เตาเผาถ่านติดเน็ต


     ผมเริ่มเขียนบันทึกนี้เวลาประมาณ 00.45  น. ของวันที่ 19 ตุลาคม 2550 ที่ศาลาหน้าบ้าน ฝนกำลังตกแส็กๆ ตกพรำๆ ตกหนอยๆ อากาศเย็นๆ  กับโน๊ตบุ๊คคู่ชีพกับโทรศัพท์ CDMA ใช้ต่อเน็ต วิทยุ FM ร้ายๆ ผ้าห่ม ผ้าขาวม้าโพกหัว ขลุ่ยอีก 1 เลา   บ้าไปแล้วเหรอ ฝนตกๆ ไม่ยอมหลับยอมนอน

     ประมาณบ่ายสองวันนี้ เอ้ย! เมื่อวานซินี่มันหลังเที่ยงคืนแล้ว ฝนตกลงมาอย่างหนัก นั่นเป็นสัญญานว่าวันนี้ผมจะกรีดยางไม่ได้ งั้นก็เผาถ่านเลยดีกว่า เพราะพ่อกำลังรื้อถ่านที่เผาเมื่อวันก่อนใส่กระสอบอยู่ สี่โมงเย็นเริ่มก่อไฟหน้าเตา ก็แน่นอนว่าอย่างเร็วตีสอง อย่างช้าอาจจะสว่าง การเผาถ่านแต่ละครั้งเอาเวลาแน่นอนไม่ได้ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ก็ไม่เป็นไรลองเผาถ่านกลางคืนซักวันน่าสนุกดี ถึงสว่างก็ไม่เป็นไร ตอนเป็นลูกจ้างเขาทำงานให้เขาสว่างมาเยอะแล้วนี่ ทำงานของตัวเองให้สว่างบ้างจะเป็นไรไป 

    พอเริ่มค่ำก็ขนอุปกรณ์จำเป็นทุกอย่างดังที่ได้กล่าวมาในย่อหน้าแรกมาไว้ที่ศาลาหน้าบ้าน เพราะศาลาอยู่ใกล้เตาเผาถ่านขี้เกียจเดินเข้าเดินออกในบ้าน เผาถ่านไปก็เขียนบล๊อกไปก็บล๊อกเรื่องกรมพัฒนาที่ดินนี่แหละครับ เขียนไม่ทันเสร็จได้ยินเพลง ไม่ใช่แฟนแทนกันไม่ได้อีกแล้ว วันนี้ได้ยินมาหลายรอบแล้ว ลองค้นดูใน ijigg ดูปรากฎว่าเจอ เลยหยุดการเขียนบล๊อกเรื่องกรมพัฒนาที่ดินไว้ก่อน มาเขียนเรื่อง ไม่ใช่แฟนแทนกันไม่ได้ก่อน เขียนบล๊อกไปก็คุย M กับเม้งไปเรื่อยเปื่อยหยอกล้อกันบ้างตามประสาคนหยอกกันได้ อย่างน้อยคืนนี้มีเม้งอยู่เป็นเพื่อน 

   ใกล้เที่ยงคืนมีคนมาทักน้องที่อยู่จังหวัดพัทลุง เลยคุยกันเสียงในฟิล์ม

(23:59:14) *help mrGilL, *help Newbie Admin: ยังไม่นอนเห้อพี่
(00:01:17) sothorn.org: เผาถ่านน้องเห้อ
(00:01:26) sothorn.org: สงสัยอีไม่ได้นอนคืนนี้
(00:01:33) *help mrGilL, *help Newbie Admin: แหม
(00:01:39) *help mrGilL, *help Newbie Admin: เตาถ่านติดเน็ต
(00:01:42) *help mrGilL, *help Newbie Admin: ทันสมัยจริงๆ

นี่แหละครับที่มาของเตาเผาถ่านติดเน็ต เมื่อได้ชื่อเรื่องที่จะเล่าแล้ว ก็ต้องรีบปั่นบันทึกเรื่องเกี่ยวกับกรมพัฒนาที่ดินให้เสร็จ ก็จะได้ต่อเรื่องนี้เลย เขียนๆ เรื่องนี้อยู่ก็หิวครับหาของในตู้เย็นมีไข่ไก่อยู่เสร็จผมครับ ไข่ไก่หมก โชคร้ายหน่อยมีฟองเดียวเลยไม่เหลือเผื่อครูอ้อยครู Gutjang

