ตำนานของตะเกียบ
ว่ากันว่าเริ่มต้นที่จีน…
นับย้อนหลังไปสองพันห้าร้อยปี
มีชาวนายากจนสองคนถูกขับไล่ออกไปจากหมู่บ้าน
ด้วยความหิวโหยจึงพากันตระเวนหาอาหาร
จนไปพบโกดังเก็บเสบียงของร้านค้าแห่งหนึ่ง
เข้าไปขโมยเนื้อสัตว์ออกมา
แล้วรีบนำเข้าไปในป่า
ก่อกองไฟย่างเนื้อจนกระทั่งกลิ่นหอมยั่วยวนเกินกว่าจะอดใจรอให้สุกจนทั่ว
จึงคิดเอากิ่งไม้สองอันคีบเนื้อด้านนอกออกมากินทีละน้อย
ปล่อยส่วนที่เหลือให้ค่อยๆสุกไปเรื่อยๆ
คีบกินไปอย่างนั้นจนกระทั่งเหลือแต่กระดูก
กิ่งไม้สองอันคือการค้นพบอุปกรณ์ในการกินที่เรียกว่า ตะเกียบ
และถัดมาอีกห้าร้อยปีก่อนคริสตกาล
พระในพุทธศาสนาที่ออกเผยแพร่พระธรรมแถบเอเซียตะวันออกเฉียงใต้
ก็นำตะเกียบไปเผยแพร่ด้วย
จนกระทั่งใช้กันอย่างแพร่หลายในภูมิภาคนี้
เท็จหรือจริงแค่ไหน? ไม่ยืนยันค่ะ..
คนไทยใช้ตะเกียบแบบจีนมานานนับศตวรรษ ด้วยความที่
“คนจีนคนไทยใช่อื่นไกลพี่น้องกัน”
การใช้ตะเกียบกินอาหารถือเป็นเรื่องปกติ
ความเป็นมาหรือพิธีรีตองใดๆ เกี่ยวกับตะเกียบ
เป็นเรื่องที่คนไทยไม่สนใจ
ขอเพียงคีบอาหารเข้าปากได้อย่างคล่องแคล่วก็พอ
ผิดกับญี่ปุ่นซึ่งรับวัฒนธรรมการใช้ตะเกียบมาจากจีนเช่นกัน
แต่กลับมีพิธีรีตองในการใช้ตะเกียบเป็นแบบอย่างของตนเอง
การใช้ตะเกียบกินอาหารญี่ปุ่นได้ถูกต้องตามธรรมเนียม
สามารถจะสร้างความประทับใจให้คนญี่ปุ่นได้เป็นอย่างดี
สำหรับนักธุรกิจแล้วอาจมีผลต่อความสำเร็จในการเจรจาทางการค้าด้วยซ้ำไป
คำพูดที่ว่า “เข้าเมืองตาหลิ่ว
ต้องหลิ่วตาตาม” หรือ “ไปโรมก็ต้องทำตามแบบชาวโรมัน”
ยังเป็นเรื่องที่ใช้ได้ดีมาทุกสมัย
รู้เรื่องนี้ไว้บ้างย่อมมีแต่ประโยชน์
เริ่มแรกต้องทำความรู้จักกับตะเกียบญี่ปุ่นกันก่อน
ญี่ปุ่นเรียกตะเกียบว่า
ฮาชิ
รูปร่างตะเกียบญี่ปุ่นไม่เหมือนตะเกียบจีน
ที่แตกต่างกันคือส่วนปลาย ตะเกียบจีนจะปลายมน
ในขณะที่ตะเกียบญี่ปุ่นจะปลายแหลม
ความแตกต่างนี้น่าจะมาจากลักษณะของอาหารมากกว่าเรื่องของดีไซน์
ดูง่ายๆ จากข้าวที่กิน ข้าวเมล็ดสั้นๆ
แบบญี่ปุ่นที่มีความเหนียว จับกันเป็นก้อนเป็นคำ
เหมาะสำหรับตะเกียบปลายแหลม
ในขณะที่ข้าวเมล็ดยาวแบบจีน
ค่อนข้างร่วนเหมาะสำหรับตะเกียบปลายมน
แต่อาจจะมีเหตุผลอื่นนอกเหนือกว่านี้อีกก็ได้
ยังหาคำตอบไม่เจอ พอหันไปดูคนเกาหลีก็งงขึ้นไปอีก
เพราะตะเกียบที่ใช้เป็นแบบแบนๆ
แถมทำด้วยสเตนเลส
คนเวียตนามใกล้กับจีนก็เลยใช้ตะเกียบแบบจีนเหมือนกันกับคนไทย
ตะเกียบญี่ปุ่นมีอยู่หลายแบบตามลักษณะของการใช้งาน
ที่เราใช้รับประทานอาหารนั่นก็เป็นแบบหนึ่ง
ในครัวที่ใช้ปรุงอาหารก็เป็นอีกแบบ
ที่ใช้สำหรับคีบขนมเค้ก คีบของหวาน
ก็เป็นแบบเฉพาะ
วัสดุที่ใช้ทำส่วนใหญ่คือไม้
