ขณะนั่งเครื่องบินจากพิษณุโลกเข้ากรุงเทพฯและจากกรุงเทพฯไปหาดใหญ่เมื่อวันที่ 29 มกราคมที่ผ่านมาเพื่อมาเล่าเกี่ยวกับการจัดการความรู้ในเวทีการจัดการความรู้ครั้งที่ 4 ของคณะแพทย์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ในวันที่ 30 มกราคมนี้ ผมได้คิดว่าจะใช้เพาเวอร์พ๊อยท์ชุดไหนในการนำเสนอเพราะจัดทำไว้หลายชุดและพยายามปรับตามเวลาและผู้ฟัง และได้เกิดประเด็นขึ้นในใจว่า เราใช้ KM ทำอะไรได้บ้าง
ถ้าถามว่าเข็มเอาไว้เย็บผ้าหรือเอาไว้ฉีดยา เรือมีไว้พาคนข้ามน้ำ เบ็ดมีไว้ตกปลา จอบมีไว้พรวนดิน เคียวมีไว้เกี่ยวข้าวหรือเกี่ยวหญ้า ฯลฯ แล้ว KM มีไว้ทำไม ที่ถามอย่างนี้เพราะที่ยกตัวอย่างมานั้นถือเป็นเครื่องมือเครื่องใช้ทั้งนั้น จึงบอกได้ว่าเอาไว้ทำอะไร และจริงๆแล้ว KM ก็เป็นเครื่องมือหนึ่ง ก็ย่อมต้องบอกได้ว่า เอาไว้ใช้ทำอะไร ถ้าเอามาเก็บโชว์ไว้ให้มีอยู่เฉยๆก็จะไม่ได้ประโยชน์
ผมเองได้(บังอาจ)ให้นิยามKMหรือการจัดการความรู้ไว้ว่า คือเครื่องมือหรือกระบวนการที่ทำให้องค์การสามารถเก็บรับ สร้างและต่อยอดองค์ความรู้ที่นำมาใช้ในการพัฒนาองค์การให้สามารถทำงานตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าได้อย่างมีคุณภาพ ประสิทธิภาพ และประหยัด เพื่อให้องค์การสามารถอยู่รอดและเติบโตได้โดยสามารถสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันได้ทำให้องค์การสร้างผลงานที่ดีกว่า ถูกกว่า เร็วกว่า โดยอาศัยพลังปัญญาหรือสินทรัพย์ทางปัญญาของคนในองค์การเป็นหลักและสามารถรวบรวมความรู้ที่ใช้ได้เหล่านั้นเอาไว้ให้บุคคลอื่นๆในองค์การได้นำไปใช้ต่อได้ง่ายจนกลายเป็นความฉลาดขององค์การที่แสดงให้เห็นในรูปของสมรรถนะหลักขององค์การที่ต้องใช้คำว่าบังอาจนิยาม เพราะผมเองไม่ใช่นักวิชาการ เป็นคนทำงานเด็กๆคนหนึ่ง ในหน่วยงานเล็กๆแห่งหนึ่งเท่านั้นแต่เขียนนิยามออกมาจากประสบการณ์ของตนเองเพื่อจะได้ใช้นิยามเจ้าตัวKMนี่ให้ชัด จะได้นำมันไปใช้งานได้อย่างถูกต้อง ถ้านิยามไม่ชัดเดี๋ยวจะกลายเป็นเอาเลื่อยไปตอกตะปู หรือเอาค้อนไปเลื่อยไม้ ซึ่งก็ถือว่าเป็นการนำเครื่องมือช่างไม้ไปใช้ทำงานเหมือนกัน แต่ที่ไม่เหมือนกันคือผลงานที่ได้จะไม่ดีเท่ากับที่ใช้เลื่อยเลื่อยไม้และใช้ค้อนตอกตะปู จริงไหมครับ
KM นำไปใช้ได้ทั้งกับหน่วยงาน คนในหน่วยงาน และลูกค้าหรือผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย โดยเราจะนำไปใช้ได้ในกรณีต่อไปนี้
ดิฉันชอบ LKASA Model ของคุณหมอมากคะ เท่าที่ดิฉันได้อ่านงานวิจัยทางด้าน KM มาโดยตลอด ยังไม่เห็นมีนักวิจัยคนใดประยุกต์และนำเสนอโมเดลในลักษณะนี้นะคะ
ดิฉันขอเชียร์ให้คุณหมอส่งตีพิมพ์โมเดลนี้ลงในวารสารวิชาการระดับนานาชาติคะ