    เผาถ่านไป เล่นเน็ตไป ฟังเพลงลูกทุ่งจากวิทยุร้ายๆ ฟังเพลงจากคอมพิวเตอร์บ้าง ฟังเสียงฝนตก จิบน้ำอุ่นๆ หยิบขลุ่ยมาเป่าบ้าง หิวก็กินไข่ไก่หมก ความสุขที่ไหนจะปาน 


โน๊ดบุ๊คคู่ชีพ


หน้าเตาเผาถ่าน


ไข่ไก่หมก

     เอาความสุขมาแบ่งปันยามดึกครับ เขียนบันทึกนี้เสร็จตอนตีสองครึ่งพอดี เผาถ่านยังไม่เสร็จเลยครับ

ปล. บันทึกนี้มีคำภาษาใต้ปะปนอยู่หากไม่เข้าใจถามได้ครับ

หมายเลขบันทึก: 139954เขียนเมื่อ 19 ตุลาคม 2007 02:25 น. ()แก้ไขเมื่อ 20 มิถุนายน 2012 14:19 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (20)

สวัสดีครับโส

        ชื่อเรื่องกินขาดเลยครับ เตาถ่านติดเน็ต แถมหมกไข่ไก่ก็ได้ ได้น้ำส้มควันไม้ เป่าขลุ่ยก็ได้ มีหนังสือให้อ่าน วุ้ย... ไม่ต้องกลัวยุงเลยใช่ไหมครับ

        ไข่ไก่ต้องเป็นไข่ไก่เน่านะครับ ถึงจะสุดๆ ครับ แล้วต้องห่อใบกระท้อนด้วยนะครับ แล้วหมก จากนั้นก็เตรียมตัวนับเสียงดังระเบิด พลุ๊กๆ เท่าจำนวนระเบิดที่ฝังไว้ พอระเบิดแล้วทิ้งไว้ซักระยะหนึ่งก็ไปเก็บศพได้เลยครับ ห้าๆๆ จะได้ไข่ไก่กลิ่นหอมฉุยเลยหล่ะครับ  ว่าแล้วก้าบ้านๆ จังบ่าวนี้

        หม๊กหัวมันก้าหรอยดีครับ มันทุกชนิดครับ หรือถ้าให้ดี ต้มถั่วใต้ดิน(ถั่วลิสง) ครับ เฝ้าไป เน็ตไป ปอกถั่วใส่ปากไปครับ ครบเครื่องจริงครับ

        เข้าท่าจริงๆ นะครับ

ขอบคุณมากครับ
 

ชีวิตก็คงแบบนี้ถึงจะมันส์ ผสม ปนเป ความสุขตามใจ และที่สำคัญ "อิสระ"ดี

ว่างๆมาเที่ยวบ้านผมนะ จะได้สนทนากัน รอ เม้งกลับมาครับ มาด้วยกัน

 

  • ตื่นเช้ามานั่งจาม...เอ๊...ต้องมีใครพูดถึงเราแน่เลย....คุณโสนี่เอง...อิอิ
  • เมื่อวานครูกั๊ตจังเข้าป่าช้าค่ะ....ไปเก็บมะคำดีควาย...ได้เห็ดมาถ้วยนึง...ยกมากินกับไข่หมกค่ะ......

อ้อ...สวัสดีคุณ  เม้ง และคุณ  จตุพร ด้วยค่ะ

สวัสดีครับ เม้ง​

  • ขอบคุณครับที่อยู่เป็นเพื่อนเผาถ่าน

สวัสดีครับคุณ จตุพร​

  • ปีหน้าถ้าไม่มีอะไรผิดแผน ก็จะไปปายคงได้เจอกันครับ ส่วนเม้งก็รอๆอยู่ครับ เห็นว่าภายในปีนี้
สวัสดีครับอาจารย์ Gutjang
  • อิจฉาเด็กๆ ที่โรงเรียนอาจารย์ครับ ได้ความรู้เรื่องเกษตรอินทรีย์เพียบ
  • เข้าป่าช้าเลยเหรอครับ เจอ แบบว่ามั๊ยคัรบ

คุณโส ค่ะ

คือว่า จะเป็นอะไรไหมค่ะ ถ้าดิฉันจะถามว่าเผ่าถ่าน นี่ทำยังไง เพราะก็ไม่เคยรู้รายละเอียดมาก่อน

ขอบคุณค่ะ :)

สวัสดีครับ คุณ มะปรางเปรี้ยว

  • เงียบหายไปนานเลยนะครับ สบายดีนะครับ
  • การเผาถ่าน คือ การเอาต้นไม้ กิ่งไม้ หรืออื่นๆทีเผาได้ มาทำให้เป็นถ่านด้วยการเผา ไม้ที่เป็นถ่านแล้วจะให้ความร้อนดีกว่า ไม้ที่ยังไม่เผา การเผาก็มี 2 แบบคือเผาตรงๆ เลยวิธีนี้คุณภาพถ่านจะไม่ดี กับอีกวิธีคือ ใช้ความ​ร้อนไล่​ความ​ชื้น​ใน​เนื้อไม้ ​ที่มี​อยู่​ใน​เตา​ ​ทำ​ให้​ไม้กลาย​เป็น​ถ่าน​ ​หรือ​เรียกว่า​ กระบวนการคาร์บอนไนเซชั่น ได้ถ่านคุณภาพดีกว่าแบบแรก ซึ่งต้องใช้เตาเผาแบบที่ผมเคยเขียนเอาไว้ประมวลภาพ​ ​ขั้นตอนการทำ​เตา​เผาถ่าน​ด้วย​ถังน้ำ​มัน​ 200 ​ลิตรแบบนอน เตาเผาถ่านมีหลายแบบครับอันนี่แค่แบบเดียว
  • ในการเผาผมต้องคอยใส่ไม้ฟืนที่หน้าเตา ทุกครึ่งชั่วโมงผมก็ต้องไปขยับ หรือเพิ่มไม้ฟืนที่หน้าเตา ก็เลยต้องเฝ้ามันทั้งคืนอย่างที่เขียนในบล๊อกนี้ครับ
  • ผมอธิบายพอจะเข้าใจมั๊ยครับ ถ้าไม่เข้าใจถามใหม่ได้ครับ ยินดีตอบครับ

ขอบคุณ คุณโส มากค่ะ

อ่านดูแล้วก็พอจะนึกภาพออกค่ะ

ตามไปดูภาพขั้นตอนการทำแล้วนะค่ะ :)

ขอบคุณค่ะ

  • สวัสดีครับ
  • แค่อ่านก็เห็นภาพแล้วครับ ว่าความสุขที่แท้จริงเป็นอย่างไร
  • อยู่กับสิ่งที่ชอบ ชอบในสิ่งที่ทำ

อ่านแล้วมีความสุขไปด้วยค่ะ ความสุขที่มาจากการมีเพื่อน มีเวลาเป็นของตัวเอง ค่อยๆทำค้นคว้าทดลองสร้างความรู้มาใช้กับชีวิตจริง เป็นอิสระ แถมทานไข่หมกไฟเคล้าเสียงฝนตก ความสุขอยู่ที่ลมหายใจนั้นเลยค่ะ

ใกล้บ้านยังมีป้าแก่ๆเผาถ่านใช้ และขายด้วยทำไม่ใหญ่โตแต่เป็นระเบียบมากเลยค่ะ

สวัสดีค่ะ  ...

  • แมลงวันไปบอกว่า..แถวนี้  มีไข่หมกอร่อย  ..ครูอ้อยเลยรีบเกาะปีกแมลงวันตัวนั้นกลับมา
  • แหมมีฟองเดียว..อิอิ..เลยต้องกลับไปกินไข่ที่บ้านตัวเอง
  • เลยไม่รู้เลยว่า...ไข่ไก่ที่ไหน..อร่อยกว่ากันสักที..
  • เฮ้อ...ขอบคุณที่คิดถึงค่ะ
  • วัสดีครับ  โสทร
  • นอนนึกจัง
  • แต่ได้บรรยากาศ มีเพื่อนคุย
  • ทำงานไปด้วย มีความสูขใจ
  • ถ่านไม้สวยดีไหมครับ
  • ขอบคุณมาก 
ไม่ได้ละต้องเอาไปจด ลิขสิทธิ์ "เตาถ่านติดเน็ต" อิอิ อย่างนี้ต้องฟ้องๆ หุหุ

สวัสดีครับ สุดทางบูรพา

  • อยู่​กับ​สิ่งที่ชอบ​ ​ชอบ​ใน​สิ่งที่ทำ เป็นประโยคที่กินใจ
  • ขอบคุณครับ

สวัสดีครับ  คุณนายดอกเตอร์

  • เผาถ่านขายจริงๆ ผมว่ามีคนต้องการใช้ถ่านเยอะครับ เผาเท่าไหร่ก็ไม่พอ

สวัสดีครับ ครูอ้อย

  • ที่แน่ๆ ไข่ไก่หมก อร่อยกว่าไข่ไก่ต้มครับครูอ้อย
สวัสดีครับพี่ เกษตรยะลา
  • ถ่าที่เผาล่าสุดนี้ไม่สวยเท่าไหร่ครับ สุกมากไป เพราะตั้งนาฬิกาปลุกไม่พอดีเวลา

สวัสดีน้องกิว

  • วันนั้นขออนุญาตใช้ชื่อนี้กันแล้วนา :)

สวัสดีเจ้า

เราเพิ่งกลับมาจากเชียงใหม่เจ้า

โสทรเผาถ่านติดเน็ตไปแล้ว เราตามไม่ทันเลย...

ไปฝึกสติมาทำสวนต่อ  เพื่อให้เป็นสวนแห่งสติที่สมบูรณ์จ๊ะ

 

สวัสดีคะ...

ขอแบ่งปันความสุขยามดึกด้วยคนนะคะ

---^.^---

 

             เอามาฝากค้าบ ... เหมาะกับคุณโส มากๆๆ

 เส้นทางเศรษฐี

นิธิ เอียวศรีวงศ์  มติชนสุดสัปดาห์  วันที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2546 ปีที่ 24 ฉบับที่ 1215

หน้า 39

เรากำลังอยู่ในยุคสมัยที่แนวคิดเกี่ยวกับทุนกำลังเปลี่ยน และเพราะแนวคิดเกี่ยวกับทุนเปลี่ยน แนวคิดเกี่ยวกับงานและคุณธรรมที่เกี่ยวกับงานทั้งหมดก็กำลังเปลี่ยนไปด้วย

ก่อนที่จะเข้าสู่เศรษฐกิจแบบเงินตราเต็มตัว ทุนหมายถึงการสร้างผลิตภาพจากทรัพยากรธรรมชาติ เช่น จับปลา, เบิกป่า, ทำนา, หรือตัดจากขาย ฯลฯ

ทรัพย์จึงเกิดจากแรงกายเป็นส่วนใหญ่ และด้วยเหตุดังนั้น ความขยันหมั่นเพียรจึงหมายถึงการหมั่นใช้แรงกายเพื่อสร้างทรัพย์

ความรวยหรือความสมบูรณ์ทางเศรษฐกิจในชีวิต หมายถึงความมั่นคงด้านอาหาร, (มีข้าวเต็มยุ้ง) ด้านสังคม (คือได้การยอมรับและมีความสัมพันธ์ที่ดีกับคนอื่น), และด้านจิตใจ (มีความสุขความพอใจในชีวิต)

คุณธรรมของเศรษฐีที่นอกเหนือจากความขยันหมั่นเพียร จึงมีความหมายถึงการรู้จักประหยัด, อดออม, ไม่กินเหล้าเมายาและไม่ติดการพนัน แต่ก็เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ และทำบุญสุนทาน เข้าวัดเข้าวา

ทุนจึงไม่ใช่เงินตรา แต่เอาเข้าจริงแล้วหมายถึงคุณธรรมที่จะกำกับการใช้แรงกายไปในทางที่จะก่อให้เกิดทรัพย์อย่างยั่งยืนดังกล่าวต่างหาก

จนเมื่อแม้เศรษฐกิจเปลี่ยนเข้าสู่ระบบเงินตรามากแล้ว ผมคิดว่าทุนก็ยังไม่ใช่เงินตรา อย่างน้อยก็ไม่ใช่เงินตราเพียงอย่างเดียว ถ้าลองย้อนกลับไปดูประวัติของเศรษฐีรุ่นเก่าๆ ของไทย (ซึ่งส่วนใหญ่เป็นจีนหรือเชื้อจีน) ก็จะพบ "นิทาน" เรื่องเดียวกัน ได้แก่ ความขยันหมั่นเพียร, อดออม และมีน้ำใจต่อคนรอบข้าง จนเกิดเป็นเส้นสายเครือข่ายสำหรับทำธุรกิจของตัว

ส่วนทุนที่เป็นเงินตราก็ได้มาจากความขยันหมั่นเพียรและอดออมของตัว รวมกับการระดมทุนจากญาติพี่น้อง

จะมีอะไรที่เพิ่มเติมเข้ามาก็เห็นจะได้แก่สิ่งที่เรียกให้ฟังดูขลังๆ ได้ว่า "ญาณทัศนะ" หรือการมองเห็นโอกาสใหม่ๆ ทางธุรกิจ เช่น ทำโรงสีแข่งกับฝรั่ง, เดินเรือขนข้าวไปเมืองจีน ฯลฯ เป็นต้น เพราะมองออกว่าตลาดข้าวไทยในต่างประเทศนั้นจะขยายตัวต่อไปอีกนาน ถ้าพูดภาษาสมัยปัจจุบันก็คือ เศรษฐีเหล่านั้น "อ่านเกมออก"

แต่การ "อ่านเกมออก" ไม่ใช่คุณสมบัติสำคัญเพียงอย่างเดียว ถึงอย่างไรก็ต้องมีคุณธรรมเศรษฐีดังที่กล่าวแล้วควบคู่ไปด้วยเสมอ

ผมอาจพูดอะไรให้ฟังดูดีเกินจริงไปหน่อย เพราะในความจริงแล้ว พ่อค้าเศรษฐีเหล่านี้ก็เอาเปรียบผู้ผลิตและผู้บริโภคของตัวเท่าที่จะไม่เป็นอันตรายต่อธุรกิจของตัวอย่างแน่นอน

แม้กระนั้นก็ยังถือกันว่าคุณธรรมของเศรษฐีดังที่กล่าวแล้วมีความสำคัญมากกว่า

ผมเข้าใจว่าลักษณะอย่างที่ผมกล่าวนี้ไม่ได้มีเฉพาะในเมืองไทย แต่ถือกันทั่วไปในโลกทุนนิยมว่า ความขยันหมั่นเพียร, อดออม และชื่อสัตย์ (อย่างน้อยก็ดูเหมือนซื่อสัตย์) เป็นคุณธรรมสำคัญสำหรับการเป็นเศรษฐี

"นิทาน" ประชาธิปไตยของอเมริกันในศตวรรษที่แล้วจะชี้เศรษฐีเหล่านี้ออกมาสักหนึ่งโหล เพื่อจะบอกว่าที่นี่ให้โอกาสอันเท่าเทียมกันแก่ทุกคน ดูเด็กจนๆ เหล่านี้สิ บัดนี้เขาคือใคร

ฉะนั้น ไม่แต่เฉพาะยุคสมัยที่ทรัพย์ย่อมมาจากแรงกายเพียงอย่างเดียว แม้ในยุคหลังจากนั้นซึ่งทรัพย์คือหุ้นและบัญชีเงินฝากในธนาคารแล้ว คุณธรรมเศรษฐีก็ยังไม่เปลี่ยนแปลงมากนัก แปลว่าทุนที่แท้จริงไม่ใช่เงินตรา หรืออย่างน้อยก็ไม่ใช่เงินตราเพียงอย่างเดียว แต่หมายถึงคุณธรรมบางอย่างที่จำเป็นสำหรับเจ้าของเงินตราด้วย

คนอายุรุ่นผม เมื่อได้ยินท่านนายกฯ พูดว่า คนเราไม่เป็นหนี้ก็ไม่รวย จึงฟังทะแม่งหูพิลึก เพราะเราถูกสอนมาว่าเงินตราเป็นเพียงเครื่องมือเพื่อรับใช้คุณธรรมบางอย่างสำหรับสร้างตัวเป็นเศรษฐี มีแต่เงินตราหากไร้คุณธรรมอย่างนั้นก็ไม่มีโอกาสเป็นเศรษฐี

เล่นหวย เล่นพนันบอลยิ่งไปกันใหญ่ เพราะเฮงที่สุดก็ได้มาแต่เงินตรา ไม่สามารถสร้างเนื้อสร้างตัวขึ้นมาได้

แต่คนแก่ขนาดผม มีชีวิตในโลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วย่อมขาดความเชื่อมั่นในตัวเองไปหมด ไม่แน่ใจว่าอะไรที่เรายึดถือนั้นมันไม่เหมาะกับกาลสมัยเสียแล้วกระมัง ยิ่งอยู่ภายใต้นายกรัฐมนตรีอย่าง คุณทักษิณ ชินวัตร ก็ยิ่งแย่ลงไปใหญ่ เพราะท่านทำให้คนไทยทั่วไปเชื่อเสียแล้วว่า ความคิดอะไรที่ไม่ตรงกับท่านย่อมเป็นเศษเดนจากยุคอะนาล็อกทั้งหมด

แล้วกูจะได้ดิจิเติลกับเขาได้ไหมเนี่ย

อย่างไรก็ตาม ผมจึงเอาประวัติเศรษฐีรุ่นใหม่ ทั้งไทยทั้งเทศออกมาอ่านหลายคนด้วยกัน แล้วพบว่า เออ จริงนั่นแหละ ผู้เขียนประวัติคนเหล่านี้ไม่ได้เน้นย้ำคุณธรรมเศรษฐีที่ผมและคนรุ่นผมคุ้นเคยอีกแล้ว

คุณธรรมใหม่คือ "อ่านเกมออก," กล้าได้กล้าเสีย, มีวิสัยทัศน์ซึ่งแปลตามหนังสือประวัติเหล่านี้ก็คือ อ่านออกว่าความเปลี่ยนแปลงของโลกปัจจุบันจะทำให้เกิดตลาดอะไร, ลดต้นทุนได้อย่างไร, ขยายและรักษาตลาดได้อย่างไร, ระดมทุนได้ในต้นทุนต่ำสุดได้อย่างไร ฯลฯ

"อ่านเกมออก" นี่แหละครับ ดูเหมือนจะเป็นคุณธรรมเศรษฐีรุ่นใหม่ที่สำคัญที่สุด เพราะจะสามารถเอาทุนที่เป็นเงินตราไปต่อทุนที่เป็นเงินตราต่อไปได้ไม่สิ้นสุด ในขณะที่ความขยันหมั่นเพียรโดยเฉพาะที่อาศัยแรงกาย หรือการประหยัดอดออมแทบจะไม่เป็นคุณธรรมที่ประวัติเศรษฐีรุ่นใหม่ให้ความยกย่องเอาเสียเลย

และทุนย่อมหมายถึงเงินตราเพียงอย่างเดียว จะได้มาโดยไปกู้เขาหรือปั๊มหุ้นขายอย่างไรก็ตามที แต่ต้องมีทุนเป็นเงินตราเสียก่อนจึงสามารถเป็นเศรษฐีได้

ก็อย่างที่ผมพูดไว้แล้วแต่แรกนะครับว่า เมื่อแนวคิดเกี่ยวกับทุนเปลี่ยน แนวคิดเกี่ยวกับงานและคุณธรรมที่เกี่ยวกับงานก็เปลี่ยนไปด้วย

งานคือการรู้ข้อมูลอย่างกว้างขวาง แล้วมองหาจนเจอช่องที่จะทำหรือเพิ่มกำไรในกิจการของตัว หรืออ่านเกมให้ออกนั่นเอง

ความสามารถอย่างนี้ต้องใช้คุณธรรมอะไรบ้างดูเหมือนไม่ค่อยชัดนัก หรือพูดอีกอย่างหนึ่งก็คือ ยังไม่มีใครสามารถเขียนแผนที่ของเส้นทางเศรษฐีสมัยใหม่นี้ได้ เพียงแต่เส้นทางเก่าที่เศรษฐีรุ่นเก่าเคยเดินๆ กันมานั้นใช้ไม่ได้แล้วแน่นอน

อย่างไรก็ตาม ถ้าเราดูความจริงนอกประวัติของเศรษฐีรุ่นใหม่ ผมก็ไม่ทราบหรอกครับว่า เส้นทางเศรษฐีแบบเก่านั้นล้าสมัยไปหมดแล้วจริงหรือไม่ ยังมีใครที่เป็นเศรษฐีขึ้นมาได้จากคุณธรรมแบบเก่าอีกหรือไม่

แต่ในขณะเดียวกัน ผมก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าเศรษฐีรุ่นใหม่เหล่านี้อาศัยแต่การ "อ่านเกมออก" เพียงอย่างเดียวจึงกลายเป็นเศรษฐีไปได้ เพราะจำนวนไม่น้อยของเศรษฐีเหล่านี้มีอะไรที่มัวหมองไม่มากก็น้อย ปนๆ อยู่ในประวัติเกือบทั้งนั้น

หลายคนยังมีคดีติดตัวค้างอยู่ที่ศาล บางคนก็อาศัยอำนาจการเมืองที่คุมเสียงข้างมากในสภาออกกฎหมายให้ระงับคดีจนกว่าตัวจะพ้นจากตำแหน่งทางการเมือง, บางคนก็สู้คดียืดเยื้อเกี่ยวกับการค้าที่ไม่เป็นธรรมอยู่ไม่ได้เลิก, บางคนก็ถูกกล่าวหาว่าเป็นปีศาจการเงินที่อาศัยช่องโหว่ของการค้าเงินเอาเปรียบคนอื่น

และอีกหลายคนก็ประสบความสำเร็จจากธุรกิจสัมปทานในประเทศที่ไม่มีความโปร่งใสในเรื่องการให้สัมปทาน โดยเฉพาะในเอเชียและละตินอเมริกา อีกหลายคนรวยขึ้นมาจากผูกขาดในทางปฏิบัติเป็นเวลานาน เพราะอุดหนุนทางการเงินแก่เผด็จการ

ผมจึงไม่แน่ใจว่าในการค้าที่แฟร์จริงๆ แค่ "อ่านเกมออก" จะเป็นคุณธรรมนำไปสู่ความมั่งคั่งล้นเหลือได้จริงหรือไม่ แต่ก็ไม่แน่ใจด้วยว่า คุณธรรมเก่าๆ สำหรับเป็นเศรษฐีนั้นยังใช้ได้ในโลกปัจจุบันหรือไม่

เลยไม่รู้จะแนะนำคนที่อยากเป็นเศรษฐีว่าอย่างไร ทั้งๆ ที่คนรุ่นหนุ่มสาวในปัจจุบันดูอยากเป็นเศรษฐีกันทุกคน ไม่ค่อยเคยเห็นใครที่อยากเป็นคนธรรมดาบ้าง

 

 

ยินดีครับ ที่พวกเราอยู่ในกลุ่มชอบศึกษา ผมก็กำลังศึกษาอยู่เหมือนกัน

ได้ทดลองไปแล้วบ้าง แต่ก็ยังไม่ดีพอ เป็นเพราะน้ำฝนเข้าไปขังไว้ในถัง

ทำให้มีความชื่นภายในเตาสูง แต่ก็กำลังแก้ไข เมื่อมีฝนตกจะต้องปิดปากท่อ

ควันให้มิดชิด

ณัฐ

ขอบคุณสำหรับเรื่องราวดีๆครับ

ทำให้เห็นความสุขของชีวิตพอเพียงได้ดีทีเดียวเลยครับ

แจ๋วมากเลยเตาเผาแบบเปิดหลัง เป็นอีกทางเลือกหนึ่ง

และขอขอบใจในความเอื้อเฝื้อ เมื่อคิดอะไรได้ใหม่ๆ ก็แบ่งปัน

sawit_khaengkhan

RAYONG MAPTAPHUT

ลุงเข่ง บ้านฟากเซ

ฮ้วย...ต้มลาวดอกนี่ ข่อยละงึด555

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท