสรุป การประเมินผลหลักสูตร มีแนวโน้มปรับเปลี่ยนไปจากวิธีการเดิม ทั้งนี้เพื่อให้สอดคล้องกับ พ
.
ร
.
บ
.
การศึกษาแห่งชาติ พ
.
ศ
. 2542
ประเด็นปัญหาวิจัยที่ควรทำเกี่ยวกับการประเมินหลักสูตร
การวิจัยที่เกี่ยวกับการประเมินหลักสูตร สามารถทำการประเมินได้หลายลักษณะ เช่นการวิจัยเกี่ยวกับเทคนิควิธีการประเมินหลักสูตรและการวิจัยเชิงประยุกต์ใช้ วิธีการประเมินเพื่อปรับปรุงหลักสูตร ดังรายละเอียด
1. การวิจัยเกี่ยวกับเทคนิควิธีการประเมินหลักสูตร โดยเน้นระเบียบวิธีวิจัย การวัด และการประเมิน ตัวอย่างเช่น
1) การศึกษาความเป็นไปได้ของหลักสูตร โดยใช้รูปแบบการทดลองแท้ และแบบกึ่งทดลอง ซึ่งทดลองกับกลุ่มตัวอย่างไม่มากนัก ผลการทดลองจะตอบคำถามเบื้องต้นว่า หลักสูตรต้นแบบมีประสิทธิภาพและประสิทธิผลเพียงใด เหมาะกับสภาพของระบบการบริหารที่เป็นอยู่หรือไม่
2) การสำรวจความต้องการจำเป็นของหลักสูตรโดยใช้วิธีการประเมินรูปแบบต่าง ๆ เช่น ใช้เทคนิคเหตุการณ์วิกฤติ , กลุ่มควบคุมคุณภาพ , กลุ่มสมมุตินัย , อาศรมความคิด , การประชาพิจารณ์ ,การระดมสมอง , เทคนิคเดคัม , การสร้างแผนที่มโนทัศน์ , เทคนิคเดลฟาย , เทคนิควงล้ออนาคต เป็นต้น
3) การใช้เทคนิคการวิเคราะห์แบบปุยซองค์ (Puissance Analysis Technique) เป็นต้น
2. การวิจัยเกี่ยวกับการประยุกต์ใช้วิธีการประเมินเพื่อปรับปรุงหลักสูตร เช่น การประเมินครอบคลุมองค์ประกอบต่าง ๆ ของหลักสูตร เพื่อนำผลที่ได้จากการประเมินไปใช้ปรับปรุงพัฒนาหลักสูตร ตัวอย่างเช่น
- การวิเคราะห์เนื้อหาวิชา
- การวิเคราะห์หลักสูตรระดับต่าง ๆ
- การประเมินการใช้หลักสูตรระดับต่าง ๆ
- การประเมินการใช้สื่อประกอบการเรียนการสอน
- การศึกษาสภาพและปัญหาของการนำหลักสูตรไปใช้
- การวิเคราะห์กระบวนการหลักสูตร
- การประเมินคุณภาพผู้เรียน ผู้สอน
- การประเมินกระบวนจัดการเรียนการสอน
- การประเมินผลผลิตและผลกระทบของหลักสูตร
3. การพัฒนารูปแบบการประเมินหลักสูตร
4. การพัฒนาระบบฐานข้อมูลเกี่ยวกับการประเมินหลักสูตร
5. การพัฒนาเกณฑ์ ตัวชี้วัดในการประเมินหลักสูตร
โดยสรุป ไม่ว่าจะทำการประเมินในลักษณะใดก็ตาม การประเมินหลักสูตรควรทำการศึกษาในประเด็นใดประเด็นหนึ่ง ขององค์ประกอบหลักสูตร หรือทำการประเมินหลักสูตรทั้งระบบ ซึ่งได้แก่ วัตถุประสงค์ เนื้อหาหลักสูตร กระบวนการจัดการเรียนการสอน ผู้สอน ผู้เรียน สื่อการเรียนการสอน สิ่งอำนวยความสะดวกอื่น ๆ การวัดและประเมินผล อย่างไรก็ตาม แนวโน้มในอนาคต โรงเรียนทั่วประเทศจะดำเนินการจัดการเรียนการสอนให้สอดคล้องตาม พ.ร.บ. การศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 จึงควรทำการประเมินหลักสูตรที่สอดคล้องกับสาระตามที่ พ.ร.บ. กำหนดด้วยการประเมินระบบหลักสูตร ส่วนใหญ่จะประเมินครอบคลุมเรื่องต่าง ๆ ด้วย