แต่ก็มีการทำจากงาช้าง กระดูกสัตว์ หรือโลหะด้วย
ตะเกียบที่ทำจากไม้เนื้ออ่อนและไม้ไผ่มักจะนำไปทาสีและตกแต่งลวดลายสวยงาม
ตะเกียบงาช้างจะราคาแพงที่สุด แต่เมื่อใช้นานๆ
จะเปลี่ยนจากสีงาเป็นสีน้ำตาลอ่อน
ในครอบครัวญี่ปุ่น
สมาชิกจะมีตะเกียบของใครของมัน
ซึ่งจะเก็บไว้ในกล่องใส่ตะเกียบของตน
แต่ในการรับประทานอาหารนอกบ้าน มักจะใช้ตะเกียบแบบ
ใช้แล้วทิ้ง
เพราะสะอาดถูกหลักอนามัย
ทำจากไม้หลิวหรือไม้สน
ตะเกียบรุ่นใหม่ออกแบบให้เป็นชิ้นเดียวกัน
เวลาใช้ก็บิหรือหักออกเป็นสองส่วน
เพราะเซาะเป็นร่องตามแนวยาวไว้ให้
ภัตตาคารและร้านอาหารนิยมใช้กันมาก
สำหรับมารยาทในการใช้ตะเกียบแบบญี่ปุ่น
ที่ควรรู้ไว้เผื่อมีโอกาสปฏิบัติจริงจะได้ไม่เสียหน้าไก่ไทยมีดังนี้
-
การคีบอาหารส่งกันไปมาทางตะเกียบเป็นเรื่องต้องห้าม
จะคีบส่งให้เพื่อนคีบรับ
หรือคีบรับอาหารที่เพื่อนคีบส่งมา
ก็ไม่ได้ทั้งนั้น
ทั้งนี้ก็เพราะกิริยาดังกล่าวเป็นวิธีการที่ใช้กันในพิธีศพของญี่ปุ่น
ซึ่งมีการคีบกระดูกคนตายส่งและรับต่อๆกันด้วยตะเกียบ
-
การคีบอาหารวางบนจานให้ผู้อื่นเพื่อแสดงมารยาท ความเอื้อเฟื้อ
หรืออารมณ์โรแมนติกนั้น
เป็นเรื่องที่ทำได้
แต่ควรใช้ปลายตะเกียบด้านตรงกันข้ามกับด้านที่คุณใส่เข้าปาก
-
ในกรณีที่ไม่มีตะเกียบกลางไว้ให้ใช้คีบอาหารจากจานใหญ่
ก็ให้ใช้ปลายด้านบนที่สะอาดเพราะเป็นด้านที่ไม่ได้ใส่เข้าไปในปากตัวเองคีบแทนเช่นกัน
อาจฟังดูพิลึก แต่ในญี่ปุ่นถือว่าสุภาพ
ซึ่งโดยหลักอนามัยแล้วก็เป็นเรื่องที่ถูกต้อง
- การปักตะเกียบตั้งโด่เด่ในชามข้าว
หรือชามอะไรก็แล้วแต่
เป็นเรื่องที่ไม่สมควรอย่างยิ่ง
รวมทั้งหมั่นจำไว้ว่า เห็นรูปร่างแหลมๆยาวๆ
อย่างนั้น ก็มีไว้ใช้คีบ ไม่ใช่ทิ่มแทง
ฉะนั้นอย่าใช้ตะเกียบของคุณทิ่มอาหารส่งเข้าปาก
-
การใช้ตะเกียบดันถ้วยหรือจานให้เลื่อนไปมา
ถือเป็นมารยาทที่ใช้ไม่ได้
- ก่อนที่จะหยิบจานใส่อาหาร
ให้วางตะเกียบลงบนที่วางตะเกียบซะก่อน
อย่าได้หยิบจานอาหารด้วยมือที่ถือตะเกียบอยู่ด้วย
และไม่วางตะเกียบห่างจากจานอาหารของคุณ
-
แม้ว่าเรื่องที่คุยระหว่างกินจะออกรสเพียงใดก็ตาม
ขอได้โปรดอย่าโบกตะเกียบแกว่งไกวเหนือจานอาหารประกอบการเจรจา
และระวังอย่าให้ปลายตะเกียบชี้ไปยังบุคคลอื่นโดยเด็ดขาด
- ถือว่าไม่ดี
หากคุณใช้ตะเกียบที่สองข้างทำจากวัสดุคนละชนิด
- การยกชามขึ้นมา
แล้วใช้ตะเกียบพุ้ยอาหารจากชามเข้าปาก
เป็นการกระทำที่ถูกต้องตามมารยาทญี่ปุ่นและจีน
แต่การคายเศษก้างเศษกระดูกออกจากปากลงบนโต๊ะอาหาร
เอาไว้ทำตอนไปเมืองจีน จะว่าไปแล้ว
กิริยาอย่างนั้นในเมืองไทยก็รับไม่ค่อยได้เหมือนกัน
ถ้าพึ่งคบกันเป็นนัดครั้งแรก
รับรองไม่มีครั้งที่สองตามมา
นอกจากจะใช้ตะเกียบได้ถูกต้องตามธรรมเนียมแล้ว
การได้ร่วมรับประทานอาหารญี่ปุ่นอย่างเป็นงานเป็นการ
อาจทำให้หลายคนจะออกอาการตื่นเต้นเล็กน้อย
เพราะมีภาพพจน์ของตนเอง
ของบริษัทหรือของประเทศแบกติดไปด้วย
การรู้แนวปฏิบัติบางอย่างจะช่วยให้รับประทานอาหารญี่ปุ่นได้อย่างมีความสุข
นี่คือมารยาทในการรับประทานอาหารญี่ปุ่นที่ควรปฏิบัติ
-
การยกถ้วยหรือชามที่ใส่ข้าวหรือซุปขึ้นเพื่อรับประทาน
ในลักษณะประคองไว้ใต้คาง
ช่วยป้องกันไม่ให้อาหารหกหรือหล่น
ถือว่าเป็นเรื่องสุภาพ
- หากไม่มีช้อนให้
การยกถ้วยซุปขึ้นซดเป็นเรื่องที่ทำได้
ส่วนอาหารแห้งก็ใช้ตะเกียบไป
- อาหารที่ชิ้นใหญ่
ให้ใช้ตะเกียบแยกเป็นชิ้นเล็กๆ ก่อนคีบขึ้นมารับประทาน
หรือคีบขึ้นมากัดแล้ววางส่วนที่เหลือในจานของคุณก็ได้
- ถือว่าเป็นเรื่องปกติมาก
ถ้าคุณจะส่งเสียงดังซู้ดซาดขณะกินอาหารจำพวกบะหมี่ โซบะ
อุด้ง ราเมน
หลายคนเคยบอกว่าลองทำเสียงประกอบดูซิ
แล้วจะรู้สึกว่ามันอร่อยขึ้น
ใครกินแล้วไม่มีเสียงจะกลายเป็นคนผิดปกติไปในญี่ปุ่น
- หากพุ้ยไม่คล่อง คีบไม่เก่ง
วิธีที่ควรใช้ในการกินพวกเส้นๆ ทั้งหลายไม่ให้ลื่นหล่น
คือคีบเส้นใส่ลงในช้อนก่อน แล้วค่อยกินจากช้อน
-
หากไปร่วมรับประทานอาหารกับผู้อื่นแล้วคุณรินเครื่องดื่มให้ตัวเอง
ญี่ปุ่นถือว่าไม่สุภาพ ที่ควรทำคือ
คุณรินให้ผู้อื่นในขณะที่อีกฝ่ายรินให้คุณ
และการทำเสียงดังขณะดื่มเป็นสิ่งที่ถือว่าสุภาพด้วยเช่นกัน
ในกรณีที่คุณไม่ต้องการดื่มอีกแล้ว
ให้ปล่อยแก้วไว้เต็มๆอย่างนั้น
เพราะถ้าดื่มจนแก้วพร่องเมื่อไหร่
ก็จะมีการรินเติมกันต่อไปเรื่อยๆ
การปฏิเสธเมื่อผู้อื่นรินให้ถือว่าไม่สุภาพ
- เวลาสั่งอาหาร อย่าจู้จี้
ไอ้โน่นไม่เอา ไอ้นี่กินไม่เป็น
ไอ้นั่นไม่ชอบ เอานั่นออก โน่นเพิ่ม
คนทำอย่างนี้น่ารังเกียจ
สั่งอาหารมาแล้วหรือเมื่อได้รับการเสริฟแล้ว
ญี่ปุ่นนิยมกินอาหารในจานของตนจนเกลี้ยง
ใครกินทิ้งกินขว้างถือว่าไร้มารยาท อ้อ!
พวกที่พอรับจานข้าวปุ๊บตักน้ำปลาราดปั๊บน่ะ
อย่าได้เทซีอิ้วใส่ลงในชามข้าวเชียว
ไม่สุภาพอีกเหมือนกัน
ซีอิ้วมีไว้ให้จิ้มอาหารเจ้าค่ะ
ดูเหมือนพิธีรีตองมาก แต่ทำจริงๆ
แล้วก็ไม่ได้ยากเย็นอะไร
ถึงเวลาเข้าก็ชำเลืองดูเจ้าของบ้านหรือเจ้าภาพเป็นต้นแบบประกอบซะหน่อย
ก็ไปได้สวย.
ขอบคุณป้าเจี๊ยบสำหรับบทความดี ๆ (เช่นเคย) และอยากแนะนำให้ทุกท่านอ่านนะครับ
ยังมีมารยาทในการใช้ตะเกียบญี่ปุ่นอีกหลายข้อครับ ที่ผมพอจำได้มักเป็นข้อห้าม เช่นห้ามในสิ่งเหล่านี้
ิอย่าเพิ่งเหนื่อยกันนะครับ เพราะส่วนใหญ่ก็เป็ญสามัญสำนึกธรรมดา และค่อนข้างมีเหตุผลทีเดียว
เสาร์นี้จะไปทานอาหารญี่ปุ่นกับครอบครัวครับ!