1. ประเมินบริบทหรือสภาวะแวดล้อม เช่น เศรษฐกิจ สังคม การเมือง ปรัชญาการศึกษา เป็นต้น
2. ประเมินปัจจัยนำเข้า ได้แก่ ผู้เรียน ผู้สอน เนื้อหาสาระหลักสูตร เงินงบประมาณ อาคารสถานที่ อุปกรณ์ในการเรียนการสอน รวมทั้งสิ่งอำนวยความสะดวกอื่น ๆ
3. ประเมินกระบวนการที่อยู่ระหว่างดำเนินการ เช่น กระบวนการจัดตารางสอน การประเมินผู้สอน ผู้เรียน กระบวนการจัดการงบประมาณ และกระบวนการจัดเนื้อหาวิชาในหลักสูตร
4. ประเมินผลผลิตและผลลัพธ์ หรือผลกระทบของหลักสูตรเป็นการตรวจสอบว่าหลักสูตรสัมฤทธิผลหรือไม่ และในระยะยาวก่อให้เกิดผลกระทบต่อสังคม ชุมชน อย่างไร
5..การติดตามผล (Follow up) ของหลักสูตร
การประเมินหลักสูตรเป็นสิ่งสำคัญ และมีความจำเป็นที่จะต้องทำการประเมินหลักสูตร ในการประเมินมักพบปัญหาต่าง ๆ สรุปได้ดังนี้
1.
ปัญหาจากนักประเมิน ได้แก่
1.1
ไม่มีความรู้ ความเข้าใจในหลักสูตรที่ประเมิน หรือขาดความชำนาญในการประเมิน
1.2
มีเจตคติทางลบต่อหลักสูตรที่ประเมิน ทำให้ผลการประเมินขาดความเที่ยงตรง ไม่น่าเชื่อถือ
1.3
มีความกลัว หรือไม่กล้าเปิดเผยผลการประเมินทำให้ไม่ได้เสนอข้อมูลตามความเป็นจริง บางครั้งนักประเมินกลัวว่าผลการประเมินออกมาไม่ดี จึงให้ข้อมูลที่ไม่ตรงกับสภาพความเป็นจริง
1.4
ขาดการวางแผนการประเมิน เช่น ไม่มีการกำหนดปฏิทินการทำงานที่ชัดเจน ขาดข้อมูลในการประเมินกำหนดเวลาไม่เหมาะสม ทำให้เก็บข้อมูลไม่เป็นระบบ
1.5
กำหนดเกณฑ์ประเมินไม่ชัดเจน ทำให้ผลการประเมินไม่เป็นที่ยอมรับ และไม่ได้นำไปใช้ในการปรับปรุงหลักสูตร
2.
ปัญหาจากผู้ใช้ผลการประเมิน ได้แก่
2.1
ขาดความมุ่งมั่นในการนำผลการประเมินไปใช้ประโยชน์หรืออาจไม่เห็นความสำคัญของการนำผลการประเมินไปใช้ปรับปรุงหลักสูตรซึ่งจะเกิดประโยชน์ต่อผู้เรียน ในวงกว้างและในระยะยาว
2.2
มีเจตคติที่ไม่ดีต่อการประเมินหรือต่อคณะผู้ทำการประเมิน ผลจากการประเมินจึงไม่ถูกนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์แต่อย่างใด
2.3
ไม่ยอมรับผลการประเมิน โดยเฉพาะผลประเมินทางลบ ผู้ใช้ผลประโยชน์อาจไม่พึงพอใจ หรือไม่ยอมรับ จึงเป็นปัญหาในการประเมินหลักสูตร
3.
ปัญหาจากผู้เกี่ยวข้อง
3.1
ไม่ยอมรับผลการประเมิน ผู้เกี่ยวข้องมีความคิดว่าพาหะเป็นการจับผิด ผู้ถูกประเมินทำให้มีทัศนคติที่ไม่ดีต่อการประเมิน
3.2
คณะกรรมการหลักสูตร/ผู้เกี่ยวข้องไม่เห็นความสำคัญของการประเมินหลักสูตรอย่างต่อเนื่อง
บรรณานุกรม
กระทรวงศึกษาธิการ , กรมวิชาการ "ทิศทางของหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน"
วารสารข้าราชการครู ปีที่ 19 ฉบับที่ 3 กุมภาพันธ์ - มีนาคม 2542 , 26 - 31.
ใจทิพย์ เชื้อรัตนพงษ์ การพัฒนาหลักสูตร : หลักการและแนวปฏิบัติ กรุงเทพมหานคร
โรงพิมพ์อลีนเพรส 2539.
วิชัย วงษ์ใหญ่ กระบวนการพัฒนาหลักสูตรและการเรียนการสอนภาคปฏิบัติ
กรุงเทพมหานคร สุวีริยาสาส์น 2537.
ศักดิ์ศรี ปาณะกุล การประเมินหลักสูตร กรุงเทพมหานคร
สำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยรามคำแหง
พิมพ์ครั้งที่ 2 : 2542.
สงัด อุทรานันท์ ทฤษฎีหลักสูตร กรุงเทพมหานครโรงพิมพ์มิตรสยาม 2530.
สันต์ ธรรมบำรุง หลักสูตรและการบริหารหลักสูตร เอกสารการนิเทศการศึกษา ฉบับที่ 260
กรุงเทพมหานคร หน่วยศึกษานิเทศน์ กรมการฝึกหัดครู กระทรวงศึกษาธิการ 2527.
สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาแห่งชาติ แนวการจัดการศึกษาตามพระราชบัญญัติการศึกษา-
แห่งชาติ พ.ศ. 2542 สิงหาคม 2542.
---------- พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 กรุงเทพมหานคร
บริษัท พริกหวานกราฟฟิค จำกัด 2542.
Cronbach, Lee J. Essential of Psychological Testing. 3
rd
. ed. New York : Harper Row, 1970.
Good, Carter V. Dictionary of Education. New York : Mc Graw Hill Co., Inc., 1973.
Stufflebeam, D.L. et al. Educational Evaluation and Decision Making. Illinois : Peacock
Publisher Inc.
--------------------------------------------------------
เขียนใน
GotoKnow
โดย
reality nut nut
ใน
"The Development of Young Officcer by Probability & Staistics in Education Measurment Base Concept "
คำสำคัญ (Tags):
#uncategorized
หมายเลขบันทึก: 14230
เขียนเมื่อ 2 กุมภาพันธ์ 2006 13:03 น. (
)
แก้ไขเมื่อ 24 มิถุนายน 2012 02:51 น. (
)
สัญญาอนุญาต:
จำนวนที่อ่าน
จำนวนที่อ่าน:
ความเห็น (0)
ไม่มีความเห็น
ชื่อ
อีเมล
เนื้อหา
จัดเก็บข้อมูล
หน้าแรก
สมาชิก
reality nut nut
สมุด
"The Development ...
เทคนิควิธีในการปร...
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID
@gotoknow
สงวนลิขสิทธิ์ © 2005-2023 บจก. ปิยะวัฒนา
และผู้เขียนเนื้อหาทุกท่าน
นโยบายความเป็นส่วนตัว (Privacy Policy)
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท